มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้ากับทั่วโลกของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นอกจากจะส่งผลกระทบกับหลายภาคส่วนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเกษตรกรรม ยานยนต์หรือเทคโนโลยี ยังกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตของเล่นเช่นกันดังเช่น “แมทเทล” ผู้ผลิตของเล่นขวัญใจใครหลายคนจากสหรัฐฯ อย่าง บาร์บี้ ฮ็อตวีลส์ และอูโน เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า คาดว่าสินค้าของเล่นประมาณ 40%-50% จะถูกขึ้นราคาอยู่ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์หรือต่ำกว่านี้ รวมถึงลดการพึ่งพาการใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าจากประเทศจีน (ซึ่งถูกสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าสูงสุด 145%)โดยตั้งเป้าลดการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในจีนเข้ามายังสหรัฐฯ จาก 20% ให้เหลือต่ำกว่า 15% ภายในปี 2569 ค่อยๆย้ายฐานการผลิตจากจีน ซึ่งครองสัดส่วนอยู่ที่ 40% ของผลผลิตสินค้าทั้งหมดของแมทเทลไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบที่จะได้รับจากการใช้นโยบายทางภาษีของสหรัฐฯ เช่น นำเข้าเกมการ์ดอูโนจากอินเดีย และนำเข้าบาร์บี้ รวมถึงฮ็อตวีลส์จากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยนอกจากนี้ บริษัทแมทเทลยังหยุดการคาดการณ์ทางการเงินของปี 2568 เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ สภาพแวดล้อมเศรษฐกิจในระดับมหภาคที่ผันผวน และภูมิทัศน์ทางภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่กำลังเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ยากต่อการคาดการณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภคและยอดจำหน่ายของแมทเทลในสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีและช่วงเทศกาลต่างๆขณะที่ฝ่ายการเงินของแมทเทลเปิดเผยด้วยว่า มาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ในปี 2568 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มต้นทุนการผลิตของแมทเทลประมาณ 270 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แมทเทลยังเตรียมมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยจะปรับลดโปรโมชันต่างๆ เพื่อประหยัดต้นทุนในปีนี้เป็น 80 ล้านดอลลาร์ จากเดิมคือ 60 ล้านดอลลาร์นอกเหนือจากแมทเทลแล้ว ยังมีบรรดาผู้ผลิตของเล่นเจ้าอื่นๆ ในสหรัฐฯ ที่หวั่นผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ในทิศทางเดียวกัน เช่น ฮาสโบร ผู้ผลิตฟิกเกอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ เกมเศรษฐี อาจปรับเพิ่มราคาสินค้า และ เบสิค ฟัน! ผู้ผลิตตุ๊กตาหมีแคร์แบร์ รถของเล่นทองก้า เตรียมระงับการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในจีน.ญาทิตา เอราวรรณคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม