“จาง จวิ้น ฝู” ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ยังกล่าวต่อเรื่องการขอโอกาส “ไต้หวัน” มีส่วนร่วมในเวทีสมัชชาอนามัยโลก เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ไต้หวันทำมากว่า 30 ปี โดยไม่ถูกกีดกันจากความท้าทายทางการเมืองกรณีนี้ไต้หวันพยายามใช้ความโดดเด่นด้านสารสนเทศในการสร้างระบบสาธารณสุขที่มีต้นทุนสูงและประสิทธิภาพสูงมาบริการ ประกอบด้วยระบบประวัติการรักษา “คลาวด์” ที่เชื่อมต่อกันได้ และอาศัยทรัพยากรการทำงานร่วมกันของการดูแลสุขภาพที่รวดเร็ว (FHIR) ทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลการรักษากับระหว่างประเทศ อาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ผลักดันการรักษาพยาบาลอัจฉริยะนอกจากนี้ ในปี 2566 เป็นต้นมา ไต้หวัน บรรจุเวชภัณฑ์บำบัดด้วยยีนและเซลล์ (Cellular and gene therapies) ไว้ในระบบหลัก ประกันสุขภาพ นำร่องการใช้งานการแพทย์แม่นยำ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษา พร้อมใช้วิทยาการสมัยใหม่ในการปรับปรุงแวดล้อมการรักษาพยาบาล พัฒนาการรักษาดูแลอัจฉริยะ ยกระดับการให้บริการการรักษาพยาบาลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณให้กับประชาชนไต้หวันยังคงพยายามมีส่วนร่วมกิจกรรมสาธารณสุขทั่วโลก ประสบการณ์ด้านประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไต้หวันสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงอันมีค่าแก่ทั่วโลกได้ ไต้หวันจะแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จ เช่น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การจัดการทางการเงิน และระบบสุขภาพดิจิทัลให้กับประเทศอื่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ประเทศอื่นบรรลุเป้าหมายครอบคลุมสุขภาพถ้วนหน้าทั่วโลกที่ประกาศโดย WHO มากยิ่งขึ้นร่วมกันสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีของโลกไร้พรมแดน ร่วมกันทำให้ “สุขภาพคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” ตามธรรมนูญของ WHO ให้เป็นจริง และบรรลุเป้าประสงค์ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” อันเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม