นิติยุทธ์ สงครามตัวแทน ซัดกันนัว ลำพังแค่ผู้เล่นหลัก “ปมฮั้ว สว.” ก็ดุเดือดเลือดพล่านอยู่แล้ว มามีตัว “เร้าเกม” เร่งปฏิกิริยา ทำเกมร้อนฉ่าไปใหญ่ทั้งตัวช่วยแบบไม่ตั้งใจ “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง และอดีตสส.หลายสมัย เมืองมหาสารคาม ลงสนามแจม ร้องดะฉะแหลก แฉขบวนการฮั้วสว.จนสยายปีกเป็นเครือข่ายสีน้ำเงินในวุฒิสภาแฉโพยที่มาที่ไปละเอียดยิบ วางแผนที่ไหน ใครเป็นผู้บงการ อัดฉีดเท่าไหร่ อ้างมีหลักฐานครบทั้งคลิปภาพ คลิปเสียง กระทั่งเส้นทางการเงินเสมือนโฆษกดีเอสไอก็ไม่ปานอีกราย “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมด้วยช่วยบี้ “ปมฮั้ว สว.” โดยอ้างว่า หยิบลูกมาเล่น ตั้งแต่หลังขบวนการเลือก สว.เสร็จสิ้นเมื่อปี 2567 แต่ถึงจุดชะงักไป วันนี้เก็บข้อมูลเอกสารหลักฐานครบ “จัดมาเต็ม”ทั้ง “เจ๊แมว–ณฐพร” จึงถือเป็น 2 ตัวเร้าเกมอย่างแท้จริงเพิ่มอุณหภูมิศึกชิงอำนาจ “แดง-น้ำเงิน” ให้ร้อนฉ่า ชนิดระอุไปทั้งแผงอำนาจประเทศไทย เผือกร้อนที่ร่อนร้องไปหลายหน่วยงาน ทั้งอัยการสูงสุด กกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะทิ่มเป้าหมาย “สว.สายสีน้ำเงิน” โดนแทรกแซงครอบงำ ลากให้สุดที่การขอให้พ้นสภาพ โดยช็อตแรกให้ “หยุดปฏิบัติหน้าที่”ไปจนกระทั่งทิ่มตรงเป้าหมายใหญ่ ค่ายการเมืองสีน้ำเงิน กล่าวหาหนัก ทั้งปมฮั้ว สว. แอบอ้างสถาบันฯ ไปจนกระทั่งต้นตอ บงการขบวนการฮั้วเปิดชื่อโชว์แบบไม่กลัวโดนเอาคืน ล่อครบทั้ง “นายใหญ่-เจ๊ใหญ่-หัวหน้าใหญ่” สีน้ำเงิน ไปจนกระทั่งลูกข่าย รัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร สส. นักการเมือง ทุนการเมืองท้องถิ่นรวมทั้งที่ฮือฮา เริ่มแง้มชื่อบรรดานักการเมืองยังเติร์กดีกรีดาวรุ่ง “ทายาทบ้านใหญ่” มาครบแบบหล่นไม่ไกลต้น เรียนรู้กิจกรรมการฮั้วเปิดแฉกะเอาพัง “เชือดยกค่าย-เอาตายยกครัว”มิหนำซ้ำ ยังเปิดเกมใหม่เร่งเกมเดือด โดยเฉพาะราย “ณฐพร” เล่นบทจอมแฉข้อมูล เปิดชื่อ 2 ส. ดีกรีบิ๊กมีสีผู้มีบารมี กับนักธุรกิจใหญ่ มาเกี่ยวข้องกลัวจะเข้ามาพลิกเปลี่ยนกระบวนการตรวจสอบ เป่าปมฮั้ว สว.–ยุบพรรค จนสะดุดชี้เป้าเป็น 2 ส. “ผู้มีบารมีนอกค่ายสีน้ำเงิน”แม้โดน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย สวนโครมในทำนองบทไล่บี้สีน้ำเงินมีเบื้องหลัง “ส.เสือ” อดีตบิ๊กมหาดไทย แบ็กอัป “ณฐพร”เติมชื่อย่อ อีก 1 ส. รวมแล้ว 3 เสือ ตัวละครลับต่างฝ่ายต่างแฉ “แบ็กอัป” ของแต่ละฝ่ายกันเดือดในจังหวะสถานการณ์ป่วนๆ มหากาพย์ชิงดุลอำนาจดุเดือด จนไม่รู้จะไปจบยังไง เพราะแนวรบขยาย เกมไหลไปจนน่าเป็นห่วงแรงเขย่าเริ่มส่งผลสะเทือนต่อ ทั้งขั้วค่ายการเมือง 3 เสาหลักอำนาจบ้านเมือง องค์กรหน่วยงานตรวจสอบ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง ต้องพากันประคองทรงเช็กทิศทางเกม–ทิศทางลมนั่นไม่เท่ากับว่า งานนี้บทจบจะไปสุดที่การเจรจา เกี้ยเซี้ย ปรับ ครม. ยกเครื่องใหม่ ยกเครื่องใหญ่ ยึดเก้าอี้ เปลี่ยนโควตา หรือเขี่ยทิ้งค่ายคู่อริจากวงอำนาจ กระทั่งลากไปจบที่เกมล้างกระดาน “ยุบสภา”แต่ที่เดินคู่ขนาน คือเกมทุบเพิ่มน้ำหนักต่อรอง ระอุเดือดในภาวะชวนผวาไฟขัดแย้งลุกลาม ทำบ้านเมืองไร้ทิศทาง เข้าสู่วิกฤติจนผู้คนเริ่มกวาดสายตาระแวง “กรรมการนอกสนาม” ฉวยจังหวะปั่นเปิดทางสู่ภาวะ “อำนาจลัดวงจร”ไม่อยากให้มีเสียงเรียกหา “นักดับเพลิง” เปิดหวอมาช่วย “ดับไฟ”ไม่ต้องการให้ชาติบ้านเมืองต้อง “ไฟดับ” กันอีก.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม