ฮาร์วาร์ดเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ตั้งเมื่อ ค.ศ.1636 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกหลายครั้ง ได้รับเงินทุนวิจัยปีละหลายพันล้านบาท มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ฮาร์วาร์ดไม่ใช่มหาวิทยาลัยของรัฐ จึงไม่ได้รับงบประมาณแบบเหมาจ่ายจากรัฐบาลกลาง แต่ได้รับเงินสนับสนุนเป็นรายโครงการแต่ละปีฮาร์วาร์ดได้รับเงินทุนจากรัฐบาลกลางประมาณ 600-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้เป็นทุนวิจัย ทุนการศึกษา การสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจ้างนักวิจัยในโครงการของรัฐฮาร์วาร์ดเหมือนกับสถาบันทั่วไปที่นักศึกษาและอาจารย์จำนวนมากเป็นพวกเสรีนิยม สนับสนุนสิทธิเสรีภาพของ LGBTQ+ ยอมรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และเพศ เปิดกว้างต่อผู้อพยพ และให้การสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม พวกที่ฮาร์วาร์ดต่อต้านทรัมป์ เพราะทรัมป์จำกัดผู้อพยพ เพิกเฉยต่องานด้านวิทยาศาสตร์ และถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสมีการสำรวจพบว่า เจ้าหน้าที่และอาจารย์ของฮาร์วาร์ดบริจาคเงินให้พรรคเด็มโมแครตมากกว่าพรรครีพับลิกัน ฮาร์วาร์ดถูกโจมตีจากทรัมป์และพวกฝ่ายขวาว่าฮาร์วาร์ดมีแต่พวกฝ่ายซ้าย หลายครั้งที่ฮาร์วาร์ดพูดถึง DEI ทรัมป์ก็จะออกมาโจมตี เพราะ DEI เป็นเรื่องของ Diversity ความหลากหลาย Equity ความเป็นธรรมและ Inclusion ความมีส่วนร่วม ที่ทรัมป์ไม่ชอบนักวิชาการฮาร์วาร์ดออกมาวิจารณ์นโยบายของทรัมป์ในทางลบหลายครั้ง 14 เมษายน 2025 ทรัมป์ประกาศระงับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางแก่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงระงับเงินทุนวิจัย 2.2 พันล้านดอลลาร์ และสัญญาระยะยาวอีก 60 ล้านดอลลาร์สาเหตุที่ระงับก็เพราะว่า ฮาร์วาร์ดปฏิเสธที่จะยกเลิกโครงการ DEI ปฏิเสธการรับนักศึกษาแบบ Merit-based (คะแนนสอบ เกรดเฉลี่ย ผลงานวิจัย ความสามารถพิเศษ ฯลฯ) แต่ใช้การพิจารณาแบบ Holistic admission หรือการพิจารณาแบบองค์รวม เช่น ความสามารถทางวิชาการ ภูมิหลังครอบครัว เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ (เพื่อความหลากหลาย) ประสบการณ์ชีวิต (อพยพ หนีภัยสงคราม หรือเป็น LGBTQ+) ฯลฯทรัมป์ไม่ชอบเรื่อง DEI ของฮาร์วาร์ด เพราะทำให้คนที่คะแนนสูงจริงๆถูกมองข้าม ทรัมป์ต้องการให้ฮาร์วาร์ดกลับไปสู่ระบบที่ใครมีความสามารถที่สุดก็ควรได้รับโอกาสก่อน ควรพิจารณาจากความสามารถล้วนๆ (คะแนน/เกรด/ผลงาน)ทรัมป์คิดว่าถ้าฮาร์วาร์ดไม่ได้เงินจากรัฐบาลกลางจะต้องล่มสลายหายนะ ขอเรียนว่าไม่ใช่ครับ ฮาร์วาร์ดมี Endowment หรือเงินบริจาคสะสมมากที่สุดในโลก ค.ศ.2024 มีมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เงินจากรัฐบาลกลางปีละ 600-700 ล้านดอลลาร์ สำหรับฮาร์วาร์ดเป็นเรื่องกระจิดริดกระจ้อยร่อยต้อยตีวิดอี๊ดเดียวการระงับเงินอุดหนุนของทรัมป์ทำให้ภาพลักษณ์ของทรัมป์ตกต่ำย่ำแย่ เป็นภาพลักษณ์ที่ไปก้าวก่ายเสรีภาพทางวิชาการในทางกลับกันผมคิดว่าน่าจะมีคนช่วยกันบริจาคเงินให้กับฮาร์วาร์ดมากขึ้นกว่าที่จะได้รับจากรัฐบาลของทรัมป์เสียอีกทรัมป์หนุนอิสราเอลอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ในสงครามอิสราเอล-ฮะมาส มีนักศึกษาส่วนหนึ่งออกมาประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ คณะทำงานของทรัมป์มองว่า นี่เป็นแนวคิดต่อต้านชาวเซมิติก (anti-Semitism) และต้องการจะปราบปรามแนวความคิดนี้ไม่ใช่ฮาร์วาร์ดเพียงสถาบันเดียวที่ทรัมป์ระงับเงินอุดหนุน ทีมงานของทรัมป์สแกนไปในทุกตรอกซอกมุมของแผ่นดิน พบลัทธิต่อต้านชาวเซมิติกที่ใด ทีมงานทรัมป์ก็จะเข้าไปจัดการ นักศึกษาต่างชาติหลายคนที่เข้าร่วมประท้วงชาวปาเลสไตน์ถูกจับกุมคุมขังและเข้าสู่กระบวนการเนรเทศ นักศึกษาต่างชาติมากมายหลายร้อยคนถูกยกเลิกวีซ่ากล่าวโดยสรุป การระงับเงินอุดหนุนครั้งนี้เป็นการลงโทษมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในข้อหาล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านวิชาการและสิทธิพลเมือง จึงเป็นสถาบันที่ไม่คู่ควรที่จะได้รับเงินลงทุนจากรัฐบาลกลางรัฐบาลของทรัมป์เรียกร้องให้ฮาร์วาร์ดออกมาตรการเพื่อลดอิทธิพลของคณะ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา พร้อมทั้งให้ตั้งคณะบุคคลภายนอกเข้ามาตรวจสอบคณะและนักศึกษาของแต่ละคณะเพื่อรับรองความหลากหลายด้านมุมมองคณะทำงานของทรัมป์สั่งให้ฮาร์วาร์ดคัดกรองนักศึกษาต่างชาติ เพื่อป้องกันการรับนักศึกษาที่ต่อต้านค่านิยมแบบอเมริกัน ฮาร์วาร์ดต้องส่งรายงานต่อหน่วยงานคนเข้าเมืองของสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อเช็กว่านักศึกษาคนใดละเมิดกฎระเบียบด้านความประพฤติเผด็จการที่สุดในโลกคือสหรัฐฯ ในยุคทรัมป์.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม