ไข่เยี่ยวม้า อาหารทานง่าย ทานเร็ว มีลักษณะไข่ขาวเป็นวุ้นสีชาออกดำๆ มีไข่แดงสีดำแข็งและทาเปลือกไข่หลายๆ สี ส่วนมากจะเป็นสีชมพู แตกต่างกับไข่เค็มเพราะไข่เค็มเปลือกสีขาวไม่มีสี การทำไข่เยี่ยวม้าคือ การถนอมอาหารโดยใช้วัตถุดิบที่เป็นด่างนำมาทำให้เกิดปฏิกิริยากับไข่สดจนแปรสภาพเป็นไข่ที่เรียกว่าไข่เยี่ยวม้า สารด่างที่นำมาทำไข่เยี่ยวม้ามีส่วนประกอบของเกลือหรือโซเดียมคาร์บอเนตสำหรับทำอาหาร ปูนขาว ขี้เถ้าและชาวิธีการพอกคือ นำปูนขาว เกลือ หรือโซเดียมคาร์บอเนต น้ำชาและขี้เถ้ามาผสมนวดรวมกันจนเหนียว นำมาพอกไข่สด เก็บไว้ในที่มืด 1-2 เดือน ไข่จะกลายเป็นไข่เยี่ยวม้า ซึ่งไข่ขาวจะมีลักษณะเป็นวุ้นสีชา และไข่แดงจะมีการแข็งตัว หรือหากดองจะนำปูนขาว ขี้เถ้า เกลือหรือโซเดียมคาร์บอเนตและชาแห้ง มาต้มจนเดือด พักให้เย็นโดยกรองเอาใบชาออก นำมาเทใส่ลงในไข่สดที่เตรียมไว้ ดองไว้ประมาณ 1 เดือน ทว่า อาจมีพ่อค้า แม่ค้าบางรายใช้สารตะกั่วมากระตุ้นให้เกิดเป็นไข่เยี่ยวม้า จึงทำให้อาจมีตะกั่วปนเปื้อนในไข่เยี่ยวม้าได้ อันตรายจากตะกั่ว คือ ทำให้อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนหรือปวดท้องบริเวณรอบสะดือ อาจท้องผูก โลหิตจาง มึนชาอวัยวะแขนขาไม่มีสมาธิ ความจําถดถอย ในรายที่มีระดับตะกั่วสูงมากอาจมีอาการชัก ซึม หมดสติได้สถาบันอาหารเก็บตัวอย่างไข่เยี่ยวม้าจำนวน 5 ตัวอย่างจาก 5 ร้านค้าในเขตกรุงเทพฯ และ จ.ปทุมธานี เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของตะกั่ว ผลการวิเคราะห์พบตะกั่วปนเปื้อนใน 4 ตัวอย่าง และพบ 1 ตัวอย่าง ที่มีปริมาณเกินค่ามาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 414 พ.ศ.2563 เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน กำหนดให้ในไข่เยี่ยวม้าพร้อมบริโภค มีตะกั่วปนเปื้อนได้ไม่เกิน 2 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เห็นผลวิเคราะห์อย่างนี้แล้วแนะว่าทานกันได้ แต่ไม่ควรทานบ่อยมากนัก ให้สังเกตส่วนที่เป็นวุ้นสีน้ำตาลหากมีตะกั่วปนเปื้อนจะเห็นเป็นเหมือนผงตะกอนขุ่นๆ แต่ถ้าในไข่เยี่ยวม้าไม่มีตะกั่วปนเปื้อนจะเห็นบริเวณนี้เป็นสีนํ้าตาลใส ไม่มีตะกอนใดๆ ก็ทานได้อย่างปลอดภัย. ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัยคลิกอ่านคอลัมน์ "มันมากับอาหาร" เพิ่มเติม