พท.ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ศาลฯนัดไต่สวน “ทักษิณ” นอนป่วยชั้น 14 รพ.ตำรวจ “ชูศักดิ์” ชี้ศาลไต่สวนเองจะได้กระจ่างชัด ยันจำเลยอยู่โรงพยาบาลถือว่าถูกคุมขัง “วิสุทธิ์-นพดล” ให้กำลังใจ รมต.เป้าปรับ ครม. เร่งปั่นผลงานให้เข้าตา พท.สยบแรงกระเพื่อม ปรับแผนเลื่อนปรับ ครม.หลังงบฯปี 69 ผ่านสภาฯ “ไหม” ชี้อัยการภาค 6 ไม่สั่งฟ้อง “พอล แชมเบอร์ส” แค่แก้เปลาะแรก จี้นายกฯเร่งสื่อสารเป็นเอกภาพในห้วงวิกฤติ ยึดอำนาจตัดสินใจสูงสุดก่อนพาประเทศ ชาติลงเหว ป.ป.ช.จ่อฟัน รมต.ขัดจริยธรรม ติดชื่อหราบนถุงยังชีพ “พีระพันธุ์” โวยถูกกลั่นแกล้งปชน.จวกสภาถลุง 180 ล้าน พัฒนาระบบโรงหนัง 4D แฉวุฒิสภาไม่น้อยหน้าขอ 2.3 ล้านบาทให้ 15 สว. เรียนภาษาจีนก่อนบินเข้าแคมป์กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 13 มิ.ย.ถูกจับตาว่าอาจส่งผลกระทบทางการเมืองต่อรัฐบาล ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐ มนตรีและฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันการที่นายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถือว่าถูกคุมขังเหมือนกัน“ชูศักดิ์” มองศาลไต่สวนชั้น 14 จะได้ชัดเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในวันที่13 มิ.ย.ว่า ถ้าไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน ปกติคดีความมักมีโจทก์จำเลย โจทก์ผู้ร้องศาลได้ยกคำร้อง แต่ศาลได้ใช้อำนาจไต่สวนเอง แต่เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันที่จะทำให้กระจ่างชัดว่าท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร เพราะประเด็นมีแค่เพียงว่า ฝ่ายคัดค้านมีความเห็นทำนองว่าไม่ได้ป่วยจริง ขณะที่กรมราชทัณฑ์ แพทย์รพ.ตำรวจ ต่างมีหลักฐาน เอกสาร มีคำรับรอง เป็นไปตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง แต่อีกฝ่ายไม่เชื่อตรงนี้ มีการอภิปรายในสภาฯ ฉะนั้น ถ้าศาลสั่งไต่สวนเองมองแง่ดี ก็ดีเหมือนกันจะได้ชัดเจนสักทีจำเลยอยู่ รพ.ถือถูกคุมขังเหมือนกันเมื่อถามว่าเอกสารต่างๆ เช่น เวชระเบียน ต้องถูกนำมาเปิดเผยในศาลใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สุดแต่ศาลจะมีหมายเรียกมาผู้เกี่ยวข้อง เท่าที่ได้อ่านดู มีทั้งโจทก์และจำเลย เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมราชทัณฑ์ แพทย์ ต้องให้เอกสารหลักฐานกับศาล มีความเห็นไป ความเข้าใจของผู้คนมีความรู้สึกว่าการมารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ใช่การถูกควบคุมตัว ทราบกันดีว่าระเบียบกรมราชทัณฑ์ การควบคุมตัวหรือการคุมขังเป็นคนละส่วนกับศาลยุติธรรม ศาลยุติธรรมมีหน้าที่พิพากษา แต่การบริหารโทษ การจัดการ เช่น การอภัยโทษ การที่คนจะได้รับการยกเว้นโทษได้รับการพักโทษ เขามีระเบียบและกฎหมายอยู่ อายุมากเกิน 65 ปีมีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ คล้ายไปสื่อทำนองว่าเป็นเรื่องไม่ได้ถูกควบคุม ไม่ได้ถูกคุมขัง จริงๆการอยู่ในโรงพยาบาลถือเป็นการถูกควบคุมหรือถูกคุมขังเหมือนกันส่งตัว “ทักษิณ” เป็นอำนาจราชทัณฑ์เมื่อถามว่าหากเอกสารที่ส่งให้ศาลชัดเจน ในส่วนของนายทักษิณน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ความน่าเชื่อถือของแพทย์ กรมราชทัณฑ์ ที่ได้ดำเนินการเป็นไปตามความเห็นของผู้มีวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เมื่อถามย้ำว่ามีปัญหาข้อกฎหมายต้องใช้กฎหมายราชทัณฑ์ หรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าการส่งตัวไปโรงพยาบาลต้องขอศาลก่อน นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ต้องขอศาล เพราะเป็นกฎระเบียบและอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ต้องดูแล พ้นหน้าที่ของศาลแล้ว เมื่อถามว่าหากมองแง่ไม่ดี การที่ศาลเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงครั้งนี้จะกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ เพราะนายทักษิณมีบทบาทมาก นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลถูกไหม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีอำนาจเต็ม ไม่ได้กระทบอะไรรัฐบาลขออย่ามโนคอมเพล็กซ์คือกาสิโนนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ เปิดเผยว่า หลายเดือนที่ผ่านมาฝ่ายไม่เห็นด้วยกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองโจมตีโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่าเป็นกาสิโน รัฐบาลมีการชี้แจงมาตลอดถึงความเป็นมาของโครงการและความจำเป็นต้องมี แต่กลุ่มคัดค้านไม่รับฟังเหตุผล มุ่งแต่โจมตีสร้างวาทกรรมทำลายล้างรัฐบาล ยืนยันว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รายได้หลักจะมาจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเข้าพักโรงแรมระดับ 5 ดาว ศูนย์อาหาร ร้านค้าแบรนด์เนม สินค้าโอทอป 5 ดาวของไทย สวนสนุก สวนน้ำ ห้องประชุมและคอนเสิร์ตในฮอลล์รองรับคอนเสิร์ตระดับโลก สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ขายนักท่องเที่ยวในอนาคต กลุ่มต่อต้านพยายามโจมตีว่าทั้งโครงการเป็นกาสิโน ไม่มองส่วนประกอบในโครงการ ต่างจากบ่อนการพนันในเพื่อนบ้าน อย่ามโนกันไป ขณะเดียวกัน มั่นใจโครงการนี้ เป็นนโยบายรัฐบาลเชื่อว่าทุกพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยแน่ พรรคฝ่ายค้านบางพรรคมีนโยบายที่เปิดกาสิโนในประเทศไทย แต่มาวันนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลกลับสร้างวาทกรรมมาโจมตีรัฐบาล เหมือนเป็นฝ่ายแค้นมากกว่า“วิสุทธิ์”ให้กำลังใจ รมต.ทำงานเต็มที่ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้นายกฯจะยืนยันว่ายังไม่มีคิดที่จะปรับ ครม.ในตอนนี้ว่า หลังจากสื่อเขียนไปแล้วนายกฯออกมาปฏิเสธ ทำให้ตอนนี้เงียบไม่มีสัญญาณใดๆจากทางไหน เวลานี้รัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลต้องทำงานเยอะๆ ทุ่มเทแก้ปัญหาให้ประชาชน ให้มีผลงานจะอยู่ได้สบายๆ ขอให้กำลังใจให้ทำงานให้เต็มที่“นพดล” แนะอย่าเสียขวัญเร่งงานเต็มสูบนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท.กล่าวว่า การปรับ ครม.ต้องฟัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่บอกว่ายังไม่ปรับ เพราะเป็นอำนาจของท่าน ต้องเชื่อท่าน รัฐมนตรีที่มีข่าวเชื่อว่าทุกคนต่างต้องทำงานตามหน้าที่ช่วยนายกฯให้ดีที่สุด เพราะถึงอย่างไรอนาคตแต่ละคนอยู่ที่ผลงานและการตัดสินใจของนายกฯ เมื่อยังมีหน้าที่ต้องใช้ทุกนาทีทำงานให้เต็มที่อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ ยอมรับว่าเรื่องการปรับ ครม.มีการพูดคุยกันบ้างในหมู่ สส.พรรค พท.บางกลุ่ม แต่ไม่มีใครไปพูดสร้างแรงกดดันไปยังนายกฯ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกฯตัดสินใจ นายกฯเองต้องรู้ดีที่สุด เพราะทำงานใกล้ชิดกับทั้งรัฐมนตรีและ สส.ยื้อเขย่าหลังงบฯจบให้ทุกอย่างนิ่งสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ย้ำว่าไม่คิดจะปรับ ครม.ในตอนนี้ทำให้ความเคลื่อนไหวเรียกร้องกดดันในพรรค พท.สงบนิ่งลงหากจะมีการปรับ ครม.คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เสร็จสิ้นช่วงเดือน ส.ค.หรือต้นเดือน ก.ย. เพื่อให้สถานการณ์การเมืองนิ่งที่สุดในห้วงพิจารณากฎหมายสำคัญ ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม เมื่อถึงตรงนั้นพรรค พท.อาจยื่นข้อเสนอไปยังพรรคร่วมรัฐบาลขอแลกกระทรวงดึงกระทรวงหลักกลับมาขับเคลื่อนงานของรัฐบาลให้เดินหน้าไปได้ ให้พรรคร่วมฯตัดสินใจจะรับเงื่อนไขแลกกระทรวงตามที่เสนอไปหรือไม่ เนื่องจากการบริหารที่ผ่านมายังไม่ได้รับการตอบสนองดีเท่าที่ควร ทำให้การบริหารงานรัฐบาลติดขัด ส่งผลให้งานตามนโยบายที่พรรค พท.หาเสียงไม่เป็นไปตามที่พรรคแกนนำตั้งใจไว้ จนไม่สามารถดึงคะแนนนิยมกลับมารองรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ อีกทั้งระหว่างนี้ยังจะเป็นช่วงที่ให้รัฐมนตรีในส่วนของพรรค พท.ที่มีกระแสข่าวอาจถูกปรับออก ได้ใช้เวลาแสดงผลงานให้เข้าตาผู้มีอำนาจตัดสินใจ“ชูศักดิ์” ชี้ยังไม่สรุป ก.ม.กู้เงิน 5 แสน ล.อีกเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลมีแผนจะออกกฎหมายกู้เงินวงเงินรวม 5 แสนล้านบาท ควรออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน หรือ พ.ร.บ.กู้เงินจะเหมาะสมมากกว่าว่า ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด เมื่อถามย้ำว่า แนวโน้มควรออกเป็น พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ. นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องไปดูเหตุผลว่ามีความจำเป็นอะไร ถ้าจะออกเป็น พ.ร.ก. เงื่อนไขสำคัญการออก พ.ร.ก.ไม่ใช่อยู่ดีๆจะออกได้ การตรากฎหมายไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล เขายกเว้นไว้กรณีจำเป็น กรณีฉุกเฉิน กรณีเร่งด่วนจำเป็นเท่านั้น ต้องดูว่าท้ายที่สุดแล้วจำเป็นหรือไม่ ปกติการตรากฎหมายต้องเสนอเรื่องผ่านสภาฯที่มีอำนาจโดยตรง ที่ผ่านมายกเว้นเฉพาะกรณีที่จำเป็น เรียกว่า พ.ร.ก. แต่ พ.ร.ก.มีเงื่อนไข ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขจะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญได้อีก ตอนนี้นายกฯยังไม่ได้หารือ“พีระพันธุ์” ถือหุ้นไม่กระทบถึงนายกฯเมื่อถามถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ถูกยื่นตรวจสอบคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนว่า โดยมารยาทไม่ควรพูดเรื่องนี้ และยังไม่ทราบข้อเท็จจริงชัดเจน เมื่อถามว่านักวิชาการระบุว่าหากกรณีนายพีระพันธุ์ขัดรัฐธรรมนูญ อาจมีลักษณะขัดจริยธรรมและส่งผลถึงนายกฯ ผู้แต่งตั้งด้วย นายชูศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเทียบเคียงกับกรณีอื่นที่ผ่านมา เป็นคนละเรื่องกัน นี่เป็นเรื่องตัวบุคคลว่ามีคุณสมบัติหรือไม่ แต่ถ้าถามว่าได้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ ต้องยืนยันว่ามีการตรวจสอบแล้วจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ขอย้ำว่าต้องดูข้อเท็จจริง ไม่อยากไปฟันธงว่าผิดหรือไม่ผิด เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์เป็นนักกฎหมายด้วย มั่นใจหรือไม่ว่าไม่น่าจะตกม้าตาย นายชูศักดิ์กล่าวว่า การแต่งตั้งบุคคลใดๆ นายกฯได้ใช้ดุลพินิจตรวจสอบ รวมถึงมีการตรวจสอบโดย สลค.อย่างละเอียดทุกคน มีการใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้วไม่ฟ้อง “พอล แชมเบอร์ส” แก้เปลาะแรกที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.กล่าวถึง กรณีอธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกันจากสถานศึกษาประชาคมอาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในความผิดมาตรา 112 ว่าถือเป็นสัญญาณว่าแก้ไปได้ เปลาะหนึ่ง แต่ยังมีปมอื่นๆต้องแก้ต่อ เช่น เรื่องชาวอุยกูร์ที่แก้ยากกว่ามาก ต้องเผชิญแรงกดดันจากทางการจีนเช่นกัน ยังไม่แน่ว่าอาจมีพลเมืองอเมริกันที่ยังถูกจับกุมคุมขังอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกหรือไม่ รัฐบาลต้องไปติดตามตรวจสอบ ขอเรียกร้องรัฐบาลสื่อสารตรงไปตรงมา ตกลงที่สหรัฐฯบอกว่าจะพิจารณาเรื่องอื่นด้วยที่ไม่ใช่เรื่องการค้า มันคือเรื่องอะไร จะหาทางออกอย่างไร ความล่าช้ามันชัดแล้ว ไม่ได้เป็นไปเพื่อการเตรียมตัว แต่เกิดจากการผิดพลาดในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเอง ถ้าตามหลังประเทศอื่นที่บรรลุข้อตกลงก่อน รัฐบาลจะชดเชยความเสียหายอย่างไร“ไหม” จี้นายกฯสื่อสารให้เป็นเอกภาพเมื่อถามว่า มีอะไรฝากนายกฯหรือไม่ เพราะไม่เคยตอบคำถามชัดเจน ไม่ว่าตอนนักข่าวถาม หรือสังคมตั้งคำถาม น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า มีนักข่าวถามเรื่องนายพอล แชมเบอร์ส นายกฯตอบแบบไปให้ฝากถามความรับผิดชอบคนอื่น ที่ไม่ใช่นายกฯอยู่ดี พอถามว่ามีข่าวว่าทำให้การเจรจาล่าช้า นายกฯบอกปัดว่าเป็นข่าวลือ แต่ท้ายที่สุดรองนายกฯออกมาคอนเฟิร์มเอง แถมนายกฯบอกว่าอย่ายิงกันเอง แต่คนที่ยิงคนแรกคือพ่อนายกฯที่ยิงนายกฯเอง ตนว่าไปคุยกันในรัฐบาลให้จบก่อน ต้องเตือนนายกฯเลยว่าการสื่อสารที่ชัดเจน สม่ำเสมอ เป็นเอกภาพในรัฐบาลเอง จะเป็นปัจจัยสำคัญในช่วงวิกฤติ ถ้าประชาชนขาดความเชื่อมั่น ไม่ว่ารัฐบาลจะมีข้อเสนอที่ดีแค่ไหน ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นไปไม่ได้จริง และไม่รู้ว่ามันจะปรับเปลี่ยนอีกหรือไม่ยึดกุมอำนาจตัดสินใจก่อนประเทศลงเหวน.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และแก้ยากมาก ไม่แปลกถ้าคุณไม่ใช่เป็นคนที่เป็นศูนย์กลางการตัดสินใจจริง แล้วมีการตัดสินใจอื่นที่ไม่ได้รับรู้ล่วงหน้า ท้ายที่สุดต้องมารับผลที่เกิดขึ้น คุณเหนื่อย และนายกฯอาจยังมึนๆว่าจะเอาอย่างไรต่อ แต่ต้องเร่งมือตัดสินใจด้วย ไม่อย่างนั้นประเทศชาติจะลงเหว เมื่อถามย้ำเรื่องนายกฯตอบนักข่าวให้ไปถามพ่อเถิด หลังศาลฎีกายกคำร้องคดีชั้น 14 น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า ตอนนี้มันเข้าสู่ช่วงที่นายกฯต้องยึดกุมอำนาจการตัดสินใจได้แล้ว ไม่อย่างนั้นประชาชนไม่รู้จะต้องฟังใคร ไม่รู้ตกลงใครมีอำนาจตัดสินใจจริง มันยิ่งเลวร้ายเวลาที่ประเทศกำลังเข้าสู่วิกฤติ และต้องการความรวมศูนย์การตัดสินใจที่เด็ดขาด การสื่อสารที่เป็นเอกภาพ ไม่อย่างนั้นมันเละเทะบี้ รบ.ทบทวนงบฯปี 69 อย่าโบ้ยสภาฯวันเดียวกัน น.ส.ศิริกัญญาโพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ให้ข่าวเรื่องการทบทวนงบฯปี 69 ว่า อยู่ในขั้นตอนของสภาฯว่า จริงๆ ตอนนี้ร่างงบฯยังอยู่กับ ครม. รัฐบาลดึงกลับไปทบทวนได้อยู่ แต่เมื่อการประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมากลับอนุมัติร่างเดิมที่ยังไม่ได้มีการแก้ไข แล้วโบ้ยงานมาให้สภาฯตัดงบเอง จะมีปัญหาเรื่องสภาฯ พิจารณาตัดงบได้อย่างเดียว เพิ่มโครงการไม่ได้อีกแล้ว ต้องแปรงบเข้าโครงการที่หน่วยงานเคยส่งคำขอมาก่อน และแปรงบเข้างบกลาง รายการกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็ง ที่เดิมตั้งไว้ 25,000 ล้านบาท น่าจะเอาไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหลังๆ ถ้าให้ตัดไปไว้งบกลาง ฝ่ายค้านก็คงไม่เห็นด้วย เรียกร้องให้รัฐบาลดึงเอาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ไปทบทวนเอง ซึ่งอาจจะทำให้ล่าช้าไปอีก 1-2 อาทิตย์ ไม่ถึง 3-4 เดือน อย่างที่รัฐบาลอ้าง หรือถ้าจะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำเองจริงๆ ขอให้วงเงินที่ต้องการให้ตัดมาเลย ว่าอยากให้ตัดกี่แสนล้าน และจะเอาไปทำโครงการอะไรบ้าง มีรายละเอียดชัดเจนให้สภาฯ และ กมธ.จากพรรคร่วมรัฐบาลยินยอมให้ตัดงบ และฝ่ายค้านจะสบายใจมากขึ้นว่าไม่ได้ตัดงบเพื่อเซ็นเช็คเปล่าให้รัฐบาลจะเอาไปทำอะไรก็ได้ปชน.จวกสภาถลุง 180 ล. ทำโรงหนัง 4Dเมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรค ปชน. แถลงว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ได้เข้ารับฟังคำชี้แจงจากสำนักเลขาสภาฯและวุฒิสภาในการประชุมคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสาร มวลชนเกี่ยวกับการของบฯก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่พิพิธภัณฑ์รัฐสภา 42 ล้านบาท มีงบผูกพันไปถึง ปี 70 อีกประมาณ 90 ล้านบาท รวม 120 ล้านบาท จำเป็นอะไรของบขนาดนั้น ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ยังมีโครงการพัฒนาระบบโรงภาพยนตร์ 4D ในสภาฯงบ 180 ล้านบาท จำเป็นหรือส่งเสริมการประชาธิปไตยอย่างไรตอบไม่ได้ ของบปรับปรุงห้องประชุม CB406 งบ 118 ล้านบาท ใช้อยู่เป็นประจำไม่เห็นมีปัญหาอะไร ได้รับคำชี้แจงว่ามีเรื่องขอมา รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ครัวอาคารรัฐสภา 117 ล้านบาท งบที่ขอมาทำร้านอาหารได้เลย ได้ถามประธานสภาฯ แต่ยังไม่ได้คำตอบ ยังมีการของบจัดทำระบบภาพระบบเสียงห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง 99 ล้านบาท จะเลียนแบบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินใช่หรือไม่ ขอเรียกร้อง ขอความโปร่งใส รายละเอียดความจำเป็นสว.ขอ 2.3 ล้านเรียนภาษาจีนก่อนเข้าแคมป์นายภัณฑิลกล่าวว่า ส่วน สว.มีการขอตั้งเบี้ยประชุม กมธ.วิสามัญพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน 30 คน เบี้ยประชุมคนละ 1,500 บาท ที่แปลกคือวางการประชุมไว้ 52 ครั้งต่อปี แปลกใจมี กมธ.ทุกอาทิตย์ไม่มีวันหยุด เขาชี้แจงว่าตั้งเผื่อไว้ของบฯ 2.34 ล้านต่อปี ที่น่าสนใจค่าใช้จ่ายเพิ่มทักษะภาษาจีนสำหรับ สว. ใช้เงินหลวงไปเรียนภาษาจีนของบ 2.3 ล้านบาท อ้างว่าเรียนเสร็จจะบินไปเข้าแคมป์ที่ประเทศจีน ขอเฉพาะเจาะจง 15 คน ความชอบธรรมอยู่ตรงไหน ประหลาดมาก ถึงเงินไม่ได้มากแต่ขอเรียนภาษาจีน ถ้าขอเจ้าหน้าที่สภาฯยังพอเข้าใจได้ แต่ สว.จะเรียนคาดหวังผลอะไร เรียกร้องให้เปิดเผยกับประชาชน ไม่สามารถยกมือผ่านได้ในวาระ 1 หรือวาระ 2 เพราะไม่ชอบธรรม เราจะตอบประชาชนอย่างไร เราตรวจสอบคนอื่นแต่เมื่อตัวเราเองยังไม่สามารถตอบสังคมได้ ทุกคนอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร ขั้นตอนต่อไปจะเรียกผู้ออกแบบมาถามเจตนาดั้งเดิมของการออกแบบสภาแห่งนี้ แต่ละพื้นที่เอาไว้ใช้ทำอะไร ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนมท.1 โยนอธิบดี ปค.แจงต้านดีเอสไอที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีมีเอกสารคำสั่งจากอธิบดีกรมการปกครอง ส่งถึงปลัดจังหวัดทุกจังหวัด ลักษณะไม่ให้ความร่วมกับดีเอสไอ ที่มาสอบคดีฮั้ว สว.ในพื้นที่ โดยเอกสารออกก่อนช่วงสงกรานต์ว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ให้ไปถามอธิบดีกรมการปกครอง แต่มั่นใจไม่มีเรื่องที่จะไม่ให้ความร่วมมือเป็นไปไม่ได้ การดำเนินการใดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประชาชนและหน่วยงานราชการ ต้องร่วมมือ แต่ต้องด้วยความโปร่งใส รักษาประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่ใช่มีเจตนารมณ์แฝง กลั่นแกล้งหรือจงใจให้เกิดความเสียหายกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งลั่นไม่เคยคิดแอบอ้างสถาบันเมื่อถามว่าเอกสารประมาณการภัยคุกคามด้านความมั่นคงในราชอาณาจักร ในรอบ 1 ปี ห้วงเวลา 1 ต.ค.67-30 ก.ย.68 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.มีรายชื่อนายอนุทิน ปรากฏอยู่ในหมวดหมู่บุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบัน นายอนุทินกล่าวว่า เพิ่งฟังจากข่าวเมื่อเช้านี้ แต่ยังไม่เห็นเอกสาร แต่อาจต้องมีการขอไป ในฐานะ รมว.มหาดไทยเป็นรอง ผอ.กอ.รมน. ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในการประชุม ที่ผ่านมาเข้าร่วมการประชุม กอ.รมน.แทบทุกครั้ง ยกเว้นครั้งที่ผ่านมา ยืนยันอย่าว่าแต่เรื่องเคยแอบอ้าง แค่คิดก็ไม่เคยคิดอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นใดๆ ในหน้าที่การงานที่ต้องไปแอบอ้างสถาบัน มีความจงรักภักดีในสายเลือดอยู่แล้ว ถ้าถามรู้สึกอะไรกับสถาบันสูงสุดของประเทศ ตอบได้อย่างเดียวว่ามีความจงรักภักดี ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เทิดทูนและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของทุกพระองค์ตลอดมา ขออย่าเอาไปเกี่ยวข้องกับการเมืองผวจ.ปราจีนขอโทษตั้งที่ปรึกษาชาวจีนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าขณะที่นายอนุทิน เดินทางเข้ากระทรวง นายวีระพงษ์ ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรี มายืนรอต้อนรับ พร้อมยกมือไหว้นายอนุทินที่ใช้มือตบที่หัวไหล่ มีการพูดคุยกันสักพัก ก่อนที่นายอนุทินเดินขึ้นไปยังห้องทำงาน ทั้งนี้ ผวจ.ปราจีนบุรีเตรียมพวงมาลัยมากราบขอโทษ รมว.มหาดไทย กรณีเซ็นหนังสือแต่งตั้งชาวจีนเป็นที่ปรึกษา จนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กระทั่งต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งในที่สุดต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ผวจ.ปราจีนฯมาขอโทษที่ทำให้อึดอัดใจ หลังตนให้สัมภาษณ์ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรในคำสั่งดังกล่าว และ ผวจ.ปราจีนฯได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวหมดแล้ว พร้อมให้เหตุผลว่าได้คิดในมุมการกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่อีอีซี เมื่อถามถึงกระทรวง มท.ทำหนังสือถึง ผวจ.ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบการแต่งตั้งที่ปรึกษาและส่งเรื่องกลับมาที่กระทรวง นายอนุทินตอบว่า เป็นเรื่องของปลัด มท. ผู้บังคับบัญชาสูงสุดฝ่ายข้าราชการประจำกกต.สอบสมุดโพยแจกเงินเชียงใหม่ที่ จ.สมุทรปราการ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีคำร้องทุจริตการเลือกตั้งเทศบาล จ.เชียงใหม่ พบสมุดจดโพยแจกเงิน กกต.เชียงใหม่ได้รับเรื่องแล้ว จะนำเข้าสู่กระบวนการสืบสวนต่อไป ขณะนี้มีคำร้องฝ่าฝืนการเลือกตั้งเทศบาล 182 เรื่อง เทียบปี 64 มีคำร้อง 1,742 เรื่อง ถือว่าน้อยลง กกต.ประสานทุกภาคส่วน ทำทุกอย่างไม่ให้เกิดการทุจริต ส่วนการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช ที่มีข่าวซื้อเสียง ได้ทราบข่าวเช่นกัน แต่ยังไม่มีคำร้อง แม้ไม่มีคำร้องไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี อาจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน การประกาศผลต้องดูมาตรา 127 พ.ร.ป.ว่าด้วยเลือกตั้ง สส. เมื่อ กกต.ตรวจสอบเบื้องต้น และมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย จะประกาศผล แต่ต้องไม่ช้ากว่า 60 วันรับปม “ฐิติเชฏฐ์” ทำ กกต.สะดุดนายอิทธิพรกล่าวถึงกรณีนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. ถูกอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งความดำเนินคดีกล่าวหาร่วมกับเจ้าหน้าที่ สตง.วิ่งเต้นจ่ายเงินเพื่อขอเลื่อนตำแหน่ง วงเงิน 3 แสนบาท ว่า ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพิ่งทราบข่าวเหมือนกัน เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบรองรับอยู่แล้ว จึงให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ ยอมรับว่าอาจมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ กกต. แต่ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้พิสูจน์ ถ้าพบว่ากระทำผิดต้องรับผิดชอบ ถ้ายังไม่มีการตรวจสอบก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด ขณะนี้ กกต.ยังไม่สามารถตั้งคณะกรรมการตรวจสอบได้ เมื่อถามว่ามีการหารือกันในคณะกรรมการ กกต. หรือไม่ นายอิทธิพรตอบว่า คุยกันเฉยๆ พูดคุยกันตามปกติ เราให้เกียรติและเคารพกันและกัน เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบรองรับอยู่แล้วเตรียมส่งศาลฎีกาสอย “หมอเกศ”นายอิทธิพรกล่าวว่า กรณี กกต.มีมติตัดสิทธิการเลือกตั้ง พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. กรณีหลอกลวงให้เข้าใจผิดในวุฒิการศึกษาด็อกเตอร์นั้น ขั้นตอนหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการส่งเรื่องต่อศาลฎีกา กกต.กำลังทำคำวินิจฉัยทั้งหมด 6 ประเด็น ต้องใช้เวลา มีกรอบเวลา 60 วัน เพื่อใช้ยื่นคำร้องต่อศาล ส่วนกรณีดีเอสไอเริ่มจำลองเหตุการณ์ประกอบสำนวนคดีฮั้วเลือก สว. ให้ว่าไปตามกระบวนการ แต่ละฝ่ายต่างมีคณะทำงานสืบสวนแต่ละหน่วยงาน คณะทำงานสอบสวน กกต.มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมด้วย การสอบสวนของ กกต.คืบหน้าเรื่อยๆ เหตุที่ต้องใช้เวลาเพราะต้องสอบพยานจำนวนมาก การสมคบร่วมมือกันเป็นกลุ่ม ต้องสอบผู้เกี่ยวข้องทุกคน จะด่วนสรุปโดยปราศจากพยานหลักฐานชัดเจนไม่ได้ ต้องใช้เวลาบ้าง แต่คืบหน้าตามลำดับ ไม่สามารถแทรกแซงได้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากการดำเนินคดี อาจทำให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ นายอิทธิพรตอบว่า กกต.จัดกระบวนการเลือก สว.อย่างเต็มที่ วิธีที่เป็นไปตามกฎหมาย หากหลังจากนั้นมีจุดหรือขั้นตอนใดเห็นว่าไม่ถูกต้องเป็นเรื่องกระบวนการนั้นป.ป.ช.จ่อแจ้งข้อหา รมต.ถุงยังชีพผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ป.ป.ช.เตรียมจะเรียกรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 พ.ค. กรณีการติดสติกเกอร์ชื่อของตัวเองบนถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งที่เป็นถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง โดยพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำขัดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ที่นำมาบังคับใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ทั้งนี้ หลังจากที่ ป.ป.ช.เรียกรัฐมนตรีคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 15 พ.ค. แล้ว จะให้สิทธิชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ก่อนจะสรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาลงมติ ถ้าพบว่ามีความผิดจริงจะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป“พีระพันธุ์” โวยโดนกลั่นแกล้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสข่าว ป.ป.ช.จะเรียกรัฐมนตรีคนหนึ่งไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีผิดจริยธรรม กรณีนำถุงยังชีพไปแจกประชาชน โดยติดสติกเกอร์ชื่อตัวเองบนถุงยังชีพว่า ไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้แจ้งเรื่องมาหรือยัง นายพีระพันธุ์ตอบว่า ไม่ได้แจ้ง ยังไม่ทราบ แต่รู้เรื่องแล้ว เพราะมันกลั่นแกล้งกันมานานแล้ว เมื่อถามว่า จะไปตามที่ ป.ป.ช.เรียกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ป.ป.ช.เชิญมาก็ต้องไปนายกฯถกแก้ปัญหาท่องเที่ยวโลว์ซีซันเมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลกร่วมประชุมกับทีมคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯประจำสัปดาห์ จากนั้นช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ประชุมร่วมกับนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และน.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.)ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว ต่อมา 17.00 น. นายกฯทวีตข้อความผ่านเอ็กซ์ว่า ตัวเลขท่องเที่ยวที่ยังไม่ตรงเป้ามาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจโลก หรือปัจจัยภายใน เช่น ข่าวลือในประเทศที่ส่งผลต่อปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีน เหตุการณ์แผ่นดินไหว เป็นโจทย์ท้าทายที่รัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ไข หามาตรการรับมือ ไตรมาสนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน รัฐบาลเดินหน้าสร้างการท่องเที่ยวแบบ Man Made Destination (แหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น) แต่ระยะสั้นยังต้องหามาตรการอื่นเร่งดำเนินการ จึงหารือทีมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและ ททท. อัปเดตงาน หามาตรการโดยเฉพาะมาตรการระยะสั้นในช่วงโลว์ซีซัน มาตรการระยะยาว และนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรอง ทำโปรโมชันร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์และภาคส่วนต่างๆอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่