กรณีที่ ดีเอสไอ รับคดี ฮั้วเลือก สว. เอาไว้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ เป็นอีกก้าวที่ เพื่อไทย ต้องการเขย่า ภูมิใจไทย และ สว.สีน้ำเงิน ให้อยู่ในกรอบการเจรจาต่อรองเพราะตามหลักฐานที่หลุดออกมา มีการระบุถึงแกนนำบางคนของพรรคภูมิใจไทยอยู่ในเหตุการณ์ด้วยและเข้าใจว่า ภูมิใจไทย ก็คงไม่ยอมให้เพื่อไทยขี่ง่ายๆ หมากเกมนี้ต้องวัดชั้นเชิงกันอีกหลายตลบเป็นเหตุให้โยงไปถึง กระแสการปรับ ครม.ในพรรคร่วมรัฐบาล มีอยู่ 2-3 เรื่อง แต่ไม่หนักถึงขั้น เขี่ยภูมิใจไทย ออกแล้วเอา พรรคประชาชน เข้ามาตอนนี้ ประเด็นแรก นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะยอมให้มีการปรับ ครม.หรือไม่ ประเด็นต่อมา ครม.เศรษฐกิจ ที่ส่วนใหญ่สังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีมุ้งสังกัดอยู่ เจ้าของมุ้งจะยอมหรือไม่ แต่ถ้าไม่ปรับ ครม.เศรษฐกิจแรงกดดันจากภายในและภายนอกก็จะแรงขึ้นเรื่อย ประเด็นสุดท้าย พรรคร่วมรัฐบาล จะยอมปรับหรือไม่ ยิ่งถ้าปรับ ครม.ไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น เสถียรภาพของรัฐบาลก็จะแย่ลงกว่าเก่าจะเห็นว่าทุกวันนี้ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ต้องเดินสายพบประชาชนเรียกคะแนนนิยมจากการเลือกตั้งท้องถิ่น ทุกประเภท แสดงถึงความไม่มั่นใจในคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยในสนามการเลือกตั้งทุกระดับและชี้ให้เห็นว่า มือทำงานของพรรคเพื่อไทย เริ่มจะขาดแคลนรวมไปถึงคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งทางการเมืองที่เต็มไปด้วยบุคลากร รถไฟขบวนสุดท้ายเกือบทั้งหมดเรื่องที่รัฐบาลวิตกจริตจนทุกวันนี้คือ การแต่งตั้งคนมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการขาดคุณสมบัติ เรื่องการกระทำ ที่ขัดกับกฎหมาย มีหลายเรื่องที่ล่อแหลมอยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นเมื่อไม่กี่วันมานี้ เรื่องร้องเรียนการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรี ในส่วนของการถือหุ้น โดย สนธิญา สวัสดี เดินทางไปร้อง ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนกรณี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน อ้างถึงองคมนตรีเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญ ม.112 หรือไม่ การถือหุ้นในบริษัทจำนวน 3 บริษัทหลังจากเข้ารับตำแหน่งขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่อ้างหลักฐานในการกรอกข้อมูลในแบบประวัติถูกต้องหรือไม่ อาจเข้าข่ายกรอกข้อมูลเท็จจงใจปกปิดข้อมูลและถ้าประเด็นนี้โกโซบิ๊กทั้งสำนักเลขาธิการ ครม.และรวมไปจนถึง ผู้มีอำนาจแต่งตั้งคือ นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือไม่ กรณีนี้เคยเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มาแล้ว ตกม้าตายเอาง่ายๆสงครามการค้าเป็นอีกปัจจัยที่จะหั่นเศรษฐกิจไทยเป็นฝอย มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนเอาตัวรอดแล้วออกมาประกาศจุดยืนพร้อมร่วมมือกับทั้งจีนและสหรัฐฯรวมทั้งอียู โดยยอมจะซื้อเครื่องบินโบอิ้ง แทนสายการบินจีน ขณะเดียวกัน รมว.พาณิชย์มาเลย์แถลงยืนยันข้อตกลงการค้ากับจีนโดยเคารพหลักการพหุภาคตั้งกลไกการหารือ 3+3จีน กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ยกระดับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ไม่มีเรา?หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม