เกมการเมืองระหว่างค่ายสีแดงกับสีน้ำเงินกำลังงัดกันดุเดือดเลือดพล่าน ชิงเหลี่ยมเกลี่ยดุลอำนาจใหม่ในการปรับ ครม.ที่กำลังจะมีขึ้น พรรคเพื่อไทยอึดอัดที่ถูกพรรคภูมิใจไทยขี่คอมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ สว.สีน้ำเงินยึดวุฒิสภาเบ็ดเสร็จ มีอำนาจคัดเลือกบุคคลเข้าไปเป็นองค์กรอิสระที่สามารถชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองในอนาคต พรรคเพื่อไทยเลยต้องหาทางสยบความฮึกเหิมของพรรคภูมิใจไทย ด้วยการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปทำคดีเอาผิดฮั้ว สว. พร้อมเดินเกมกดดันจัดสรรโควตารัฐมนตรีกันใหม่แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์สั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรมเฉพาะในฐานะที่กำกับดูแลดีเอสไอและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่ถูกร้องผิดจริยธรรมเข้าไปแทรกแซง กกต.ในการทำคดีฮั้ว สว. แต่ในส่วนการดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกลุ่ม สว.สีน้ำเงินและผู้เกี่ยวข้องในข้อหาฟอกเงินและอั้งยี่ ดีเอสไอยังยืนยันต้องทำคดีต่อ ไม่หยุดชะงักมีรายงานข่าวดีเอสไอได้นำ เทคโนโลยีเอไอขั้นสูง มาตรวจจับ เชื่อมโยงหลักฐานและวิเคราะห์คดี เส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสารของผู้ร่วมกระบวนการมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง เช่นในช่วงเดือน มิ.ย.67 ที่มีการเลือกระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ ใครเป็นผู้โทร.ประสานงานกับใคร มีเส้นทางการเงินโยงไปถึงไหนที่สำคัญในวันลงคะแนนระดับประเทศที่เมืองทองธานี เอไอได้จำแนกใบหน้าภาพจากกล้องวงจรปิดว่าใครมารถคันเดียวกัน ใครพูดคุยกับใคร ใครถ่ายรูปร่วมกันบ้าง และเช็กย้อนหลังจับสัญญาณมือถือว่าคืนก่อนวันลงคะแนนมีใครพักโรงแรมเดียวกัน แล้วนำมาประมวลผลต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพสำหรับการสืบสวนคดีฮั้ว สว.ของ กกต.นั้น ยังอยู่ในชั้นพิจารณาของอนุกรรมการ วันนี้บรรดา สว. 55 คนที่ถูกออกหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา จะทยอยเดินทางเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการ ซึ่งมีดีเอสไอร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย อาจใช้หลักฐานบางส่วนที่เสาะแสวงหาได้มาหักล้างคำชี้แจงของ สว.ก็ได้ในระหว่างการสืบเอาผิด สว.เดินเครื่องอย่างเข้มข้น การเร่งเร้าเกมปรับ ครม.ก็ปะทุเช่นกัน หลังจากพรรคกล้าธรรมที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ชนะการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ก็ออกข่าวอย่างต่อเนื่องว่า เร็วๆนี้จะมี สส.ย้ายมาอยู่ด้วยจำนวนมาก ล่าสุด น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชนแถลงเจตจำนงอยากย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรม และอาจมี สส.ฝ่ายค้านตามมาอีกหลายคนพรรคกล้าธรรมเดินหมากรวบรวมเสียง สส.เพิ่มขึ้น ย่อมเขย่าสมการการเมืองใหม่ ท่ามกลางกระแสข่าวหนาหูต้องการโควตากระทรวงมหาดไทย ก็ต้องติดตามดูว่าครูใหญ่กับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะยอมหรือเปล่า พรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลจะกล้าหักกับพรรคภูมิใจไทย ไหม แล้วจะเอากระทรวงอะไรมาแลกรัฐบาลนี้ยังมีอายุอีก 2 ปีกว่า อย่างไรเสียพรรคร่วมรัฐบาลย่อมต้องกอดคอกันต่อไป ยังไม่ยุบสภา ไม่เปลี่ยนพรรคร่วมธรรมชาติของ การเมืองใช้ตัวเลข สส.มาต่อรองกัน แต่ในยามที่ประเทศไทยและทั่วโลก กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจเช่นนี้ ผมอยากให้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ล็อกโควตากลางไว้ให้คนเก่ง มีความรู้จริง มาเป็นทีมรัฐมนตรีสู้วิกฤติเศรษฐกิจ ยามนี้ทุกพรรคควรเสียสละ ถ้ามัวคิดถึงตัวเลขไม่สนใจปากท้องประชาชน ระวังคะแนนนิยมจะไหลไปที่ฝ่ายค้านแบบกู่ไม่กลับวันก่อนเห็นภาพ คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จับมือทักทายกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ลูเซล พาเลซ ที่ ชีค ทามินบิน ฮามัด อัล ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ จัดขึ้นเพื่อรับรองประธานาธิบดีทรัมป์ในโอกาสเดินทางเยือนภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งมีข่าวว่าจากการพูดคุยกัน สหรัฐฯมีท่าทีเชิงบวกต่อไทย และพร้อมรับการลงทุนจากไทย รวมถึงการลงทุนเพิ่มด้านพลังงานผมเสียดายโอกาสประเทศไทย ถ้าคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้บินไปร่วมงานนี้ด้วย ก็จะได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ เจรจาเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ เรื่องสำคัญระดับนี้ถ้าได้คุณทักษิณมาช่วยต่อรอง ด้วยคอนเนกชันที่กว้างขวาง ลูกล่อลูกชน และความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน อาจจะมีดีลลับดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมหาศาลก็ได้.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม