วันนี้กำแพงภาษีตอบโต้ ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้บีบคู่ค้าทุกประเทศให้สยบ มีผลบังคับใช้แล้ว ไทยจะถูกสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 36% ก่อนหน้านี้ไทยถูกเก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำ 10% ไปแล้วตั้งแต่ 5 เมษายน และก่อนหน้านั้นอีก 12 มีนาคม ไทยก็ถูกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% และ 3 เมษายน ไทยก็ถูกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์และชิ้นส่วน 25% ไทยถูกสหรัฐฯทยอยขึ้นภาษีนำเข้าถึง 3 ครั้งแล้ว แต่ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็เฉยไม่ได้รู้สึกร้อนใจอะไร วันหยุดยังว่างมากจนมีเวลาพาพ่อไปกินข้าวในห้างหรู จนถูกกระแสโซเชียลกระหน่ำ จึงรีบออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เปลี่ยนตัวผู้นำเจรจาเป็น คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง ไม่ใช่ คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างที่ประชาชนคาดหวังนายกฯแถลงว่า สัปดาห์นี้ คุณพิชัย จะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อหารือกับภาครัฐและเอกชน และผู้ที่มีส่วนได้เสีย แต่ไม่บอกมีใครบ้าง คงนัดกับคนในรัฐบาลทรัมป์ไม่ได้เหมือนเดิมแต่เรื่องที่ รัฐบาลนายกฯแพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย กลับทำเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ คือ การตั้งบ่อนกาสิโน โดยเร่งผลักดัน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมี “บ่อนกาสิโน” อยู่ในนั้น เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯ เป็น “วาระแรก” ในวันนี้ ต้องการให้โหวตผ่านวาระแรกก่อนปิดสมัยประชุมวันศุกร์นี้ โดยมีรายงานข่าวตามสื่อว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร มีการกำชับแกนนำพรรคร่วม รัฐบาลให้โหวตรับหลักการในวาระแรก หากพบว่าพรรคร่วมรัฐบาลไหนแตกแถว จะพิจารณาให้ออกจากรัฐบาลทันที ท่ามกลางเสียงค้าน ของประชาชนที่ดังกระหึ่มประเทศ รวมทั้ง 3 องค์กรทางศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลามก็ต้องจับตาดู พรรคภูมิใจไทย ที่เพิ่งเปลี่ยนสีโลโก้พรรคเป็นสีน้ำเงิน เพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาชาติ จะลงมติเห็นชอบหรือไม่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ต้องเร่งผลักดัน กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีพื้นที่บ่อนกาสิโนสูงถึง 10% ว่า เพื่อเพิ่มรายได้ สร้างเม็ดเงินให้มากขึ้นในระบบ เพราะไทยถูกสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 36% ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผล เศรษฐกิจไทยวันนี้โดนกระทบแล้ว คงรอรายได้จากบ่อนกาสิโนมาช่วยไม่ได้หรอก คงเจ๊งไปก่อนแล้ว คนไทยถึงจะยากจนแต่ก็คิดเป็นนะครับเมื่อวานนี้ นิสิตเก่าจุฬาฯ ได้นัดไปสักการะ พระบรมรูปสองรัชกาล รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 บริเวณหน้าหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขอบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ทรงปกป้องเยาวชนไทยและชาติบ้านเมืองให้พ้นจากการมอมเมาและจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงบ่อนการพนันในยุโรปที่ทรงไปทอดพระเนตรมาว่า “...ถ้าชาวบางกอกรู้ ได้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายไม่เหลือ ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าสักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที ถ้ารู้ถึงผู้ดีเล่นเบี้ยของเรา น่ากลัวอย่างยิ่ง จะดื่มไม่เงย...” ปี 2430 พระองค์ทรงให้เลิกบ่อนเบี้ยทั่วประเทศ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระ มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชบัญญัติ 1 เมษายน 2460 ห้ามมีบ่อนถั่วโปอีกต่อไปทั่วราชอาณาจักร เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่วันนี้ พรรคเพื่อไทย จะเสนอ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรมีบ่อนกาสิโน 10% เข้าสู่สภาผู้แทนฯ เพื่อทำให้ บ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ถ้ากฎหมายนี้ผ่าน ในอนาคตคนไทยจะ “ฉิบหายไม่เหลือ” อย่างที่ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงรับสั่งแน่นอนประเทศไทยวันนี้ ไม่ได้สิ้นไร้คนดีคนเก่งในการกอบกู้เศรษฐกิจชาติ จนต้องไปหาเงินจาก “บ่อนการพนัน” มาช่วย ขอเพียง มีรัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงกินประเทศชาติ ไม่ว่าวิกฤติหนักขนาดไหนคนไทยเราก็สู้ได้แน่นอน วิกฤติต้มยำกุ้ง ก็ผ่านมาแล้ว.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม