ผอ.สปภ.กทม.เผยผลการค้นหาพื้นที่ชั้นใต้ดินทั้งหมดของตึก สตง.ที่พังถล่ม ไม่พบผู้สูญหายเพิ่มเติมคาดว่าผู้ประสบภัยที่เหลืออาจติดอยู่ซากตึกบริเวณ โซน B จุดที่เชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ วิ่งหลบหนีขณะอาคารถล่ม สอดคล้องกับที่พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่พยายามหนีออกมาทางบันไดหนีไฟ ทีมงานลุยค้นหาต่อทุกตารางนิ้วเคลียร์พื้นที่จนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ คาดเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค. ผกก.สน.บางซื่อเตรียมเสนอคณะพนักงานสอบสวนพิจารณาขออายัดที่เกิดเหตุไว้สอบสวนหาหลักฐาน หลัง กทม.ยุติการรื้อถอนและค้นหาร่างผู้ติดค้าง ด้านโฆษกดีเอสไอแจงความคืบหน้าคดีจ่อเรียกบริษัทร่วมยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้าง สตง. แบบ E-bidding มาให้ปากคำกรณีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ทำให้มีผู้สูญหายหลายรายอยู่ในซากตึก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยเร่งตรวจสอบพร้อมทั้งจำลองเหตุการณ์เพื่อหา สาเหตุที่ตึกถล่ม ด้านคดีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทุกความผิด รวมทั้งมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้เอาผิดผู้เซ็นสัญญาสร้างตึกฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ม.157 หลังเหตุตึก สตง.ถล่มผ่านไปเดือนกว่า ถูกสังคมจับตามอง เนื่องจากคดีขณะนี้ไม่คืบหน้าเพียงจับกุมผู้ต้องหา บ.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินคดีความผิดนอมินี 4 ราย ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย กทม.ระบุ เหลือยอดผู้ที่สูญหายอยู่ระหว่างค้นหาจำนวน 13 ราย จากทั้งหมด 109 ราย คาดว่าไม่เกิน 3-4 วัน เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่ที่เหลือบริเวณชั้นใต้ดินโซน B สุดท้ายได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 พ.ค. บรรยากาศการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายเข้าสู่วันที่ 40 เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานยังคงระดมกำลังค้นหาผู้ติดค้าง คาดว่าอยู่ที่บริเวณชั้นใต้ดินของซากอาคาร สตง.โซน B ใช้เครื่องจักรหนักและเดินเท้าสำรวจ รวมทั้งมีทีม กล้องโดรนจากมุมสูงประสานกันทำงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสามารถเปิดพื้นที่รื้อแผ่นคอนกรีตและซากอาคารออกถึงชั้นใต้ดินครบทั้งหมดแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารพื้นที่ทั้งหมด 40×40 เมตร เหลือเพียงแค่ส่วนพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารสำนักงาน โซน B กับอาคารจอดรถ และอาคารหอประชุม เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนกระดูก 1 ชิ้น ที่บริเวณโถงบันได ชั้นใต้ดินโซน C นอกจากนี้ ตรวจพบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ที่กองทิ้งซากวัสดุก่อสร้างอาคาร สตง. บริเวณด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้แก่ ชิ้นเนื้อ 2 ชิ้น กระดูก 2 ชิ้น และเส้นผม สรุปยอดเวลาการค้นหา ผู้สูญหายเมื่อเวลา 18.25 น. ของวันที่ 5 พ.ค. มีจำนวนผู้ประสบเหตุ 109 คน แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต ยืนยันผลตรวจอัตลักษณ์บุคคล 87 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 13 คนที่กองอำนวยการร่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.การ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม) กล่าวถึงความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหา ผู้สูญหายและการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตว่า วันนี้เปิดพื้นที่และแผ่นคอนกรีตรวมทั้งซากอาคารทั้งหมดถึงชั้นใต้ดินครบหมดแล้ว ทั้งรอบอาคารและ ในตัวอาคาร เหลือในส่วนของตัวซากอาคารที่ล้มลงไป กองอยู่ด้านข้างโซน B ชิดกับอาคารจอดรถ ความสูง ประมาณ 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร ถึงแม้เนื้องาน ไม่มากแต่ต้องระมัดระวัง เพราะเครื่องจักรหนักที่อาจไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลงไปได้ คาดว่าใช้เวลา ประมาณ 2-3 วัน น่าจะเสร็จการค้นหาผู้ประสบภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. ถึงเช้าวันที่ 6 พ.ค. ในตัวอาคาร ไม่พบร่างผู้ประสบภัยเพิ่มเติม อย่างที่ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวคือเป็นการพลิกแผ่นดิน พลิกพื้นอาคารออกให้หมดเพื่อยืนยันว่ามีหรือไม่นายสุริยชัยกล่าวต่อว่า ร่างของผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะ 200 กว่าชิ้น ต้องรอสถาบันนิติเวชวิทยาตรวจการพิสูจน์ DNA ว่าเป็นร่างของ มนุษย์ทั้งหมดกี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งมา 109 คนหรือไม่ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องไปสืบหาว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนตรงไหนบ้าง ส่วนข้อมูลของทางพนักงานสอบสวนผู้สูญหายที่เหลือจำนวน 13 ราย ในตัวอาคาร ไม่มีแล้ว แต่กองซากอาคารที่ยังค้างอยู่ 1 กองค้นหา แล้วในช่วงแรก แต่จากการวิเคราะห์อาจถูกทับอยู่ ในชั้นแผ่นพื้นอาคาร เพื่อให้สิ้นความสงสัยเรายังดำเนินการต่อ ส่วนรายชื่อพนักงานสอบสวนที่ให้มา การยืนยันตัวตนอัตลักษณ์ของทางนิติเวชฯยังไม่สามารถยืนยันได้ครบ ร่างที่แจ้งมาว่าพบ 87 ราย ยืนยันและสามารถคืนร่างได้แค่ 45 ราย แต่ข้อมูลการออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ ถ้าเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่มีก็คือไม่มี ต้องย้อนกลับไป ที่ฐานข้อมูลที่ได้รับมาว่าจำนวนผู้สูญหายตรงหรือไม่ รวมทั้งชิ้นส่วนศพต้องเร่งพิสูจน์ DNA เพื่อระบุตัวตนเพิ่มเติมต่อไปต่อมา เวลา 10.45 น. นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และโฆษก กทม. พร้อมด้วย นายสุริยชัย ระวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. นำสื่อมวลชนลงพื้นที่บริเวณตึก สตง.ที่พังถล่ม เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงาน นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผอ.สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กทม. กล่าวสรุปผลการดำเนินงานในจุดเกิดเหตุว่า ลักษณะของอาคารที่ถล่มเป็นอาคารสูง 30 ชั้น มีพื้นที่รวม 40×40 เมตร หรือประมาณ 50,000 ตารางเมตร มีลิฟต์ 10 ตัว หลังจากเกิดเหตุถล่มแล้วโครงสร้างอาคารลาดเอียงไปทางด้านหลังเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ คาดการณ์ว่าช่วงระหว่างที่ถล่มอาจมีคนวิ่งเข้ามาในส่วนของอาคารจอดรถ ต้องค้นหาในบริเวณนี้ต่อจนกว่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการจำลองการหนีส่วนใหญ่ของทุกชั้นคนจะวิ่งไปที่บันไดหนีไฟ เป็นจุดเดียวของอาคารที่เชื่อมระหว่างอาคาร 30 ชั้น กับอาคารจอดรถ อาจมีผู้ติดค้างติดอยู่บริเวณเศษซากอาคารบริเวณจุดเชื่อม สอดคล้องกับที่พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโซน C ตรงจุดที่คาดว่าเป็นช่วงบันไดหนีไฟ เบื้องต้นจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค. เจ้าหน้าที่จะค้นหาและนำผู้ติดค้างออกมาให้ได้ครบถ้วนที่สุดด้าน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า หาก กทม.ยุติปฏิบัติการการรื้อถอน และค้นหาผู้ติดค้างภายใต้ซากโครงสร้างอาคาร สตง.และคืนพื้นที่เกิดเหตุให้ สตง.และผู้รับเหมาโครงการก่อสร้าง พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ อาจจะขออายัด พื้นที่ไว้สอบสวนหาหลักฐานต่อไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ คณะพนักงานสอบชุดใหญ่พิจารณาว่า หลักฐานที่เก็บรวบรวมจากที่เกิดเหตุทั้งหมดเป็นประโยชน์ในการสอบสวนมากพอหรือยังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ติดตามความคืบหน้าทางคดีทุกประเด็นที่มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการตลอดสัปดาห์ เช่น คำให้การของพยานวิศวกรถูกแอบอ้างชื่อ และถูกปลอมลายเซ็นควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. การลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานบริเวณไซต์งานก่อสร้าง การพิจารณาพฤติการณ์ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 โดยเฉพาะเรื่องการประมูลงานโครงการ และการควบคุมงานก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้า PKWพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวหลังประชุมเสร็จสิ้นว่า ในที่ประชุมมีวาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1.การติดตามความคืบหน้าคดีนอมินี ขณะนี้รอเอกสารการชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย คาดว่าจะสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในไม่เกิน 20 วัน 2.อธิบดีดีเอสไอได้สอบถามประเด็นในคดีฮั้วประมูลว่า มี ความผิดหรือไม่ ในประเด็นนี้มีหลักฐานอยู่ 2 ส่วน คือพนักงานสอบสวนดีเอสไอรวบรวมเอง และคำกล่าว โทษจากพยานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเสนอราคา โดยเฉพาะประเด็นการควบคุมงานที่ไม่ถูกต้อง อธิบดีสั่งกำชับให้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปรากฏว่ามีมูลข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด และ 3.ติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวเนื่อง คือคดีภาษีอากร หลังจากกรมสรรพากรได้มากล่าวโทษร้องทุกข์ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด มีความคืบหน้าไปอย่างไร ล่าสุดได้รับการชี้แจงว่าในเอกสารที่นำมาเครดิตภาษีได้ตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า บริษัทดังกล่าวมีตัวตนจริงหรือไม่ ก่อนมาให้ถ้อยคำเป็นพยานในคดีต่อไปโฆษกดีเอสไอกล่าวต่อว่า ในส่วนคดีนอมินีมีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม และส่งสำนวนให้อัยการภายในกรอบระยะเวลา 20 วัน นายบิน ลิง วู ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบไม่อยู่ในสถานะพยาน แต่ว่าเป็นประเด็นที่กำลังขยายผลต่อเนื่อง สถานะนายบิล ลิง วู ยังถือว่าเป็นนักธุรกิจชาวจีน กรณีนายกวิศวกรรมโครงสร้างได้แนะให้กระจายเก็บปูนทุกส่วน แม้แต่เศษลูกปูนที่มาจากการรื้อถอนในพื้นที่ตึก สตง.ถล่มนั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอร่วมกับเจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน คือกรมโยธาธิการและผังเมืองที่ดูในเรื่องของคอนกรีต สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจสอบเรื่องของเหล็กเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือไม่ และกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ สน.บางซื่อ เพื่อตรวจและทำเป็นรายงาน สามารถนำไปใช้ร่วมกันได้ในสำนวนคดี ส่วนกรณีการตรวจสอบลายเซ็นปลอมของวิศวกร ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตรวจกองพิสูจน์หลักฐานดูว่า วิศวกรเป็นผู้เสียหายโดยตรงจริงหรือไม่ เพื่อนำไปใช้แจ้งความอีกส่วนหนึ่ง แต่ยังมีอีกส่วนนำมาใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของดีเอสไอ กรณีที่วิศวกรถูกปลอมเอกสารจะเป็นความผิดในฐานอาญาอื่น และการสอบสวนวิศวกรส่วนใหญ่บอกว่าไม่ใช่ลายเซ็นตัวเอง หลังจากนี้จะเรียกบริษัทที่ร่วมยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้าง สตง. แบบ E-bidding มาให้ปากคำ แต่สัญญาอื่นงานออกแบบและคุมงานจะเป็นการคัดเลือกอยู่ระหว่างพิจารณาล่าสุด เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้า ภารกิจกู้ภัยคนงานที่ประสบภัย และผู้สูญหายจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่พังถล่ม ของวันที่ 6 พ.ค.68 มีจำนวนผู้ประสบเหตุ 109 คน แยกเป็นผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 88 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 12 คน ทั้งนี้ จำนวนผู้สูญหาย ที่พบเพิ่มเติม 1 ราย เป็นรายที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนอวัยวะ ผู้เสียชีวิตทั้ง 88 ราย ที่สถาบันนิติเวชฯตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แบ่งเป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 79 ราย และเป็นชิ้นส่วนตรวจพิสูจน์แล้วตรงกัน 9 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดสามารถพิสูจน์ ยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นใคร 68 ราย ส่งมอบร่างให้ญาติ รับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว 52 รายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่