อริราชศัตรูจ่อประชิดรั้วบ้านรอบด้านทุกทิศทางแนวรบด้านตะวันตกมีความเคลื่อนไหวทะแม่งๆ เรดาร์จับสัญญาณอากาศยานลึกลับ ตรวจพบเครื่องบินรบ “เมดอินไชน่า” ของกองทัพเมียนมา บินโฉบ ป้วนเปี้ยนน่านฟ้าไทย ชายแดน จ.กาญจนบุรี และ จ.ตาก ถี่ๆกระตุกกองทัพอากาศไทยต้องส่ง F–16 ขึ้นไปตามประกบ 2–3 รอบติดต่อกันไม่ใช่โดรนสำรวจจัดทำแผนที่ของ ทบ. อย่างที่เป็นข่าวโอละพ่อท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบต่อเนื่องของกองทัพทหารหม่องกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ไม่รู้ใครเป็นใคร สภาพชนกลุ่มน้อยที่นัวเนียกับแก๊งจีนแดง-จีนเทา ป่วนแนวรบด้านตะวันตก ชายแดนด้านเมียนมา อยู่ในภาวะระทึกแต่แนวรบด้านตะวันออกเปิดศึกตะลุมบอนกันแล้ว แว่วเสียงปืนแตกชายแดนไทย-กัมพูชาจากการปะทะของทหารไทยกับกองกำลังเขมรที่จุด “ช่องบก”เหตุเกิดในพื้นที่ทับซ้อนชายแดนด้านจังหวัดอุบล ราชธานี จากสถานการณ์ที่ทหารกัมพูชาลอบขุด “คูเรด” หรือทำร่องกำบังตามยุทธวิธีทางทหาร ยาวกว่า 650 เมตร ล่วงล้ำในพื้นที่ทับซ้อน หมิ่นเหม่ละเมิด MOU2543จุดชนวนให้ทหารทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนใส่กัน ผลคือทหารเขมรเสียชีวิต 1 นาย ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะสั่งหยุดยิง เพื่อรอให้หน่วยเหนือเปิดการเจรจาถอยออกจากจุดปะทะคนละ 200 เมตร คุมเชิงตามยุทธศาสตร์พร้อมกับการให้สัมภาษณ์ของผู้นำ 2 ประเทศ ฝั่งไทย “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันระดับผู้นำคุยกันรู้เรื่อง มั่นใจสถานการณ์คลี่คลายได้ ในขณะที่ “ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชา ก็ระบุว่า เขมรไม่อยากสู้รบ พร้อมเจรจาในระดับฝ่ายบริหารการเมืองแสดงท่าที “หย่าศึก”แต่ในอารมณ์พิลึกพิลั่น ตัวพ่ออย่าง “ฮุน เซน” ผู้นำสูงสุดของฝ่ายกัมพูชา ที่ “ตีสองหน้า” ด้านหนึ่งแสดงไมตรีขอเจรจา แต่อีกทางก็โชว์บทห้าว แข็งกร้าวประณามกองทัพไทย พร้อมประกาศหนุนกองทัพเขมรที่แน่ๆทั้งพ่อทั้งลูก “ตระกูลฮุน” ต่างช่วยกันเคลม ประสานเสียงยืนยันจุดปะทะช่องบกเป็นเขตแดนกัมพูชา เป็นฝ่ายทหารไทยที่รุกล้ำอธิปไตยสไตล์เจ้าเล่ห์ ลูกหลาน “พระยาละแวก” ไว้วางใจไม่ได้และก็วางใจได้ เมื่อกองทัพไทยได้ส่งสัญญาณขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารผ่านศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกองทัพภาคที่ 2 หรือส่วนราชการด้านความมั่นคงที่น่าเชื่อถือ เพื่อรับทราบข่าวสารที่ถูกต้องขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารว่าจะปกป้องการลุกล้ำเข้ามาเขตดินแดนไทยอย่างเต็มที่ และตอบโต้ตามกรอบที่ควรปฏิบัติ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยของชาติและความสุขของประ ชาชนไทยตามแนวชายแดนกองทัพยึดแบบแผน ไม่อิงตามเหลี่ยมเล่ห์การเมืองไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ “ตระกูลชินวัตร” กับ “ตระกูลฮุน” มีสายสัมพันธ์พิเศษระดับซุปเปอร์คอนเนกชัน คบกันฉันพี่น้องญาติสนิทอะไรที่ผิดไปจากหลักการรักษาอธิปไตย กองทัพไทยฮึ่ม ไม่ยอมแน่และจังหวะปะเหมาะเคราะห์ไม่ดี กระสุนปืนแตกชายแดนกัมพูชาดันตูมตามขึ้นมาในสภาพพอดิบพอดี “หักมุม” ย้อนแย้งกับคิวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคนพ่อ กำลังโชว์ฟอร์ม “ขาใหญ่อาเซียน”ผู้มีอิทธิพลต่อการเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามที่พรรคเพื่อไทยเพิ่งตีปี๊บ “นายใหญ่” ได้รับคำชื่นชมจากนายกฯอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ว่าสถานะ “กุนซือประธานอาเซียน” มีส่วนช่วยเคลียร์ความขัดแย้งในเมียนมาได้เยอะเลยแต่คำชื่นชมยังเพิ่งหยกๆ ก็ขัดกับภาพปรากฏตรงหน้าขนาดชายแดนเขมรที่ว่าแนบแน่นดุจญาติมิตร ยังเจอฤทธิ์เดชของ “ตระกูลฮุน” ป่วนดินแดนอธิปไตย นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงแนวรบด้านตะวันตกต่อเนื่องถึงภาคเหนือ เขตชายแดนเมียนมาที่หมกไว้ด้วยปมปัญหาโดยเฉพาะโจทย์ร้ายแรงเร่งด่วนสารปนเปื้อน ปรอท ตะกั่ว จากการทำเหมืองแร่ของกลุ่มทุนจีนแดง จีนเทา ในเขตพื้นที่อิทธิพลของชนกลุ่มน้อย “ว้าแดง” ทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย กลายเป็นพิษอย่าว่าแต่บริโภค แม้แต่การลงไปสัมผัสน้ำยังเป็นแผล เสี่ยงมะเร็งเพิ่มโจทย์ร้ายแรงจากยาบ้า มาเป็นสารพิษในแม่น้ำ “ว้าแดง” ภายใต้อิทธิพลจีนแดง–จีนเทา กำลังกลายเป็นหนามทิ่มแทงประเทศไทย ไม่นับไฟใต้ ชายแดนมาเลเซียที่กลับมาปะทุรอบใหม่ เป็นสัญลักษณ์ไม่ยอมรับคำขอโทษ “ทักษิณ” ในโศกนาฏ กรรมตากใบเหนือ ใต้ ตะวันตก ตะวันออก “ศึกนอก” ท้าทาย “นายกฯคนพ่อ”ปมสถานการณ์ร้อนกับเพื่อนบ้าน ล้อมกรอบ “นายกฯคนลูก”ในขณะที่ “ศึกใน” ก็ไม่ได้ลดดีกรีระอุเดือดลงแม้แต่องศาเดียว ตามภาพข่าวสังเกตสีหน้าแววตาของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทยก้มหน้ายิ้มแบบเจื่อนๆ ฝืนทำหน้าตาบ่งบอกอารมณ์ไม่ถูกในอ้อมกอดที่นายทักษิณโอบบ่าโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชน ยืนยันยังรักกันดีกับน้องเกรียน 2 น. ยังกอดกันได้ ไม่มีการเปลี่ยนนายกฯ รัฐบาลอยู่ครบเทอมละครตบจูบเล่นจนเฝือไม่เนียน ซ่อนอารมณ์ไม่มิด หลุดออกทางใบหน้าสถานการณ์ล้มกระดาน “สว.โพยฮั้ว” วางชนวนระเบิดลามถล่มค่ายภูมิใจไทย “นักร้องรับจ้าง” อาสารับงานเข้าทาง “นายใหญ่” ยื่นเล่นคดีอาญา “เสี่ยหนู” ข้อหาบัญชาการเบื้องหลังล็อกโพย สว.น้ำเงิน เข้าเงี่ยงความผิด “ยุบพรรค”จ่อถอนรากถอนโคนตำหนัก “เจ้าพ่อเขากระโดง”โดยจังหวะเดินคู่ขนานไปกับบรรดาโทรโข่งรอบข้าง “นายใหญ่” ตีฆ้องร้องป่าว ปล่อยข่าวผ่านสื่อในสังกัด เร้าเกมรวบรัดปรับ ครม.เขี่ยทิ้งพรรคภูมิใจไทย ยึดมหาดไทย ไปแบ่งเค้กกันใหม่พร้อมๆไปกับการขยับอย่างร้อนแรงของทีม “ผู้กองยอดรัก” ระดมต้อน “งูเห่า” โชว์ตัวกันสลอนไม่มีเขินไม่ต้องอาย สภาพคล้ายกันกับ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ที่เปิดหัวค่ายใหม่ ทั้งๆที่ยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติเป้าหมายอยู่ที่ปั่นตัวเลข สส.แลกโปรฯโควตารัฐมนตรีพวก “จมูกไว” เดินหมากล้อสัญญาณ “นายใหญ่” กัน ครึกโครมตามรูปการณ์ที่เซียนการเมืองจับตา หลังคิวพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 ที่พรรคร่วมรัฐบาล “สามัคคีชุมนุม” ลากเค้กก้อนโตฝ่าด่านประจานของฝ่ายค้าน กองทัพส้ม ชิงหลักประกัน “มื้อสุดท้าย”จัดสรรปันส่วน ล็อกหัวคิว ตุนเสบียงเลือกตั้งวง “เพื่อนกิน” ไม่มีอะไรเป็นวาระต้องประกันความเสี่ยงเสียงในสภา หมดเงื่อนไขผูกมัดรัฐบาลผสมสูตรพิสดารที่กล้ำกลืนฝืนกลืนเลือดจูบปากต่อลำบากยากจะฝืนธรรมชาตินักการเมืองแบบไทยๆ “ผลประโยชน์ขัดกันก็วงแตก”และนั่นก็เหมาะเจาะเหมาะเหม็ง ในสถานการณ์ที่ปมร้อน “วีไอพี ชั้น 14” ถึงช็อตระทึกขวัญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดคู่ความสืบพยานหลักฐานพร้อมกันในวันที่ 13 มิถุนายน 2568ตามอาการทุ่มหมดหน้าตัก ไม่มีทางเลือกต้องท้าวัดดวง“ทักษิณ” เปิดโหมดประจัญบาน ด่าแรงแพทยสภา “ไร้จริยธรรม” นำร่องนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ตามน้ำสัญญาณ ธง “นายใหญ่” ลุยหักดิบ “วีโต้” มติแพทยสภา ที่ลงโทษ 3 หมอ เอื้อ “ทักษิณ” รักษาตัว “วีไอพี ชั้น 14”ทีมเพื่อไทยลุยไฟ จุดชนวนแพทย์ทั่วประเทศลุกฮือใหญ่คำตอบสุดท้าย คดีวีไอพีชั้น 14 ต้อง “ออกหัว” หรือ “ออกก้อย” ไม่มี “ออกกลาง”เขย่าการเมืองกระเพื่อม ต้องเปลี่ยนแปลงแบบโครมครามแน่.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม