ยังเล่นบทตบจูบกันทุกองคาพยพ ไม่ว่าใครจะมาไม้ไหน อีกฝ่ายก็จะตอกกลับทุกดอกเพื่อเอาคืนเรียกว่าไม่มีใครยอมใครเพราะนี่คือเกมการเมืองที่ไม่มีวันเลิกลาล่าสุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คู่แข่ง บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งต่อไปแม้ “เสี่ยหนู-อิ๊งค์” ดูจะรักใคร่กลมเกลียวสนิทสนมกันเป็นอย่างดี แต่ในทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งวันนี้ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีแบ็กอัปดีกว่าแต่ “อนุทิน” ก็ไม่ธรรมดามี “ครูใหญ่” แห่งบุรีรัมย์เป็นกุนซือสำคัญที่พร้อมจะส่งแผนเพื่อให้เขาก้าวขึ้นไปสู่ความสำเร็จทางการเมืองได้“เสี่ยหนู” เผยความในใจล่าสุดหากจะเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องมีเสียงสนับสนุนเป็นที่ 1 เพื่อความสง่างามและไม่เป็นเบี้ยล่างใครจึงไม่แปลกที่เขาไม่ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ เพราะมีเสียงสนับสนุนน้อยกว่า “เพื่อไทย”ที่สำคัญเขารู้สึกว่าถ้าเป็นก็ต้องเป็นเบี้ยล่างของ “ทักษิณ” ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเพราะถูกควบคุมและสั่งการทั้งหมดแม้ไม่ได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในรัฐบาลก็ตามแต่ทำตัวยิ่งกว่านายกรัฐมนตรีเสียอีก!นี่ถ้า “ทักษิณ” ยังไม่กลับเมืองไทยเขาน่าจะสบายใจมากกว่าที่ได้ทำงานกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีผู้มีอำนาจเต็มดังนั้น การเป็นผู้นำประเทศของเขาจึงต้องทำให้ “ภูมิใจไทย” เป็นพรรคอันดับ 1 สามารถคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ไม่ต้องมี “ทักษิณ” มาเป็น “จอมบงการ” อย่างนี้แน่นอนว่าถ้าเขาชนะเลือกตั้งก็ต้องยืนเบอร์ 1 อย่างเต็มตัว และคงไม่ต้องการร่วมงานกับ “เพื่อไทย” ซึ่งมี “ทักษิณ” เป็นผู้ควบคุมทุกอย่างจึงไม่แปลกที่ “เสี่ยหนู” บอกว่าเขาพร้อมจะร่วมงานกับพรรค “ประชาชน”ทำไม “นํ้าเงิน” จะเป็นรัฐบาลร่วมกับ “ส้ม” ไม่ได้!เป็นท่าทีที่เขาแสดงให้ปรากฏต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก เพราะต่างก็ทราบดีว่า 2 พรรคนี้มี “อุดมการณ์” ทางการเมืองที่ต่างกัน“นํ้าเงิน” ยึดมั่นสถาบันอย่างเต็มตัว“ส้ม” ยังเป็นที่กังขาในท่าทีที่แสดงออกอย่าง ม.112แต่ถ้าหากร่วมกันก็คงจะต้องเจรจาเพื่อปรับจูนแนวคิดคือจะไม่มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันมาเป็นข้อตกลงร่วมคือคิดอย่างไรเก็บเอาไว้ในใจซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก!อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไปทำให้ “แดง” กับ “ส้ม” ที่เคยคิดว่าเป็นแนวร่วมกันได้เริ่มกลายเป็นศัตรูทาง การเมืองมากขึ้นเรื่อยๆเพราะ “ทักษิณ” เข้ามามีบทบาทใน “เพื่อไทย” ทุกมิตินอกจากนั้น ยังมีข่าวว่า ผู้นำจิตวิญญาณของ “นํ้าเงิน” และ “ส้ม” ได้มีการพบปะพูดคุยกันและสามารถเชื่อมต่อกันได้จึงไม่แปลกที่ “อนุทิน” ถึงกล้าแสดงท่าทีทางการเมืองอย่างแจ่มชัดขึ้นอีกมุมหนึ่งก็ทำให้ “ทักษิณ” ต้องคิดหนักไม่น้อยที่ “เพื่อไทย” จะกอดกลมเกลียวกับ “กล้าธรรม” เป็นพันธมิตรทางการเมืองไฉน “นํ้าเงิน” กับ “ส้ม” จะเป็นพันธมิตรการเมืองกันไม่ได้นี่ก็เป็นอีกฉากทัศน์ที่จะบอกว่า “กูก็ไม่สนมึง”!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม