เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 77 ปี วันสถาปนาประเทศอิสราเอล ซึ่งตรงกับวันแรงงานสากล 1 พ.ค. ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ยังกล่าวถึงบรรยากาศความสัมพันธ์กับประเทศไทยว่า เมื่อเร็วๆนี้ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานอิสราเอลได้เดินทางมายังประเทศไทย หารือความร่วมมือเชิงนโยบายโดยเฉพาะแผนการขยายโอกาสการจ้างแรงงานไทยในภาคอื่น เช่น ก่อสร้างและอุตสาหกรรม อิสราเอลมีนโยบายจะเพิ่มจำนวนแรงงานไทยจาก 8,000 คนต่อปี เป็น 13,000 คน และอาจเพิ่มสูงถึง 20,000 คนนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลก็มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนี้เช่นกัน ก่อนการระบาดของโควิด-19 มีชาวอิสราเอลกว่า 200,000 คน เดินทางมายังประเทศไทยทุกปี และเมื่อสิ้นปี 2567 ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 คน ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเมื่อไม่นานมานี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่กระทบต่อประเทศไทย ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่มลงมาและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อิสราเอลเป็นประเทศแรกๆที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ในทันทีด้วยการส่งทีมค้นหาและกู้ภัย 22 คนมาช่วยเจ้าหน้าที่ไทยปฏิบัติภารกิจสารวันชาติอิสราเอลปีนี้ยังมีความหมายสำหรับข้าพเจ้าเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ประเทศที่สวยงามและเปี่ยมด้วยไมตรี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้ประจักษ์ถึงพลังของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ผ่านความร่วมมือในระดับรัฐบาล และการต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงความ ปรารถนาดีจากประชาชนชาวไทยข้าพเจ้าจะจดจำมิตรภาพ ความร่วมมือ และความเคารพซึ่งกันและกันที่ได้รับอย่างไม่มีวันลืม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสานสัมพันธ์อันงดงามนี้ ก่อนที่ภารกิจจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวจากใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้ง และความมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ไทย–อิสราเอลจะยังคงมั่นคง แน่นแฟ้นและพัฒนาเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่องยิ่งๆขึ้นไป.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม