ระยะหลังๆมานี้ การก่อความไม่สงบในพื้นที่ จ.ภาคใต้ เริ่มจะมีความผิดปกติ ตั้งข้อสังเกตจากการเลือกเหยื่อในการก่อความรุนแรง จะเป็นเชิงสัญลักษณ์ เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่รัฐ พระภิกษุสงฆ์ เด็ก คนชรา ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานด้านความมั่นคง ประกอบด้วย กอ.รมน.ภาค 4 กองทัพภาคที่ 4 หน่วยงานด้านปกครอง ไม่ปรากฏความชัดเจนของแนวทางในการรักษาความสงบอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และการขอความร่วมมือจากชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น หรือผู้นำทางศาสนาเท่านั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า พี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บางอำเภอใน จ.สงขลา มีความผูกพันและความสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนตามบริเวณชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็เป็นปกติของจังหวัดชายแดนทุกภาคของประเทศไทย ผูกพันกันด้วย ศาสนา วัฒนธรรม ภาษาและขนบธรรมเนียมประเพณี อันที่จริงแล้วบ้านเรามีการอยู่ร่วมกันของคนหลายเชื้อชาติ ศาสนามาเป็นเวลานานมีภาษาถิ่นมากมาย ไม่เฉพาะภาษาอีสาน หรือภาษาใต้ ยังมีภาษามาลายู หรือประชาชนในภาคอีสาน จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ในอำเภอที่อยู่ติดกับประเทศกัมพูชาก็จะใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาถิ่น หรือที่เราจะได้ยินเป็นประจำแต่เราไม่เข้าใจคือภาษาพม่า ซึ่งมีประชากรเมียนมาที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยทั้งผิดกฎหมายและถูกฎหมายประมาณ 5 ล้านคน ยังมีไทยใหญ่ ลาว เวียดนาม ญวนกลุ่มชาติพันธุ์อีกไม่น้อยกว่า 23 กลุ่มชาติพันธุ์มาสู่คำถามที่ว่า เหตุใดจึงไม่มีปัญหาในการอยู่ร่วมกัน ทำไมในสามจังหวัดภาคใต้จึงมีปัญหา ทั้งๆที่ฝ่ายความมั่นคงทุ่มเทลงไปแก้ปัญหาเป็นพิเศษ ทุ่มเทงบประมาณลงไปหลายหมื่นล้านบาท ใช้เวลาในการแก้ปัญหามาหลายสิบปี แต่ปัญหายังทรงกับทรุด เป็นเพราะวิธีการและยุทธวิธีในการแก้ปัญหา หรือมีอะไรที่มากกว่านั้น ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะ กอ.รมน.น่าจะตอบคำถามได้ดีที่สุดพล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ให้สัมภาษณ์สื่อ หลังมีการก่อเหตุความรุนแรงมากขึ้นว่า ได้สั่งให้ กอ.รมน.ภาค4 เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในพื้นที่ เน้นการทำงานร่วมกันของผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนา กำชับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบและเสริมกำลังในจุดที่มีกำลังไม่เพียงพอ โดยเน้นการป้องกันในช่วงเวลาละหมาดค่ำคือ 19.00-20.00 น. ที่คนร้ายจะใช้เป็นจังหวะในการก่อเหตุ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชน ผู้นำชุมชนร่วมกันแสดงพลังประณามการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ และย้ำว่าผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อเหตุอาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายที่จะมีการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเด็ดขาด และขอความร่วมมือประชาขนในการแจ้งเบาะแสได้ที่สายตรง 06-1173-2999 หรือสายด่วน 1341มาตรการแก้ไขปัญหา ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษเป็นยาสามัญประจำบ้าน กับท่าทีของรัฐบาลที่ยังมองข้ามความปลอดภัย ในขณะที่เรามี อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ควรจะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาภาคใต้ให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ หรือมีขยะอะไรที่ซุกอยู่ใต้พรมความมั่นคง.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม