“ฮอต ไฮโซทิพย์” อ่วมหนัก ผลเอกซเรย์พบกระดูกสันหลังแตกร้าว 3 ซี่ ต้องพักรักษาตัวยาวอยู่โรงพยาบาล แฉมี 2 หมายจับติดตัว หายเมื่อไหร่โดนรวบเข้าคุกแน่ แถมเมียที่เป็นสัตวแพทย์เจ้าของคลินิก จ่อเข้าแจ้งดำเนินคดีเช่นกันหลังถูกหลอกคบหาอยู่กินถึง 5 ปี พฤติกรรมไม่ต่างจากที่ทำกับ “คะน้า” ดาราสาว ด้าน “นายกฯอิ๊งค์” ปฏิเสธลั่นไม่รู้จักชายคนนี้ ส่งทีมงานสำนักนายกฯไปลงบันทึกประจำวันแล้ว ขณะที่ “ภูมิธรรม” ระบุสั่งขังสารวัตรทหารคนขับรถไซเรนนำขบวนไฮโซกำมะลอเรียบร้อยกลายเป็นเล่ห์กลของขบวนการ 18 มงกุฎ กรณี “คะน้า” น.ส.ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ อายุ 32 ปี นักแสดงนางแบบสาว แฉเรื่องราวว่าถูกนายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล อายุ 32 ปี หรือ “ฮอต ไฮโซทิพย์” ที่รู้จักกันผ่านแอปหาคู่มาหลอกคบหา แอบอ้างโปรไฟล์ดี ลูกเศรษฐี ทำงานกับรัฐบาล เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ แต่งชุดข้าราชการ มีรถไซเรนนำขบวนเวลาไปไหนมาไหน ทำให้ตายใจหลงกลเกือบแต่งงานด้วย จากนั้นได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถูกนายฮอตหลอกให้โอนเงินเกือบ 1 แสนบาท เป็นค่าแชมเปญให้นายกฯ ขณะที่นายฮอตอ้างว่าฝ่ายหญิงพูดไม่จริง เป็นการแบล็กเมล์เรื่องเงิน และพยายามจะกระโดดตึกชั้น 3 ที่บ้านภรรยาย่านซอยนวลจันทร์ แต่ตำรวจและกู้ภัยเกลี้ยกล่อมลงมาได้ นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.โคกคราม ต่อมานายฮอตเครียดจัดได้กระโดดจากชั้น 3 ของโรงพักตกลงมากระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำตัวส่ง รพ.นพรัตนราชธานีความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 เม.ย. พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้นายฮอต ไฮโซเก๊ ยังอยู่ระหว่างรักษาตัวใน รพ.ภูมิพล หลังย้ายจาก รพ.นพรัตน์ไป ทราบอาการเบื้องต้นกระดูกสันหลังแตก ต้องรอแพทย์วินิจฉัยอาการอีกครั้ง ได้สั่งการให้ตำรวจ สน.โคกคราม เฝ้าอย่างใกล้ชิดแล้วผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการของนายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ “ฮอต ไฮโซทิพย์” จากผลการเอกซเรย์มีกระดูกสันหลังแตกร้าว 3 ซี่ แม้ที่ สน.โคกคราม ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหานายฮอต แต่นายฮอตมีหมายจับ 2 หมาย หมายแรกเป็นของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ถูกศาลออกหมายจับหนีคดีประกันตัวชั้นศาลในคดีฉ้อโกงเมื่อปี 63 และหมายจับของศาลแขวงตลิ่งชัน หลบหนีประกันชั้นศาล ข้อหาฉ้อโกง ปี 64 กรณีผู้รับมอบอำนาจจากศิริราชมูลนิธิ เข้าแจ้งความกับ สน.นพวงศ์ ว่า นายฮอตได้บริจาคเงิน 8 ล้านบาทให้ศิริราชมูลนิธิ เป็นเช็ค 2 ใบ ใบแรก 5 ล้านบาท ใบที่สอง 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้เขียนใบเสร็จและอนุโมทนาบัตรให้ แต่เช็คทั้ง 2 ใบเด้ง คาดว่านายฮอตไม่ได้นำใบเสร็จและใบอนุโมทนาบัตรไปลดหย่อนภาษี แต่นำไปเป็นโปรไฟล์อวดอ้างตัวเอง ทำให้ถูกแจ้งจับข้อหาฉ้อโกง หากออกจากโรงพยาบาลเมื่อใดจะต้องถูกส่งตัวไปดำเนินคดีทันทีมีรายงานด้วยว่า ขณะนี้สัตวแพทย์สาวเจ้าของคลินิกวัฒนาสัตวแพทย์ ซอยนวลจันทร์ 60 ที่นายฮอตข่มขู่จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังดาราสาวออกมาแฉพฤติกรรม เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความนายฮอต ฐานต้มตุ๋นหลอกลวงคบหาอยู่กินกันมา 5 ปี แต่ไม่มีลูกด้วยกัน เนื่องจากนายฮอตมีพฤติกรรมสร้างโปรไฟล์ปลอม และสร้างสถานการณ์ต่างๆ คล้ายกับที่หลอกลวงดาราสาว ทั้งที่ความจริงนายฮอตไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลักแหล่ง แต่แอบอ้างเป็นลูกรัฐมนตรี อ้างว่ามีเงินฝากในบัญชีนับร้อยล้านบาทเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีไฮโซเก๊ แอบอ้างรู้จักนายกฯว่า ยืนยันว่าไม่จริง ตนไม่รู้จัก ได้ยินแบบนี้มาหลายทีแล้ว เรื่องแอบอ้างว่าสนิทกับนายกฯ เพื่อนตนยังบอกเลยว่ารู้จักกับคนนั้น ต้องให้งานอย่างนี้อย่างนั้น เพราะสนิทกับนายกฯ ยืนยันว่าไม่มี ต้องดูประวัติที่ผ่านมาของครอบครัวตนด้วยว่าโดนหลายเรื่องเหมือนกัน ถ้าต้องมาเสี่ยงอะไรแบบนี้ ไม่ทำอยู่แล้ว มันไม่จำเป็น ไม่อยากให้เชื่อ“บางทีมีเมสเสจที่เป็นหน้าดิฉันเลย ส่งไปตามดีเอ็มของคนต่างๆ แล้วบอกว่าให้สนับสนุนเงินอะไรอย่างนี้ ไม่มีเวลาทำอะไรอย่างนั้นเลย ขออย่าเชื่อกัน และสื่อสารกันว่าไม่จริง ก่อนหน้านี้มีของท่านทักษิณว่าจะแจกเงิน เคยเห็นบ่อยมาก แต่ไม่มี ไม่เคยมีจริง อย่าไปเชื่อ อย่าไปหลงกล อันนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของคอลเซ็นเตอร์เช่นกัน อย่าไปเชื่อ บางทีคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติก็มี ที่ขึ้นเป็นหน้าคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่เป็นอีกชื่อหนึ่ง ดิฉันก็เคยโดนส่งมา สมัยที่คอล เซ็นเตอร์เยอะๆ อย่าไปเชื่ออะไรแบบนี้ ไม่มี ขอให้ความเสียหายมันจบตรงนี้” น.ส.แพทองธารกล่าวนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีไฮโซเก๊แอบอ้างเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ พูดคุยกับนายกฯผ่านทางแชตไลน์ว่า คณะทำงานตรวจสอบแล้ว ยืนยันเป็นไลน์ปลอม ที่สำคัญคือการพูดคุยกันในไลน์ไม่ใช่นายกฯแน่นอน คณะทำงานได้ตรวจสอบไปที่พรรคเพื่อไทย และสำนักนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีบุคคลดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ส่วนนามบัตรใช้ตราสัญลักษณ์ของสำนักนายกฯไม่พบในระบบ นายกฯและคณะทำงานได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เพื่อเป็นหลักฐานว่าเป็นการแอบอ้างนายกฯด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีไฮโซเก๊หลอกลวงดาราสาว และปรากฏภาพถ่ายกับแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) หลายคน และสวมเสื้อพรรค พท.ว่าพูดยากมาก เพราะเสื้อผ้าที่มีตราพรรคการเมือง คนที่นิยมชมชอบเขาสามารถมาซื้อได้และเปิดขายทั่วไป อีกอย่างเวลาเราไปทุกที่ก็มีบางคนเขาอยากถ่ายรูปด้วย เราเป็นบุคคลสาธารณะมันก็ยาก มีหลายรายที่เป็นอย่างนี้ ตนก็โดนเอาไปอ้าง พอร้องเรียนเข้ามาตนได้จัดการไป 1-2 รายแล้ว ขณะนี้มีหมายจับและกำลังมีคำพิพากษาตัดสิน จะเอาติดคุกที่เอาชื่อไปใช้ เราเองจะไประวังหรือไม่ระวังมันยาก เวลามาขอถ่ายรูปก็ต้องถ่าย ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นพอเรารับรู้ อย่างกรณีของตนก็ให้ตำรวจตามเลยเมื่อถามว่าได้ตรวจสอบหรือไม่กรณีมีข่าวมีนายทหารเข้าไปช่วยเคลียร์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ทราบขนาดนั้น แต่เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย. ได้สั่งให้นำสารวัตรทหารที่ปรากฏในภาพขับรถนำขบวนไฮโซเก๊มาตรวจสอบ เขารับสารภาพ ส่วนรถที่นำมาใช้ไม่ใช่รถของทางราชการ เป็นรถส่วนตัวที่ไปดัดแปลง หากเป็นรถราชการต้องถูกปลดเลย เดี๋ยวไปตรวจสอบดูว่าแค่ไหนอย่างไร ดำเนินการเต็มที่ เข้าใจว่าวันนี้ผลสอบน่าจะออก เมื่อคืนสั่งขังแล้ว เมื่อถามว่า ไม่ถึงขั้นถูกให้ออกจากราชการใช่หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้นำรถหลวงไปใช้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปดูรายละเอียด เท่าที่ทราบเบื้องต้นเป็นการหารายได้เสริม แต่ก็เป็นการทำผิดกฎหมาย เข้าใจว่ามีหลายกรรมอยู่ ก็ว่าไปตามนั้นต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พาคะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ นักแสดงชื่อดัง พร้อมมารดา เข้าพบ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ “ไฮโซฮอต” หรือนายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล ไฮโซกำมะลออดีตแฟนหนุ่ม ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงคะน้า ริญญารัตน์ กล่าวว่า ที่มากองปราบฯวันนี้ เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดีกับ “ไฮโซฮอต” เกี่ยวกับเรื่องแอบอ้างเบื้องสูง พร้อมนำพยานหลักฐานต่างๆทั้งภาพและคลิปเสียง รวมถึงแชตข้อความสนทนาที่มีเนื้อหาพาดพิงแอบอ้างถึงสถาบัน มามอบให้กับตำรวจกองปราบฯพิจารณาว่า การกระทำของ “ไฮโซฮอต” เข้าข่ายความผิดใดบ้าง อยากให้ทางตำรวจพิจารณาอย่างละเอียดทุกแง่มุมด้วยวันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีไฮโซเก๊ แอบอ้าง ว่าสนิทกับนายทักษิณว่า อย่างนี้ต้องเอาเข้าคุกฝากตำรวจด้วยว่าคนประเภทที่ชอบหลอกลวงต้องเอาเข้าคุก เมื่อถามว่ามีการแอบอ้างว่าพ่อของไฮโซเก๊มีความสนิทสนมกับนายทักษิณ รวมถึงอ้างเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อไทยมาด้วยกัน นายทักษิณกล่าวว่า เวลาตนเดินไปไหนมาไหนก็มีคนมาขอถ่ายรูป ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าไปเชื่อว่าจะต้องเป็นคนที่มีความใกล้ชิด และเมื่อเวลามีคนมาขอถ่ายรูป ตนไม่เคยปฏิเสธอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่