ก็ได้แต่คาดการณ์กันไปว่าจะอย่างนั้นอย่างนี้ ตามแต่ฐานข้อมูลและฐานความรู้สึก หากใครชอบก็ชี้ออกมาในแง่บวกแต่ถ้าไม่ชอบก็จะออกไปในทางลบมันก็เป็นอย่างนี้แหละเพราะแม้แต่ “ทักษิณ ชินวัตร” คนต้นเรื่องก็ต้องมองในแง่ดีไว้ เพราะเป็นเรื่องของเขาเองที่ไม่มีใครให้ร้ายตัวเองแน่นี่เป็นบรรยากาศว่าด้วยเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจที่ “ทักษิณ” เข้าไปรักษาตัวเพื่อไม่ต้องติดคุก จะด้วยอะไรก็แล้วแต่แต่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยบอกว่า เป็นการใช้อภิสิทธิ์ชน เพราะไม่ได้ป่วยจริง แต่มีการช่วยเหลือหาช่องทางแบบเนียนๆระบบราชการไทยมีช่องให้ทำอย่างนั้นได้ หากเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจจนบ้านเมืองเสื่อมทรุดเพราะระบบมันไร้ประสิทธิภาพเป็นงูกินหางไปทั้งประเทศ!เรื่องนี้คงอีกไม่นานก็คงจะทราบผลว่า มีความเป็นมาอย่างไรก็ต้องฟังศาลที่จะใช้วิธีการไต่สวนหาข้อเท็จจริงผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ“ทักษิณ” นั้นดูท่าทางมีความมั่นใจอ่านทางทนายความที่บอกว่า ไม่น่ามีปัญหา สามารถชี้แจงได้ หรือเป็นกลางหน่อยก็บอกว่า “ดี...สังคมจะได้รู้ความจริง”แต่เจ้าตัวยังไม่ได้แสดงความเห็นให้ปรากฏ แต่บรรดาพวกที่แวดล้อมให้ความเห็นเท่านั้น ซึ่งก็ออกมาในแง่ดีอันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใครจะให้ร้าย “นายใหญ่” ได้เรื่องนี้มันต้องเท้าความไปตอนที่ “ทักษิณ” ตัดสินใจกลับประเทศไทย ซึ่งมีข่าวว่าได้มี “ดีลพิเศษ” ระบุว่า “ทักษิณ” กลับมาแต่ต้องทำงานแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองคือขวางไม่ให้ “ส้ม” เป็นใหญ่ในแผ่นดินได้นั่นคือข้อตกลงและทำให้ “ทักษิณ” กลับเมืองไทยอย่างเท่ๆ “ไม่ต้องติดคุก” และ “เพื่อไทย” เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่มีขั้วเป็นรัฐบาลที่ “ลุง” ก็ร่วมด้วยทุกอย่างจึงผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น!“ทักษิณ” สามารถแสดงบทบาททางการเมืองได้อย่างเต็มที่ แต่ช่วงไหนล้ำเส้นไปหน่อยก็จะมีมาตรการเตือนให้ระมัดระวังก็เบาลงไปหน่อยนี่คือจุดที่ทำให้ “ทักษิณ” มั่นใจว่าเขามี “ตั๋วพิเศษ” เหนือกว่าคนอื่นๆทำให้เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาจะไม่ทำให้เขาต้องตกเป็นจำเลยได้ เพียงแต่ถามไปถามมาเท่านั้น ไม่ถึงขั้นติดคุกติดตะรางดังนั้น ไม่ว่าจะมีคดีอะไรก็ตามจะรอดหมดไม่ว่าคดี ม.112 หรือคดีชั้น 14 ก็จะรอดนี่ว่ากันตามสภาพการณ์และความเป็นมาที่สอดคล้องกันก็มีคำถามว่า “ทักษิณ” จะหนีหรือไม่ ตอบแบบตรงๆคนที่เคยหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปี ย่อมรู้ถึงสภาพและความรู้สึกว่าเป็นอย่างไรมันย่อมขมขื่นใจแน่ ใครไม่เคยโดนก่อนย่อมไม่รู้เอาเป็นว่า “เขา” คงไม่หนีแล้ว!แต่คงลุ้นจนหยดสุดท้ายอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะซื้อใจกันมาแล้ว สุดท้ายก็คงมีทางออกแบบผ่อนหนักเป็นเบาได้ที่สำคัญ ก็คือ พันธกิจที่ตกลงกันไว้ก็ยังไม่ได้ทำอะไรออกดอกออกผลแม้แต่น้อย มีแต่สถานการณ์ทรุดลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจหากไม่ดีขึ้น การเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกมุมหนึ่งการที่ศาลพลิกบทหันมาเล่นเกมนี้เอง ก็เพราะต้องการให้ทุกอย่างจบลงอย่างสมบูรณ์แบบนี้ไม่ต้องมีอะไรค้างคาใจอย่างที่เกิดขึ้น!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม