ภาพอาคารราชการถูกทิ้งร้าง ขึ้นสนิม ร้างผู้ใช้งานในหลายๆจังหวัด บางแห่ง..ใช้งบก่อสร้างเกือบ 100 ล้านบาท แต่ยังไม่เคยเปิดใช้งาน บางแห่ง...เสร็จมาแล้วกว่า 5 ปี แต่ไร้เจ้าหน้าที่ประจำการ และที่ร้ายแรงที่สุด...บางโครงการไม่เคยเสร็จเลย แม้งบจะถูกเบิกจ่ายครบถ้วนแล้วก็ตามคำถามสำคัญมีว่า...อาคารราชการทิ้งร้าง สร้างไม่เสร็จ ใครต้องรับผิดชอบ? คุณอาจเข้าใจผิด...หากด่วนสรุปว่าอาคารราชการจำนวนมากที่ทิ้งร้าง สร้างไม่เสร็จเป็นเพราะ “คอร์รัปชัน” หรือ “เจ้าหน้าที่ไม่ใส่ใจ” กับเงินภาษีประชาชนที่เสียไป เพราะ... ยังมีเหตุผลด้านดีและร้ายอยู่หลายแง่มุมตัวอย่างความล้มเหลวในงานก่อสร้างของราชการที่คนไทยจำได้ดี คือ โครงการสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ 396 แห่ง มูลค่า 5,848 ล้านบาท เกิดจากฮั้วประมูลที่ชักใยโดยอดีตรองนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็นำงานไปแบ่งขายโควตาให้ผู้รับเหมารายเล็กหลายรายทั่วประเทศอีกโครงการคือ “อควาเรียมหอยสังข์” จังหวัดสงขลา มูลค่า 1,400 ล้านบาท ที่โกงกินโดยขบวนการของอดีตข้าราชการระดับสูงหลายคนในกระทรวงศึกษาและโครงการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท...จากขบวนการสมคบคิดของนักการเมือง ข้าราชการและผู้รับเหมาจำนวนมาก ปัจจุบันพบหลายโครงการที่สร้างไม่เสร็จ เช่น สำนักงบ ประมาณ มูลค่า 2.1 พันล้านบาท อาคาร กสทช. มูลค่า 2.6 พันล้านบาท รวมถึงอาคารอื่นๆทั่วประเทศอีกนับไม่ถ้วน เช่น สนามกีฬาชุมชน ศูนย์ท่องเที่ยว ฯลฯ คำถามคือ...โครงการที่ “สร้างไม่เสร็จ” เหล่านี้เกิดปัญหาอะไร? ใครต้องรับผิดชอบ?ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) บอกว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ก่อสร้างไม่เสร็จหรือผู้รับเหมาทิ้งงาน ข้อแรก...“เจ้าหน้าที่” ผิดพลาดหรือด้อยประสิทธิภาพ เช่น แบบก่อสร้างไม่ชัดเจน มีการแก้แบบ เพิ่มงาน ของานแถม แล้วโยนเป็นภาระผู้รับเหมา ถัดมา...หน่วยงานมีปัญหาการเบิกจ่ายเงิน เช่น ช่วงโควิดหน่วยงานรัฐต่างถูกตัดงบประมาณจำนวนมาก และหน่วยงานขาดประสบการณ์บริหารงานก่อสร้าง พิจารณาอนุมัติแบบเพื่อก่อสร้างจริง อนุมัติวัสดุ...อุปกรณ์ล่าช้า ตรวจรับงาน...เบิกจ่ายเงินล่าช้า เป็นเหตุให้ผู้รับเหมาขาดเงินหมุนเวียนนับรวมไปถึง “เจ้าหน้าที่” เช่น กรรมการตรวจรับงาน ช่างคุมงาน ไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดประสบการณ์ในการคุมงานและตัดสินใจ ขั้นตอนการบริหารงานที่ซับซ้อนและมากเกินความจำเป็น ...การแบ่งงวดงาน งวดเงิน ไม่สอดคล้องกับเนื้องานที่ทำจริง ทำให้ผู้รับเหมาต้องลงทุนเยอะ แต่เบิกเงินได้น้อย “งานเริ่มล่าช้าเพราะหน่วยงานมีข้อติดขัด ส่งผลให้แผนงานผู้รับเหมาผิดพลาด เช่น การส่งมอบที่ดิน และ...เจ้าหน้าที่สั่งงานปากเปล่า ทั้งที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนอนุมัติของราชการครบถ้วน”ข้อสอง... “ผู้รับเหมา” ก่อปัญหาเอง ปัญหาที่พบได้แก่ผิดพลาดในการบริหารจัดการ เช่น ขาดประสบการณ์ในงานลักษณะนั้น เจองานที่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน รับงานในราคาต่ำกว่าจริง คำนวณต้นทุนผิดพลาด เงินขาดสภาพคล่อง...หาแหล่งกู้ยืมไม่ได้ตามแผนหรือรับหลายงานพร้อมกันราคาวัสดุก่อสร้างแพงขึ้นมากเกินคาด ขาดแรงงานมีฝีมือ ฯลฯถัดมา...ถูกโกงหรือไปร่วมขบวนการโกง เช่น ซื้องานมาจากนายหน้า รับเหมาช่วง แล้วถูกเอาเปรียบหรือถูกหักค่านายหน้ามากเกินไป ถูกผู้มีอิทธิพลบีบจนไม่สามารถซื้อวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ได้ ถูกเจ้าถิ่นบังคับให้จ้างคนของเขามาถมดินในราคาแพงหรือเรียกค่าเงินกินเปล่าค่าถมดิน เป็นต้น หรือ...ตั้งใจทิ้งงาน เมื่อได้รับเงินงวดตามต้องการแล้ว, เจอปัญหาใหญ่แบบคาดไม่ถึง ทำให้ไปต่อไม่ได้ เช่น พื้นดินทรุดตัวมาก เกิดโรคโควิด–19และ...อีกปัญหาสำคัญ นั่นก็คือ “คอร์รัปชัน” เช่น จ่ายเงินใต้โต๊ะ ค่าฮั้ว ล็อกทีโออาร์เพื่อล็อกผู้รับเหมา ล็อกสเปกวัสดุอุปกรณ์ ค่านายหน้า ทุกอย่างต้องจ่ายหนักมากจนไม่เหลือกำไร อีกทั้งยังมีปัจจัยเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าเร่งเวลาเมื่อขออนุมัติวัสดุอุปกรณ์ หรือจ่ายเมื่ออยากใช้ของราคาถูก จ่ายทุกขั้นตอนการตรวจรับงาน...เบิกจ่ายเงิน อนุมัติขั้นตอนก่อสร้าง การแก้ไขแบบรูปรายการและการบริหารสัญญา...มีการล็อกสเปกวัสดุอุปกรณ์บางอย่างที่ผู้รับเหมาไม่รู้มาก่อน หรือไม่สามารถซื้อหามาได้หรือ...ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง เพราะไม่ยอมจ่ายเบี้ยบ้าย รายทาง หรือไม่ใช่พวกพ้อง หรือแหวกฮั้วเข้ามา...ถูกคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นมารีดไถ เช่น ตำรวจ เทศกิจ ตม. แรงงาน อปท. ฯลฯสุดท้าย...หากงานก่อสร้างไปต่อไม่ได้ เกิดการทิ้งงาน ย่อมกลายเป็นภาระให้หน่วยงานรัฐต้องเริ่มขั้นตอนหาผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินการต่อ ทำให้งานล่าช้าและเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก แม้จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ก็ไม่คุ้ม บางครั้งก็ไม่มีหลักประกันว่างานนั้นจะเสร็จได้หากมีการโกงกินหนักมากอยู่แล้ว”หลายโครงการที่พบว่า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้มงวดรัดกุมมาก จนผู้รับเหมาไม่สามารถลดสเปก ลดเนื้องาน ขอแก้แบบ หรือขอขยายเวลาก่อสร้างได้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา สุดท้าย...ก็มักทิ้งงาน เหมือนที่คนวงในอธิบายเรื่องอาคาร สตง. ประจำจังหวัดถูกทิ้งงานนับสิบแห่งขณะที่อาคารรัฐสภาใหม่มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 12 ปี (2554-4 ก.ค.2567) กลับมีต้นเหตุจากลูกเล่นแพรวพราวของ “ผู้รับเหมาฯ” โดยแท้...? ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ฝากทิ้งท้ายว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณว่าโครงการก่อสร้างใด เจอปัญหาลักษณะไหน?คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม