ผมตั้งโจทย์เพ้อๆในใจ...ใครจะไปสอนไอ้บ้าทรัมป์ให้กลับใจ จากผู้นำทมิฬหินชาติ มาเข้าใจธรรมะง่ายแบบชาวพุทธไทย ข้อ เมตตาเป็นธรรมค้ำจุนโลก หรือรู้ซึ้งถึงใจเพื่อนเล็กๆร่วมโลกบ้างนึกถึงพระอาจารย์พรหม พระฝรั่ง สมภารวัดพุทธเมืองเพิร์ธออสเตรเลียขึ้นมา ก็คว้าหนังสือชวนม่วนชื่น 2 ใกล้มือ เปิดๆดูประเดี๋ยวก็เจอ นิทานเรื่อง ทำไม?กับดักหนู ฆ่าแม่ไก่ พ่อหมู และแม่วัว เรื่องนี้ล่ะหนาน่าจะใช่หนูห้าตัว แม่ไก่หนึ่งตัว พ่อหมูหนึ่งตัว และแม่วัวหนึ่งตัว เป็นเพื่อนกัน อาศัยอยู่ในฟาร์ม ชนบทห่างไกลเท่าที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน พวกหนูก็จะรีบบอกเพื่อนไก่ให้ซ่อนตัวใกล้ตา เวลาที่รู้ว่าชาวนาอยากจะกินไก่ทอด ให้ทำเป็นแกล้งป่วย...เมื่อเห็นชาวนาอยากกินไส้กรอกหมู หนูก็จะบอกให้เพื่อนหมูหนีไปที่ฟาร์มอื่นเมื่อเห็นชาวนาออกอาการอยากกินเนื้อย่าง หนูก็จะรีบบอกให้แม่วัวหนีออกไปจากคอกสักพักหนึ่งด้วยไมตรีจิตมิตรภาพอย่างนี้ แม่ไก่พ่อหมูแม่วัวจึงออกปากเรียก พวกเขาว่า ห้าเพื่อนหนูผู้ฉลาดและแสนดีแต่สมญาที่เพื่อนๆเรียกนั้น ก็เป็นแค่ลมปาก เมื่อถึงเวลามันได้พิสูจน์ว่าคนละเรื่องบ่ายวันนั้น หนูตัวหนึ่งแอบมองผ่านรอยแตกกำแพง เห็นชาวนาเปิดกล่องพัสดุ มันเกือบจะหลุดปากร้องเสียงดัง...เมื่อเห็นว่าเป็นกับดักหนู มันวิ่งโลดไปบอกเพื่อนๆ “แย่แล้ว พวกเราถึงเวลาชะตาขาดแล้ว”พวกหนูหันมามองตากัน เราจะทำยังไงดีโดยสัญชาตญาณ ห้าหนูบอกตัวเอง เรามีเพื่อน เพื่อนจะช่วยบอกทางหนีทีรอดได้บ้างแม่ไก่อยู่ใกล้ที่สุด เธอได้รู้ข่าวร้ายนี้ก่อน “กุ๊กๆๆ ฉันอยากรู้ ไอ้กับดักหนูเล็กๆนั่น มันจะทำอะไรกับฉันได้”ห้าหนูผิดคาด ผิดหวัง วิ่งไปเจอพ่อหมู แน่ล่ะ! เทียบกับตัวหมู กับดักหนูอันเล็กนิดเดียว “อู๊ดๆ...” พ่อหมูว่า “ตอนนี้ฉันกำลังยุ่ง พวกเธอมีอะไร ค่อยมาคุยกับฉันวันหลังได้ไหม?”พวกหนูยังหวังจะได้ฟังอะไรรื่นหูจากแม่วัว ที่กำลังเคี้ยวหญ้าไม่ไกลเกินไป มันร้อง มอ...ตามนิสัย ไม่ไยดีกับทุกข์ใหญ่หลวง จากเพื่อนที่มันเคยเรียก ผู้ฉลาดและแสนดีสักนิดเดียวสถานการณ์น่าหวั่นหวาดของพวกหนูดำเนินไปถึงกลางดึกคืนนั้น เจ้าหนูตัวแรกกำลังสาละวนหาอาหาร มันก็พลาดเหยียบกับดัก “คลิก” สิ้นเสียง เจ้าหนูก็ไปสวรรค์เพื่อนหนูสี่ตัววิ่งไปช่วย มันทำได้แค่ร้องไห้ ภรรยาชาวนา ได้ยินเสียงตื่นเดินลงมาดู เห็นหนูหนึ่งตัวตาย อีกสี่หนูโลดเต้นตระหนกตกใจ เธอก็ตกใจ กรีดร้องดังลั่น แล้วก็เป็นลมรุ่งเช้าเมียชาวนานอนป่วยแซ่วบนเตียง ชาวนาคิดหาอาหารปลอบใจ “ซุปไก่ไงล่ะ!” แล้วแม่ไก่ก็ถูกจับเชือดต้มลงหม้อ โรยเกลือกระเทียม เพื่อนๆชาวนารู้ข่าว ก็ชวนกันมาเยี่ยม ชาวนาเชือดหมูทำสเต๊กหมูรับรองแขกโชคร้ายยิ่งไปกว่านั้น ตอนสายเธอสิ้นใจตาย งานศพตามธรรมเนียมชนบทนั้น เป็นแซนด์วิชเนื้อเนื้อจากไหน ก็เนื้อแม่วัวนั่นปะไร!เหตุจากสามเพื่อนห้าหนูบอก “มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน” เหตุจากเหล่าสัตว์ไม่รู้ซึ้งถึงคุณของความมีเพื่อน ไม่คิดสามัคคีกันแก้ปัญหา เป็นปัจจัยให้ไก่หมูวัวจบชีวิตตามจบนิทานของพระอาจารย์พรหม ผมก็คิดถึงนิทานเรื่องพวกหนูๆ คิดวิธีเอากระดิ่งไปคล้องคอแมว...ครับ แต่แค่คิดได้ เพราะถึงเวลาไม่มีหนูตัวไหนสักตัวกล้าเอากระดิ่งไปคล้องคอแมวเมื่อหาวิธีสอนให้ไอ้บ้าทรัมป์รู้ซึ้งถึงธรรมะข้อความเป็นเมตตา เป็นเครื่องค้ำจุนโลกไม่ได้ ก็คงเหลือวิธีต่อมาประเทศเล็กๆ ต้องร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน...กลยุทธ์สำคัญที่ผู้รู้จริง เขาบอกไม่ต้องไปหลงเล่นตามเกมเจรจาการค้า... ทนดูอีกสักพัก วิธีขึ้นภาษีบ้าเลือดของทรัมป์ จะทำให้สหรัฐอเมริกาเฉา และสุดท้ายก็จะแห้งตายไปเอง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม