ได้ฟัง “ดร.แสงสุข พิทยานุกูล” เภสัชกร ผู้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจผลิตยาสีฟันจำหน่ายทั่วโลกให้สัมภาษณ์ “ซีเค เจิง” ว่า คนทำธุรกิจสมัยก่อนจะคิดว่าทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยเก่งบวกเฮงถึงจะรวย แต่ในความเป็นจริงความเก่งมีสัดส่วนแค่ 1% บวกความเฮง 1% ส่วนอีก 98% ที่เหลือ คือความไม่ยอมแพ้ “Never give up” เพราะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จล้วนผ่านความล้มเหลวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน คำว่า “Never give up” ยิ่งกระจ่างชัดเมื่อได้พบเจ้าของร้านข้าวมันไก่ร้านหนึ่ง เขาผ่านความล้มเหลวมาหลายครั้ง แต่ความไม่ยอมแพ้บวกกับความรักในสิ่งที่ทำ ดึงให้เขาลุกขึ้นสู้ต่อไป “คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “ตี๋น้อยคชิน” ข้าวมันไก่สิงคโปร์ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเอ็นแก้ว ของ “คุณหนุ่ม-ศรัณวุฒิ ธีระสูตร์” อายุ 41 ปี ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าห้างบิ๊กซี ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก ระหว่างซอยเพชรเกษม 65-67 มีที่จอดรถหน้าร้านสะดวกสบาย ร้านเล็กๆแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอาหารคุณภาพ ตัวร้านสีแดงสดใส มี “เมอร์ไลออน” รูปปั้นสัญลักษณ์เกาะสิงคโปร์คอยพ่นน้ำ ตั้งโดดเด่นกลางร้านดึงดูดให้คนมาถ่ายภาพ และชักชวนให้ได้ลิ้มรสชาติข้าวมันไก่สิงคโปร์และก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเอ็นแก้วรสเด็ด มีโต๊ะรับรองสำหรับลูกค้านั่งทานคนเดียว หรือจะมาทั้งครอบครัวก็มีโต๊ะให้นั่งในบรรยากาศรับลมธรรมชาติ “ข้าวมันไก่สิงคโปร์” เป็นอาหารจานเด็ดของร้านนี้ ที่ใครทานต้องติดอกติดใจ เขาคัดสรรสะโพกไก่ปลอดสารเร่งโต เลี้ยงด้วยธัญพืชได้มาตรฐานระดับส่งออก ผ่านการปรุงด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เนื้อไก่นุ่มชุ่มฉ่ำ หนังไก่ละมุนลิ้น โดยเฉพาะน้ำจิ้มข้าวมันไก่ ที่จัดมาให้เลือก 3 แบบ ทั้งน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวปั่นกับพริกขี้หนูและขิง มีครบรสชาติทั้งหวาน, เปรี้ยว, เค็ม, เผ็ด ส่วนน้ำจิ้มซีอิ๊วดำหวานหอมรสชาติกลมกล่อม และน้ำจิ้มน้ำมันงา ได้กลิ่นหอมของน้ำมันงา ปรุงรสชาติได้ลงตัว ทั้งความเปรี้ยวและความหวานปะแล่ม ส่วนตัวข้าวร่วนแห้งไม่มันจนเกินไป ร้านนี้ใช้ข้าวหอมมะลิเกรดเอ ก่อนหุงต้องเจียวมันไก่ให้ได้น้ำมัน แล้วนำกระเทียมสับลงไปเจียวให้หอม ใส่ขิงและใบเตยลงไป ส่วนข้าวหอมมะลิซาวน้ำให้สะอาด ก่อนเทน้ำมันที่เจียวไว้ลงไปผสม ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาล ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอม ตัวข้าวเม็ดเรียงสวย เขาอุ่นอยู่ในหม้อตลอดเวลา ทำให้ได้ทานข้าวมันร้อนๆอย่างเอร็ดอร่อย แม้จะทานข้าวมันเปล่าๆก็ยังมีรสชาติ ข้าวมันไก่ร้านนี้พิถีพิถันทุกขั้นตอน แค่ชิมน้ำซุปยังหอมซดคล่องคอดี“ซู่ ซู่” เสียงน้ำมันเดือดๆที่กำลังทอดไก่ ดังไกลมาจากข้างเขียง หลังแม่ครัวหย่อนไก่ทอดลงกระทะ เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งข้าวมันไก่ทอด ได้ทานข้าวมันไก่ทอดเสิร์ฟใส่จานให้แบบร้อนๆ สำหรับคนที่ชอบทานข้าวมันไก่ทอด ร้านนี้ทำไก่ทอดสูตรพิเศษ ใช้ชิ้นส่วนเนื้อสะโพกมาเลาะกระดูกออก นำไปหมักข้ามคืนก่อนทอดในกระทะน้ำมันท่วมๆ โดยทอดรอบแรกเพียง 70% เมื่อมีออเดอร์จากลูกค้า แม่ครัวจึงทอดอีกรอบ เพื่อให้ไก่ทอดกรอบเต็มที่ 100% เสิร์ฟคู่กับข้าวมันร่วนๆหอมๆ ไก่ทอดสับมาวางบนจานควันยังลอยฉุยพานให้น้ำลายสอ ทานกับน้ำจิ้มไก่ทอดอร่อยเข้ากัน เผลอแป๊บเดียวข้าวหมดแต่ไก่ทอดยังเหลือ ต้องสั่งข้าวมันเพิ่มอีกถ้วย กินแล้วเจริญอาหารน้ำย่อยทำงานดีเยี่ยม ผมสั่ง “เกาเหลาหมูตุ๋นเอ็นแก้ว” มาชิมอีกชาม เนื้อขั้วตับหมูเคี่ยวตุ๋นจนเปื่อยได้ที่ ใช้เวลาในการตุ๋นนานกว่า 4 ชั่วโมงจึงเปื่อย ตัวขั้วตับมีความหนึบ ตัวเนื้อเปื่อยกำลังดีได้อรรถรสในการกิน กลิ่นหอมเครื่องยาจีนในน้ำซุป ทำให้ซดคล่องคอ ตัวเอ็นแก้วเป็นวัตถุดิบหาทานค่อนข้างยาก หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ ผ่านการเคี่ยวจนได้ที่เคี้ยวแล้วเด้งหนึบสู้ฟันกำลังดี ลูกชิ้นหมูเนื้อล้วนๆใช้ของมีคุณภาพทานแล้วฟินกินได้เยอะ ถือเป็นร้านที่ใช้วัตถุดิบดีเยี่ยม เป็นมื้ออร่อยในราคาสบายกระเป๋า คุณหนุ่มเล่าว่า “ผมเป็นลูกแม่ค้า โตมากับการค้าขายอาหารของแม่ ทำให้มีความรักผูกพันกับร้านอาหารตั้งแต่เด็ก ใฝ่ฝันและตั้งใจจะเป็นเจ้าของร้านอาหารให้ได้ แต่ชีวิตการเป็นเจ้าของร้านอาหารนั้นไม่ง่าย ผมผ่านความผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งทำร้านอาหารตามสั่ง ร้านอาหารอีสาน ไปลงทุนทำร้านอาหารขายในเวลากลางคืนก็ไม่ประสบ ความสำเร็จ แต่ผมไม่ยอมแพ้ อยากเอาชนะให้ได้ จนวันหนึ่งเพื่อนผมที่เป็นเชฟร้านข้าวมันไก่สิงคโปร์มาทำข้าวมันไก่ให้ทานที่บ้าน ทั้งรสชาติตัวข้าวมัน ไก่ต้ม ไก่ทอดและน้ำจิ้ม ทุกอย่างมันอร่อยลงตัว ผมจึงขอเรียนรู้วิชาการทำข้าวมันไก่สิงคโปร์จากเพื่อน รวบรวมเงินทั้งหมดที่มีลงทุนอีกครั้ง นำความผิดพลาดที่เคยทำร้านอาหารมาปรับปรุง พัฒนาระบบทุกอย่างให้ลงตัวที่สุด ในปี 2566 ได้ฤกษ์เปิดตัวร้านตี๋น้อยคชิน โดยนำชื่อลูกชายมาตั้งเป็นชื่อร้าน” “ข้าวมันไก่สิงคโปร์อาจจะมีราคาสูงกว่าข้าวมันไก่ทั่วไป เนื่องจากผมเลือกใช้วัตถุดิบดีมาก อย่างน้ำจิ้มกว่าจะได้รสชาติลงตัวเช่นนี้ ต้องใช้วัตถุดิบที่ดีหลายอย่าง เครื่องปรุงแต่ละชนิดไม่สามารถลดทอน หรือเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นได้ เพราะจะทำให้คุณภาพของน้ำจิ้มเปลี่ยนแปลงไป เครื่องปรุงทุกอย่างจำเป็นต้องใช้ยี่ห้อที่เป็นของเกรดเอ โดยเฉพาะขั้นตอนในการปรุงต้องเป็นไปตามลำดับ ห้ามลัดขั้นตอนเด็ดขาด เพราะจะทำให้อาหารออกมาไม่ได้ตามมาตรฐาน อุณหภูมิน้ำที่ใช้ต้มไก่ ระยะเวลาที่ใช้ต้ม ทุกอย่างเป็นรายละเอียดที่ผมเน้นหนัก ใส่ใจเพื่อให้ได้ข้าวมันไก่สิงคโปร์และก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเอ็นแก้วที่มีคุณภาพที่สุด” “ปัจจุบันนี้ผมมีร้าน 2 สาขา อีกสาขาตั้งอยู่ที่ตลาดนัดคนเดินเซฟวัน ในการดูแลทั้ง 2 ร้าน ผมใช้วิธีแอบตระเวนไปชิมโดยไม่ให้พนักงานทราบ โดยย้ำกับพนักงานเสมอว่า ต้องให้ความสำคัญกับรสชาติอาหารที่สุด จะขาดทุนหรือกำไรค่อยว่ากัน แต่คุณภาพของสูตรอาหารต้องเป๊ะ ข้าวต้องไม่แฉะ ถ้าเจอข้าวแฉะผมยอมทิ้งทั้งหมด เพราะข้าวจะอร่อยมันต้องได้คุณภาพ หากเอาข้าวแฉะ และไก่แข็ง ของไม่ได้คุณภาพมันทำให้เสียลูกค้า ถ้าไก่ต้มออกมาแล้วแข็ง ผมไม่ยอมเอามาขายเด็ดขาด จะยกให้พนักงานในร้านทานแทน ผมใส่ใจดูแลคุณภาพของร้านทั้ง 2 สาขา และเรื่องความสะอาดต้องสำคัญ พนักงานต้องใส่ถุงมือ ใส่หมวก เพื่อความปลอดภัยและสบายใจในการรับประทานอาหารของลูกค้า” สนนราคา ข้าวมันไก่สิงคโปร์เริ่มต้นที่ 69 บาท, ข้าวมันไก่ทาน 2 คน 129 บาท, ข้าวมันไก่สิงคโปร์ชุดครอบครัว 209 บาท, ข้าวมันไก่ทอด 69 บาท, ข้าวมันไก่ 2 สี ทั้งต้มและทอด 79 บาท, ไก่ทอดสับจานละ 89 บาท, ไก่สับ 2 สี 99 บาท, ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเอ็นแก้ว 65 บาท, เกาเหลาหมูตุ๋นเอ็นแก้ว 69 บาท, เกาเหลาหมูตุ๋นเอ็นแก้วหม้อไฟ 149 บาท, ก๋วยเตี๋ยวคลุกเอ็นแก้วทรงเครื่อง 69 บาท, เฉาก๊วย 29 บาท และไอศกรีมรวมมิตร 39 บาท ร้าน “ตี๋น้อยคชิน” เปิดทุกวันเวลา 10.00-21.00 น. โทรศัพท์ 08–7304–4999 และ Facebook : ตี๋น้อยคชินข้าวมันไก่สิงคโปร์&ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเอ็นแก้ว รับบริการนอกสถานที่ด้วยรถฟู้ดทรัคครับ.คุณชายแป๊ะคลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม