“รองนพศิลป์” เผยสอบปากคำ ผู้เกี่ยวข้องคดีอาคาร สตง.ถล่มแล้วกว่า 100 ปาก วิศวกรวัย 85 ปี ที่มีลายมือชื่อเป็นคนออกแบบเข้าให้การแล้ว ยันรับเป็นแค่ที่ปรึกษาได้ค่าจ้างครั้งเดียว 1.5 แสนบาท ส่วนกรณีปลอมลายเซ็นวิศวกรสร้างตึก เจ้าหน้าที่ สตง.เข้าแจ้งความเอาผิด 3 บริษัทผู้คุมงานแล้ว ส่วนสำนวนคดีอยู่ระหว่างเร่งรัดผลการตรวจสอบหลักฐาน และความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ครบเมื่อไหร่ พิจารณาออกหมายจับได้ทันที ด้านการรื้อซากอาคาร สตง. คืบหน้าไปเกือบร้อยละ 70 ยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม พบเพียงชิ้นส่วนร่างกายจำนวนหนึ่ง “ปานเทพ” พาอดีตข้าราชการ สตง.ที่เคยใกล้ชิดผู้บริหารเข้าพบดีเอสไอ มอบหลักฐานสำคัญคลิปภาพ-เสียง เป็นหลักฐานดำเนินคดีผู้บริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ส่อไปในทางทุจริต ยันมี 1 ใน 6 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) รู้เห็นด้วย โฆษก อก.แถลงผลตรวจเหล็กเส้นข้ออ้อย 20 มม. ตกมาตรฐาน เตรียมส่งข้อมูลให้ดีเอสไอดำเนินการกรณีสืบสวนคลี่คลายคดีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. การรื้อซากหาร่างผู้เสียชีวิตยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่การสืบสวนสาเหตุการถล่มโดย 2 หน่วยงานประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐานดำเนินการทุกความผิดเบื้องต้นมีความคืบหน้าการสอบสวนคดีนอมินีของดีเอสไอ ส่งกำลังจับกุมตัวนายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี กรรมการบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนกรรมการบริษัทฯชาวไทย 3 คน ประกอบด้วย นายประจวบ ศิริเขตร อายุ 53 ปี นายมานัส ศรีอนันท์ อายุ 62 ปี และนายโสภณ มีชัย อายุ 66 ปี เข้ามอบตัวส่งฝากขังศาลอาญาประกันตัวไปแล้วความคืบหน้าจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 เม.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วยนายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการ สตง. เดินทางเข้ามอบพยานเอกสารและพยานวัตถุให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับกรณีอาคาร สตง.ถล่ม นายปานเทพกล่าวว่า กรณีตึก สตง.ถล่มตนมองว่าจะพิจารณาแบบแยกส่วนไม่ได้ เพราะเห็นว่าออกหมายจับแค่ประเด็นเดียวคือ นอมินีบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ตนมองว่าแบ่งเป็นหลายช่วงคือ ช่วงเปลี่ยนแปลงโครงการจากที่ จ.ปทุมธานีมาเช่าที่ดิน รฟท.ทำให้เสียค่าใช้จ่ายการออกแบบเดิมทั้งหมด หลังออกแบบแล้วก่อให้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้น หรือออกแบบมันไม่สมมาตรต้องมีผู้รับผิดชอบ ผู้เซ็นรับผิดชอบอยู่ในระดับผู้มีใบอนุญาตวุฒิวิศวกรโยธา มีอาวุโสทางด้านวิชาชีพ มีประสบการณ์มากที่สุดอายุ 85 ปี ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่แรก“ตอนนี้ตนคิดว่ามันเกิดกระบวนการใหม่คือ พยายามโยนความผิดไปให้ผู้ออกแบบคนเดียว แต่คิดว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ออกแบบคนเดียวหรือบริษัทกลุ่มเดียว อาจถูกยึดโยงไปเรื่องอื่นด้วย เนื่องจากกระบวนการหลังออกแบบแล้วเป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ ทั้งการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน และการก่อสร้าง ระหว่างก่อสร้างแก้ไขแบบหลายครั้ง บางครั้งสัมพันธ์กับเรื่องโครงสร้างด้วย การอนุมัติมีบางคนระบุแล้วว่าเป็นวิศวกรที่ถูกปลอมลายเซ็นในบริษัทควบคุมงาน ที่สำคัญเมื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการในส่วนของ สตง. วันนี้เกิดคำถามมากเรื่องตั้งงบ หลายรายการพบว่าเกินราคา ดังนั้น ทั้งหมดเป็นระบบใหญ่ต้องพิจารณาไม่ใช่โยนแพะให้คนใดคนหนึ่งหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่ง” นายปานเทพกล่าวนายปานเทพกล่าวว่า วันนี้ได้รับบันทึกรายงานการประชุมบางส่วน จะนำสำเนาบันทึกเหตุการณ์สำคัญในการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างให้ดีเอสไอ นอกจากนี้ยังมีพยานเป็นอดีตข้าราชการ สตง. เป็นบุคคลใกล้ชิดผู้บริหาร ถูกใช้ให้ทำหลายอย่าง วันนี้ถูกทอดทิ้ง คิดว่าอยากทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ฐานะคนเป็นไม้มือให้ผู้หลักผู้ใหญ่มารายงานให้ตนทราบ มอบพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งวิดีโอคลิปทั้งเสียงที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2565 เกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก คิดว่าควรมาให้การฐานะพยาน เพราะเขารู้เห็นถึงคนใกล้ชิดผู้บริหารเดินเกมอย่างไร ไปวิ่งงานอย่างไรด้านนายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพราะเคยใกล้ชิดผู้ใหญ่ใน สตง.ที่เป็นผู้บริหาร เคยทำงานรับใช้ในหลายๆเรื่อง ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริตการดำเนินการก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ที่เกิดเหตุถล่ม รายละเอียดพยานหลักฐานข้อเท็จจริงต่างๆตนมอบให้นายปานเทพและบ้านพระอาทิตย์ไปแล้ว ที่อยากมาให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม แต่ขอไม่ลงลึกถึงรายละเอียดเพราะจะอยู่ในสำนวน แต่คร่าวๆคือ ตนถูกใช้งานให้ไปทำหลายอย่างที่ส่อไปในทางทุจริตไม่มีเรื่องเงิน ตนทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ การคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้าง การคัดเลือกผู้ควบคุมงาน มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังหรือไม่ ส่วนจะมีการฮั้วกันตั้งแต่สร้างตึกหรือไม่นั้น ขอให้ดีเอสไอไปพิจารณาอีกครั้ง ยืนยันว่าตนรู้และเชื่อว่ามันเกิดกระบวนการแบบนี้จริงๆ“ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่ผมไปดำเนินการเองส่อไปในทางทุจริต มีหลายเรื่องที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ล่วงรู้ได้ยินได้ฟังกับตัวเอง ส่วนเรื่องหลักฐานคลิปวิดีโอ หากได้ฟังมันบ่งบอกถึงความไม่สุจริตเกิดขึ้น เป็นการพูดคุยระหว่างบุคคลกับบุคคลผมทำงานที่ สตง.มา 18 ปีได้เห็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความเป็นข้าราชการ บางครั้งในระบบราชการเรามีผู้บังคับบัญชา อีกทั้งเราห่วงความปลอดภัย ความก้าวหน้าทางอาชีพข้าราชการ แต่วันนี้เห็นสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ มีคนเสียชีวิต คนเหล่านั้นควรได้รับความยุติธรรม ผู้บริหารหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรมีส่วนรับผิดชอบ เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราควรเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนรับทราบ ผมออกจาก สตง.มาตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ด้วยเรื่องส่วนตัวที่มองว่าถูกกลั่นแกล้ง อาจไปรู้ความลับมากเกินไป อยู่ระหว่างอุทธรณ์สำนวนคดีไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องเรื่องส่วนรวม” นายณรัฐนันทน์กล่าวผู้สื่อข่าวถามว่า เคยเอาเรื่องการทุจริตไปบอก กล่าวผู้บริหาร สตง.หรือไม่ นายณรัฐนันทน์ ตอบว่า ตนเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย ไม่เคยเสนอผู้บริหาร ส่วนตัวเชื่อว่าท่านทราบอยู่แล้วว่าทำอะไรกันไว้ เพราะมันอยู่ในอำนาจ แต่ว่าวันนี้ตนไว้ใจนายปานเทพและบ้านพระอาทิตย์ เห็นว่ามีผู้เสียชีวิต อยากให้เรื่องราวถูกตีแผ่ไม่อยากให้ถูกซุกไว้ใต้พรมอีกแล้ว ผู้บริหารชั้นผู้ใหญ่ที่รู้เห็นพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากลในมุมมองของตนไม่ต่ำกว่า 10 คน ผู้บริหารปัจจุบันบางคนยังมีอำนาจอยู่ ยอมรับว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยที่ออกมาพูดวันนี้ ถามว่ามีผู้บริหารของ สตง. ในข้อมูลด้วยหรือไม่ นายณรัฐนันทน์ ตอบว่า ปัจจุบันมี สตง. 6 คน ข้อมูลของตนต้องให้ความเป็นธรรมกับ สตง.อีก 5 คน เพราะตนไม่เคยได้ข้อมูลว่าท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่มี 1 คน ที่ตนรับใช้ใกล้ชิด ที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าตึก สตง.ถล่มว่าเบื้องต้นทราบว่าพนักงานสอบสวนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญผู้ที่ให้ข้อมูลทั้งหมดนั้นจะต้องเดินไปที่แบบหรือจะต้องเดินไปที่ของกลางคือจุดเกิดเหตุ ขณะนี้ด้านเจ้าหน้าที่ได้ของกลางครบหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ในวันที่ 24 เม.ย.จะขอให้ทางกรมสอบสวน ให้นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ โฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมืองสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงความคืบหน้าคดีพิเศษ กรณีกระบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นการชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบด้วยต่อมาเวลา 10.20 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพ มหานคร (สปภ.กทม.) แถลงความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและการตรวจพิสูจน์ยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่มว่า ขณะนี้ในพื้นที่มีเครื่องจักรกลหนักทั้งหมด 30 ตัว แบ่งหน้าที่แบ่งโซนการทำงานตลอดทั้งคืน กลางวันทำงาน 15 ตัว มีช่างจากสำนักการโยธาฯ กทม.และทหารช่าง จ.ราชบุรี ในการช่วยดูแลซ่อมบำรุงเครื่องจักร ทำให้สามารถดำเนินการไปแล้วเกือบร้อยละ 70 ความสูงของยอดซากอาคารลดระดับลงอย่างมาก เหลือพื้นที่โซนละ 1 ใน 4 เท่านั้น เป็นไปตามแผน คาดว่าสิ้นเดือน เม.ย.สามารถถึงชั้น 1 ทั้งนี้ พบว่าชั้นใต้ดินลึกประมาณ 4 เมตรต้องใช้เครื่องจักรหนักวางแผนอย่างรอบคอบ เนื่องจากตัวอาคารเริ่มแคบลง ขนซากอาคารออกจากพื้นที่ต่อเนื่อง ไปไว้บริเวณที่ว่างเปล่าของการรถไฟฯด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เป็นพื้นที่ปิดมีรั้วล้อม จะมีการแยกระหว่างซากปูนและซากเหล็ก เบื้องต้นยังเพียงพอต้องประเมินสถานการณ์และปรับพื้นที่เพื่อรองรับซากอาคารนายสุริยชัยกล่าวอีกว่า ส่วนการค้นหาผู้สูญหายที่ติดในซากอาคารเมื่อช่วงเช้าใช้กำลังคนกว่า 107 คน และสุนัขกู้ภัยของทหารและตำรวจ 3 ตัว สุนัข K9 ยังคงเป็นส่วนสำคัญการชี้เป้าค้นหาผู้สูญหาย ยังคงพบชิ้นส่วนอวัยวะในซากอาคาร สามารถเก็บกู้ชิ้นส่วนอวัยวะผู้สูญหายได้เพิ่มอีก 3 เคส และบริเวณการรถไฟฯที่นำซากอาคารไปทิ้งพบชิ้นส่วนอวัยวะอีก 1 เคส อวัยวะส่วนใหญ่เป็นกระดูกและชิ้นเนื้อ ส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันตัวบุคคลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จำนวนผู้สูญหายจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ยังคงข้อมูลเดิม ต้องรอยืนยันข้อมูลจากกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพนักงานสอบสวน หลังมีการแจ้งตำรวจว่ามีผู้สูญหายเพิ่มเติมจากจำนวน 103 คน ล่าสุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักรยืนยันยอดผู้ประสบเหตุ 103 คน พบผู้เสียชีวิต 53 คน บาดเจ็บ 9 คน และสูญหาย 41 คนที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าสำนวนคดีอาญาอาคาร สตง.ถล่ม กับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ บช.น.แต่งตั้งขึ้น วันนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ สตง.และตัวแทนบริษัทผู้รับเหมาช่วง พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ สตง.และบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 56 ราย ประจักษ์พยานที่เกี่ยวข้อง 51 ราย ผู้บาดเจ็บ 7 คน และญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด 35 คน กำลังเร่งรัดสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และส่งพยานหลักฐาน เหล็ก ปูน ไปตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 1 ชุดตามลำดับที่เก็บได้ ส่วนหลักฐานที่ส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล ยืนยันว่าเร่งรัดสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ และเร่งรัดไปยังหน่วยงานที่ตรวจสอบทั้งสภาวิศวกรและวิศวกรรมสถานฯ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผล รวมถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของรัฐบาล“ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สตง.ยังให้เอกสารมาไม่ครบ ทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับวัสดุและเอกสารที่เกี่ยวกับ 22 งวดงานที่ตรวจรับ รวมถึงสัญญาที่แก้ไขว่าแบบที่ออกไป แบบแก้ไข สัญญาที่แก้ไขยังไม่ได้รับมาเช่นกัน สตง. ระบุว่าอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารทั้งหมด หลังนายกรัฐมนตรีเร่งรัดไปที่ สตง.ให้แล้ว วันนี้เจ้าหน้าที่ สตง.เข้ามาให้ปากคำหลังแจ้งความร้องทุกข์ 3 บริษัทผู้ควบคุมงาน กรณีการปลอมลายเซ็นจะนำเอกสารที่เหลือเข้ามาช่วงบ่าย โดยเฉพาะเอกสารที่เป็นปัญหาที่ยังขาดอยู่ เป็นเอกสารที่ลงลายมือชื่อวิศวกร คาดว่าจะถูกปลอมลายเซ็น ส่วนการตรวจสอบรายชื่อวิศวกร ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบทุกคนว่าเป็นวิศวกรตัวจริงหรือไม่” รอง ผบช.น.กล่าวส่วนกรณีนายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ที่ปรากฏลายเซ็นเป็น 1 ในผู้ออกแบบตึก สตง. พล.ต.ต.นพศิลป์ระบุว่า เมื่อวานนี้นายพิมลเข้ามาให้ปากคำ แล้ว ให้การอ้างว่า เป็นแค่ที่ปรึกษา ได้รับค่าจ้างเพียงครั้งเดียว 150,000 บาท หลังจากนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอีก เป็นการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ และเซ็นชื่อในฐานะที่ปรึกษา ส่วนการดำเนินการ ส่วนอื่นเป็นของวิศวกรเป็นหลัก ถ้าพยานหลักฐานที่ส่งตรวจได้ผลกลับมาเร็ว สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าพยานหลักฐานถึงใคร หรือบริษัทใดจะดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้ต้องรอผลจากทุกมิติส่งเข้ามาที่พนักงานสอบสวนก่อน ถามว่ามีใครแทรกแซงการทำงานหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า บช.น.ตั้งคณะพนักงานสอบสวนสืบสวน เพื่อทำงานในเรื่องนี้ ทำงานอย่างจริงจังตรงไปตรงมา ว่าไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด ตึกมีการถล่มจริงและมีผู้เสียชีวิต ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายรวบรวมพยานหลักฐานที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษก อก. เผยว่า ทีมสุดซอยร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นจากจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผลตรวจสอบจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยออกมาครบถ้วนแล้ว พบว่ามีเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. SD40T กรรมวิธีผลิตแบบ IF ยี่ห้อ SKY ของบริษัทซินเคอหยวน สตีล จำกัด ตกทดสอบค่ามวลต่อเมตร (เหล็กเบา) เหมือนการทดสอบครั้งก่อน กระทรวง จะส่งต่อผลการตรวจสอบให้ดีเอสไอใช้ประกอบหลักฐานในสำนวน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงกรณีอาคาร สตง.ถล่ม ซึ่งไม่เกี่ยวกับการตรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ผลิตในเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (มอก.) ที่ดำเนินการไปแล้ว“สำหรับการตรวจสอบมาตรฐานของสถาบันเหล็กฯเป็นไปตาม มอก.ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กำหนดไว้ ตกคือตก ผ่านคือผ่าน รอบนี้ผลตรวจพบเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. SD40T ของผู้ผลิตตกค่ามวลต่อเมตร (เหล็กเบา) เหมือนรอบก่อน ส่วนเหล็กข้ออ้อย 32 มม. ที่เคยตกค่า yield รอบนี้ผ่านการทดสอบ แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการตรวจ ไม่มีการเลือกปฏิบัติจากภาครัฐ ดังนั้น บริษัทต้องเตรียมคำตอบไว้ชี้แจงกับดีเอสไอต่อไป” โฆษก อก.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่