“ทวี” ฮึ่มใส่ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ อย่าขวางสอบคดีฮั้วเลือก สว. ขู่โทษจำคุก 1-10 ปี กำชับสอบเส้นทางการเงิน-เช็กโทรศัพท์ ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ จ่อออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา “อนุทิน” แขวะสื่อ การเมืองกำลังนิ่งดีๆ ทำปั่นป่วนเขย่า มท.-ยธ. ปลัด มท.กำชับทุกหน่วยสกัดพวกที่มาแอบอ้าง สว.สีน้ำเงินท้าทายดีเอสไอออกหมายจับ เย้ยไม่ยุ่งกับพวกศักดิ์ต่ำกว่า งัดอำนาจ กมธ.วุฒิฯปกป้องตัวเอง “วันนอร์” มึนสร้างศาลาแก้วไว้ทำไม “ภราดร” แจงยิบเงินทุกบาทใช้คุ้มค่า “เสี่ยหนู” ฉุนถูกถามโยงบริษัทรับเหมา “อิ๊งค์” ยัน “พ่อ” ป่วยจริง ตัดพ้อพูดไปก็ไม่เชื่อ “สมศักดิ์” โต้พักงาน 2 แพทย์เอี่ยวชั้น 14 “พีระพันธุ์” ชิวๆปมแจกถุงยังชีพ ภาคประชาชนจี้สอบเอี่ยว “ด้อมพัง” คุกคามคนเห็นต่างคดีฮั้วเลือก สว.ทำท่าบานปลาย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ออกโรงขึงขังใส่ ผวจ.อำนาจเจริญ อย่ามาขวางการสอบคดีฮั้วเลือก สว. อาจผิดมาตรา22 มีโทษจำคุก 1-10 ปี กำชับการสอบเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ติดต่อ ทุกขั้นตอนต้องมีพยานค้ำยันทางนิติวิทยาศาสตร์ จ่อออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา“ทวี” ฮึ่มใส่ผู้ว่าฯขวางสอบคดีฮั้ว สว.เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีนายณรงค์ เทพเสนา ผวจ.อำนาจเจริญ ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุมีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ข่มขู่อดีตผู้สมัคร สว.ในพื้นที่ ให้ยอมรับว่ามีการฮั้วเลือกสว.ว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ได้รับรายงานจากดีเอสไอแล้ว พนักงานสอบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่ จ.อำนาจเจริญ มีพยานบุคคลกว่า 10 ปากให้ความร่วมมือดี ตามหลักการสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ว่าฯมีอำนาจสืบสวนสอบสวน หากประสานงานไปต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ร่วมมือมีโทษตามมาตรา 22 จำคุก 1-10 ปี แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวน ถ้ามีอุปสรรคขอให้อธิบดีดีเอสไอใช้กฎหมาย ข้อบังคับดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือผู้ว่าฯ สำหรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจริง เพราะมีพยานร้องว่าถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และไม่มีเงินเดินทางมาเอง อยากให้ดีเอสไอลงไปสอบปากคำ หากผู้ว่าฯพบมีการข่มขู่ขอให้รายงานมาที่ตนจ่อออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ถูกมองว่าเป็นการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ไม่มีเรื่องการเมือง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนทำนอกเหนือกฎหมายไม่ได้ เช่นเดียวกับบุคคลจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายไม่ได้ เมื่อถามว่าดีเอสไอเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 138 สว. และอีก 2 สว.สำรอง พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ต้องถามอธิบดีดีเอสไอ ขณะนี้ทำงานหนัก ขอให้ทุกขั้นตอนมีพยานค้ำยันทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงเส้นทางการเงิน และการใช้โทรศัพท์ติดต่อ เมื่อถามว่ามีโอกาสแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า รอดูอยู่ แต่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง กลัวมีข้อครหาการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูลนั้น ให้รอหมายเรียก ไม่แน่ชัดทยอยออกหรือออกครั้งเดียว หากถึงใครดำเนินการหมด ไม่มีละเว้น เมื่อถามว่ามีชื่อรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง พ.ต.อ.ทวีตอบสั้นๆว่า เรื่องนี้ไม่เคยออกจากปาก“อนุทิน” ชี้มีมือดีเขย่าป่วน มท.-ยธ.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี พ.ต.อ.ทวีขู่ฟัน ผวจ.อำนาจเจริญ ที่เป็นอุปสรรคต่อการสอบคดีฮั้วเลือก สว.ว่า สื่อถามแบบนี้อีกแล้ว ดูเทปสัมภาษณ์ไม่มีการพูดขู่ฟัน ผวจ. เพียงอธิบายข้อกฎหมายถ้าใครไม่ให้ความร่วมมือ อาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดี ไม่ได้ฟัน ฟันได้อย่างไรคนละหน่วยงานกัน คนที่ฟันผู้ว่าฯได้คือปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อถามว่าหากดีเอสไอขอความร่วมมือเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว.มา นายอนุทินตอบว่า ต้องทำตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำตามก็ต้องเป็นไปตามที่ รมว.ยุติธรรมระบุ ระหว่างประชุม ครม.ยังไม่ได้คุยกับ พ.ต.อ.ทวี “เขาก็อยากเขย่า ดีกันไม่ได้ ดีแล้วมีคนเดือดร้อน ดีกันแล้วอึดอัดไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว จริงๆคนใน ครม.กลมเกลียวกันดี ไม่มีปัญหากันเลย”แขวะสื่อการเมืองนิ่งดีๆทำปั่นป่วนเมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองจะนิ่งไปจนถึงวันที่ 13 มิ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนคดีชั้น 14 หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า การเมืองนิ่งมาตลอด แต่สื่อที่ทำให้ไม่นิ่ง วันนี้ประชุม ครม.ก็ราบรื่นดี เมื่อถามว่ายังมีแรงเขย่าปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มี เรียบร้อยดี ช่วงสงกรานต์พูดกันเรื่องปรับ ครม. คนนั้นเข้าคนนี้ออก พรรคนี้เข้าพรรคนั้นออก นายกฯก็ให้ความชัดเจนแล้ว นั่งวิเคราะห์กันผิดหมด อายเขาปลัด มท.กำชับสกัดพวกมาแอบอ้างนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือของ ผวจ.อำนาจเจริญ เดี๋ยวคงเสนอขึ้นมา เห็นตามข่าวว่าคนที่ถูกข่มขู่และบุกรุกบ้านไปแจ้งความแล้ว ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่แล้วอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ต้องมีหมายค้นหรือหมายเรียก อาจต้องกำชับให้ทุกหน่วยที่ว่าแอบอ้างไม่ได้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาตามกฎหมาย ต้องให้ความร่วมมือสว.น้ำเงินท้าดีเอสไอออกหมายจับด้านนายอลงกต วรกี สว. กล่าวว่า หากดีเอสไอจะยื่นแจ้งข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. ยื่นก็ยื่น มีคำถามคือมีอำนาจหรือไม่ กล้าออกหมายจับ หมายขัง หมายค้นหรือไม่ เท่าที่เช็กข้อมูลมาเขาไปยื่นกับศาลไม่มีผู้พิพากษาคนไหนเซ็นเลย เมื่อถามว่าดีเอสไอยื่นให้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฟ้องศาลฎีกาฯ เพราะพบเส้นทางเงิน 500 ล้านบาท นายอลงกตตอบว่า ถ้ามีก็เป็นอำนาจของ กกต. จะยื่นฟ้องหรือไม่ ส่วนกรณีผู้ว่าฯอำนาจเจริญมีหนังสือลับถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย พบมีผู้แอบอ้างเป็นดีเอสไอ ตอบไม่ได้ว่าดีเอสไอทำงานอย่างไร แต่ดีเอสไอเป็นแค่หน่วยงาน แต่ตนเป็น สว.ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ พูดตามตรงมีศักดิ์สูงกว่า สูงไม่มายุ่งกับข้างล่าง เมื่อถามย้ำว่าดูเหมือนท่าที สว.มั่นใจว่าไม่ผิด นายอลงกตตอบว่า เรายึดตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายว่าเราไม่ผิดก็ไม่ผิด แต่ถ้ากฎหมายว่าเราผิดก็ผิด และต้องว่าไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่คำพิพากษายังไม่ออกงัดอำนาจ กมธ.วุฒิฯปกป้องตัวเองพล.ต.ต.ฉัตวรรษ แสงเพชร สว. ประธานกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวหลังรับเรื่องจากกลุ่ม สว. ได้แก่ นางแดง กองบุญมา นางเพลินจิต ขันแก้ว นายสมพาน พละศักดิ์ และนายสุวิช จำปานนท์ ขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กรณีลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ดำเนินการผิดปกติไม่เป็นไปตามกฎหมาย คือแจ้งล่วงหน้าแค่ 1 วัน ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมข้อมูลแก้ข้อกล่าวหา และสอบปากคำนานผิดปกติ จึงเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิและทรมานจิตใจ อาจเข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มีการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.อำนาจเจริญแล้ว ยังมีคำร้องเรียนว่าข่มขู่คุกคาม ไปที่บ้านพักส่วนตัวโดยพลการ ไม่แต่งเครื่องแบบ ไม่แสดงบัตรไม่มีหมายค้นและไม่ได้รับความยินยอม และพบว่ามีการบังคับให้รับสารภาพโดยออกอุบายว่า บุคคลอื่นได้รับสารภาพแล้ว เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอละเมิดรัฐธรรมนูญเสียเอง เหมือนมีธงในใจเพื่อโยงให้เข้าใจว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย มีการส่งเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ตรวจสอบแล้ว และจะยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการทำหน้าที่ของดีเอสไอ รวมถึงยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยต่อไป“วันนอร์” มึนสร้างศาลาแก้วไว้ทำไมที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำคำของบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่า เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งมาแล้วอยู่ในขั้นตอนคำของบประมาณ บางอย่างก็ไม่ได้ เช่น ที่จอดรถไม่ได้ทั้งหมดเพราะยังจำเป็นน้อย เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.งบประมาณฯคงถูกตัดลดงบฯอีก สภาฯเป็นสถาบันของชาติ อยากให้เห็นว่าทำอะไรด้วยความโปร่งใส ถูกต้อง สมบูรณ์ มีศักดิ์ศรี ประชาชนเข้ามาจะได้เห็นว่าเป็นสถาบันที่สง่างาม เราอยากทำอะไรให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ใช่ทำอะไรแค่พอเสร็จทุกอย่างต้องโปร่งใส เห็นด้วยที่ สส.หรือสื่อมวลชนตรวจสอบ เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์การของบปรับปรุงศาลาแก้ว นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ศาลาแก้วยังไม่ได้ใช้งาน ไม่ทราบว่าตอนที่สร้างสร้างไว้ทำไม ดูอาคารรัฐสภากับศาลาแก้วไม่รู้ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร เมื่อสร้างเสร็จตรงนั้นเป็นลานสำหรับประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ส่วนศาลาแก้วอาจเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ 2 ข้าง มีพิธีต่างๆ อาจต้องใช้ศาลาแก้วเป็นการปรับปรุงให้ใช้งานได้ และไม่ใช่ผู้บริหารสภาชุดนี้จัดสร้าง“แบด” แจงยิบเงินทุกบาทใช้คุ้มค่านายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนที่ตนรับผิดชอบ มีแค่ 3 โครงการ คือโครงการปรับปรุงห้องสมุด โครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา 120 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงระบบเสียงห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง 99 ล้านบาท ยืนยันจะใช้งบประมาณให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนจะกำกับดูแลทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ในส่วนของพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ตั้งใจทำให้เป็นพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของอาคารรัฐสภา ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ มองว่าจำเป็น ส่วนที่ฝ่ายค้านนิยามว่าเป็นเพียงสุสานที่อยู่ใต้อาคารรัฐสภา ก็เห็นด้วย เพราะหลังรับมอบอาคารมา ตั้งแต่กลางปี 2567 พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้เป็นห้องเปล่า จึงสั่งการให้ฝ่ายที่รับผิดชอบเร่งออกแบบให้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ไม่อยากเห็นสุสานใต้สภาเช่นกัน ส่วนห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง ตั้งใจทำเป็นห้องอบรมสัมมนาสำหรับกรรมาธิการทุกคณะของทั้ง 2 สภา ไม่ต้องเสียเงินไปเช่าพื้นที่โรงแรม และมีการปรับลดลงมาเหลือ 99 ล้านบาทแล้ว จากเดิมเสนอไว้ที่ 160-170 ล้านบาท เมื่อถามว่ายังอยู่ในช่วงการรับประกันตัวอาคาร เหตุใดจึงไม่ให้ผู้รับเหมาปรับปรุง หรือซ่อมในส่วนที่พังเสียหาย นายภราดรตอบว่า งบที่ขอไปไม่ใช่งบซ่อมสร้าง แต่เป็นงบต่อเติม เพราะยังมีส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการ และต้องทำในเฟส 2-3“หนู” ฉุนถูกถามโยงบริษัทรับเหมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การของบปรับปรุงอาคารรัฐสภา ทั้งที่เพิ่งสร้างมาได้เพียง 6 ปีว่า ไม่ใช่การรีโนเวทแต่คือขอเพิ่มงบสร้างพิพิธภัณฑ์ ส่วนการก่อสร้างอะไรเพิ่มเติมตนไม่รู้เรื่อง เมื่อถามย้ำว่าใช้งานมาแค่ 6 ปี แต่อาคารรัฐสภามีความเสื่อมโทรม จนต้องปรับปรุง นายอนุทินตอบว่า มีผู้มาใช้งานเป็นหมื่นคนต้องเสื่อมโทรมเป็นธรรมดา ทั้งเจ้าหน้าที่ สมาชิกรัฐสภา และประชาชน เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่อาคารแบบนี้ต้องซ่อมบำรุง รีโนเวท ปรับปรุง เช่น ลิฟต์ที่มีการใช้เป็นหมื่นๆเที่ยวต่อวัน เมื่อถามว่าแต่บริษัทที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาเป็นบริษัทผู้รับเหมารายใหญ่ นายอนุทินตอบสวนทันทีว่า “ผมเกี่ยวอะไร ไม่รู้จัก ออกมานานแล้ว”“อิ๊งค์” แนะฟังเสียงคนในครอบครัวที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดงานเดือนแห่งสุขภาพใจ “Mind Month” ว่า สุขภาพจิต สุขภาพใจเป็นเรื่องที่สำคัญแต่ถูกมองข้าม ถ้าสุขภาพใจเราไม่แข็งแรง การทำเรื่องอะไรต่างๆค่อนข้างยาก อย่างตนมีลูก 2 คน อยาก สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เขา สิ่งสำคัญคือเราต้องให้เวลาและรับฟังลูกของเรา แม้งานยุ่งอาจไม่ได้มีเวลามาก แต่พอมีเวลาก็พยายามรับฟังเขาให้มาก ว่าเด็กต้องการสื่ออะไร เขามีเรื่องอะไรในใจ เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ต้องเป็นเด็กก็ได้ เราเป็นผู้ใหญ่ ถ้ามีคนรับฟัง และพร้อมจะเข้าใจเรา ทำให้รู้สึกว่ามีคนรับฟัง แน่นอนต่อไปในอนาคตเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจต้องทำคู่กัน จิตใจที่เข้มแข็งมาจากครอบครัวที่เปิดใจรับฟัง และเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ให้กันและกัน ถือว่าสำคัญมาก จากนั้น น.ส.แพทองธารร่วมเสวนากับตัวแทนครอบครัวกลุ่มอาชีพต่างๆ ครอบครัวแรกเป็นอินฟลูเอนเซอร์คุณแม่ลูก 3ยัน “พ่อ” ป่วยจริงพ้อพูดไปก็ไม่เชื่อน.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีเคยขอข้อมูลการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปยังแพทยสภาว่า ยังไม่ได้รับรายงานกลับมา เมื่อถามว่ามีความพยายามโยงว่านายกฯรู้เรื่องทุกอย่างว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ ใช้วิธีรักษาอย่างไร เพื่อนำมาเป็นประเด็นการเมือง น.ส.แพทองธารตอบว่า ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างที่เคยชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าถ้าพูดไปแล้วจะเชื่อกันหรือไม่ เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณป่วยจริงใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ป่วยจริงค่ะ มีการผ่าตัดด้วย” เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่ากรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาประเด็นชั้น 14 จะเป็นการล้มดีลการตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนตอบว่า “คิดเยอะมากเลย วันที่ 13 มิ.ย. ที่ศาลนัดมานายทักษิณต้องเอาเอกสารหลักฐานไปยืนยัน เรามั่นใจอยู่แล้วว่าความจริงเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าให้ตนออกมาพูดถึงความชัดเจนอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี คนเลือกที่จะไม่เชื่อก็จะไม่เชื่อ ทุกวันนี้นายทักษิณก็อายุ 75 ปีแล้ว เวลาเจ็บป่วยอะไรก็หายช้า กว่าปกติ แต่ไม่เป็นไรเพราะความจริงแล้วครอบครัวเราผ่านเรื่องต่างๆมามาก สิ่งที่ทำได้คือต้องเข้มแข็งไว้ เราจะมี mind month กันแล้ว ทำใจให้เบิกบานสดใสไว้ ถ้าเรามีความโกรธความเกลียดมากมายมันไม่ดีกับเราเอง“สมศักดิ์” โต้พักงาน 2 แพทย์ปมชั้น 14นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสข่าวว่าผลสอบแพทยสภากรณีชั้น 14 มีแพทย์ 2 คนโดนพักใบอนุญาตว่า มีสื่อบางฉบับเอาผลการประชุมของแพทยสภามานำเสนอ แต่แพทยสภายังไม่มีการประชุม ไม่รู้ว่าไปรับทราบข้อมูลมาอย่างไร คงเป็นการคาดเดาว่าตนจะไปยับยั้งหรือไม่เห็นด้วยตามระเบียบกฎหมาย ในฐานะ รมว.สาธารณสุข เป็นสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีอำนาจในการยับยั้งหรือเห็นชอบรายงานการประชุมของแพทยสภาตามปกติ และในเอกสารระบุวันที่ 8 พ.ค. จะมีการประชุมแพทยสภานั้น ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมหรือไม่ ยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ได้คิดอะไร ไว้เลย แต่ไม่สามารถโน้มน้าวหรือทำให้ใครเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบได้ เพราะคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ 71-72 ท่าน เป็นสัดส่วนของแพทย์ในมหาวิทยาลัย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ คงไม่สามารถไปล็อบบี้ใครได้ทั้งสิ้น สื่อที่ออกมาพูดในลักษณะตีปลาหน้าไซ ไม่ทราบมีวัตถุประสงค์อะไรก.ม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯจ่อคิวแรกขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวคิดการเปิดเวทีกลางถกเถียงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า รอให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กลับจากภารกิจต่างประเทศก่อน ดูว่าใครจะเป็นโต้โผ อยากให้คนกลางจัดมากกว่า สื่อบางสำนัก จะจัดเองก็ได้ ยินดี รัฐบาลพร้อมจะชี้แจง พยายามจะจัดให้เสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมในเดือน ก.ค. ยังมีเวลาทำความเข้าใจ และกฎหมายฉบับนี้อยู่ในลำดับแรก ถ้าไม่เข้าเลยก็ต้องเลื่อนออกไป“ลุงตู่” ฝาก “เสี่ยหนู” ช่วยนายกฯดีๆที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ทุกครั้งที่ได้เจอ พล.อ.ประยุทธ์รู้สึกดีใจไม่ได้เจอกันมา 2-3 เดือนแล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ปรารภเรื่องอะไรหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่ถามสารทุกข์สุกดิบว่าเป็นอย่างไรบ้าง งานหนักหรือไม่ เป็นกำลังใจให้ เวลาเจอกัน พล.อ.ประยุทธ์จะตบไหล่ให้กำลังใจตลอด ให้ช่วยนายกฯดีๆ ส่วนกรณีมีชื่ออยู่ในเอกสารของ กอ.รมน. พาดพิงถึงสถาบันคนเป็นรัฐมนตรีเจอเรื่องแบบนี้ทุกวัน เป็นเรื่องปกติไม่ได้รู้สึกอะไร ตรงไหนที่รู้สึกว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงเราก็ชี้แจง แต่เคลียร์เรียบร้อยหมดแล้วไม่มีแล้วเลขาฯกฤษฎีกางดจ้อปม “พีระพันธุ์”วันเดียวกัน นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถูกร้องว่ามีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทว่า เรื่องนี้อยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. เราไม่ควรให้ความเห็นให้เกิดความวุ่นวาย เดี๋ยวสังคมจะเข้าใจอะไรไม่ตรงกัน เมื่อถามว่ากฤษฎีกาเคยมีการทักท้วงในเรื่องนี้หรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า เป็นไปตามกฎหมาย กฎหมายเขียนอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น เมื่อถามย้ำว่ารัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทได้หรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่ข้อกฎหมายเขียนไว้อย่างไรก็เป็นอย่างนั้นเจ้าตัวย้ำไม่กังวลสอบคดีถุงยังชีพนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีการแจกถุงยังชีพที่แปะสติกเกอร์รูปตัวเองว่า ป.ป.ช. ยังไม่ส่งหนังสือมาถึง เมื่อถามย้ำว่ากังวลหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบสั้นๆว่าไม่มีนักร้องหน้าเดิมตามเกาะกระแสที่สำนักงาน กกต. นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นเรื่องร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบการกระทำของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.กรณีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริหารใน 4 บริษัท นายสนธิญากล่าวว่า ขอเรียกร้องนายพีระพันธุ์ออกมาแถลงข่าวให้ชัดเจน ต่อมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายสนธิญาเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ผ่าน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบนายพีระพันธุ์ในกรณีเดียวกัน นายสนธิญากล่าวว่า หากนายกฯเพิกเฉย อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ภาคประชาชนจี้สอบเอี่ยว “ด้อมพัง”ที่รัฐสภา นายอรรทิตย์ฌาณ คูหาเรืองรอง กลุ่มภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมและบทบาทของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ ว่า เกี่ยวข้องส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างด้อมพีระพันธุ์ หรือด้อมพัง (ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) หรือไม่ นายอรรทิตย์ฌาณกล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมล่วงละเมิดหรือคุกคามผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง โดยใช้ข้อความหยาบคาย รวมถึงการบูลลี่เด็กพิเศษ และยังมีเรื่องคุกคามสิทธิเสรีภาพคนที่มีความเห็นต่าง ขอให้ตรวจสอบว่านายพีระพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างกลุ่มแฟนคลับนี้หรือไม่ เพราะมีการใส่เสื้อลักษณะเดียวกับกลุ่มดังกล่าว มีหลักฐานที่แฟนคลับไปช่วยกันแพ็กเสื้อกลุ่มด้อมพัง รวมถึงปฏิทินของพรรค รทสช. และคาดว่าจะใช้สถานที่ราชการ คือบ้านพิบูลธรรมที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายพีระพันธุ์“ผู้กอง–นฤมล” รับ “เอกราช–บิ๊กโอ”ช่วงเย็นที่ทำการพรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค กธ. ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีกับนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือบิ๊กโอ ว่าที่ สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 และนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เข้าเป็นสมาชิกพรรค กธ. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร สส.ขอนแก่น อาทิ นายพงศกรณ์ เสาร์ทน นายธนิก มาสีพิทักษ์ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คาดว่า กกต. ให้ประกาศรับรองนายก้องเกียรติภายในสัปดาห์นี้ ขณะนี้เราเริ่มเฟ้นหาว่าที่ผู้สมัคร สส.แล้ว เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เราต้องเตรียมตัวไว้ และภายในเดือน พ.ค.นี้ จะมี สส.ฝ่ายค้านทยอยมาเปิดตัวกับพรรค เรากำลังเนื้อหอมหลังชนะเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ส่วนจำนวน สส.ที่เพิ่มขึ้น ไม่มีการนำไปรวมกับการปรับ ครม. เรากำลังสร้างบ้านให้มั่นคง สร้างความเชื่อถือแก่พี่น้องประชาชน ไม่มีต่อรองโควตารัฐมนตรีส่ง F–16 สกัดอากาศยานไม่ทราบฝ่ายที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 12.45 น. กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ จากกองบิน 4 (บน.4) อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ขึ้นบินเพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย ที่เรดาร์กองทัพอากาศตรวจพบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จ.กาญจนบุรี มีทิศทางเข้าใกล้แนวชายแดน