ในขณะที่ตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินโดนพิษสงของธรณีพิโรธขนาด 8.2 จากมัณฑะเลย์ พังพาบลงสู่พื้นดินในชั่วพริบตาจนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ก็มีบริษัทก่อสร้างบริษัทหนึ่งกลายเป็นบริษัทที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางในฐานะบริษัทที่ธำรงไว้ซึ่งคุณธรรมและคุณภาพตึกทุกตึก อาคารทุกอาคาร ที่บริษัทนี้สร้างทั้งที่เสร็จแล้ว และยังไม่เสร็จนั้น ไม่มีแห่งใดเลยที่เจอปัญหาแผ่นดินไหวรวมทั้ง โรงแรมดุสิตธานี ที่เพิ่งเสร็จหมาดๆ และโครงการดุสิตเซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งมีทั้งอาคาร ที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานและต่อไปจะมีห้างสรรพสินค้าอีก ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วนั่นก็คือ บริษัท ฤทธา จำกัด ที่ก่อตั้งโดย สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือนนั่นเองมีการนำปูมหลังของบริษัทฤทธามาเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และมีการนำคลิปการให้สัมภาษณ์ถึงปรัชญาการทำงานของบริษัท โดยคุณสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา มาแชร์อีกครั้งในโซเชียลมีเดียต่างๆผมอ่านแล้วก็พลอยปลาบปลื้มยินดีไปด้วย และขอถือโอกาสนี้เขียนถึงผู้ก่อตั้ง บริษัทฤทธา ซึ่งล่วงลับไปแล้ว และเป็นเพื่อนรุ่นน้อง จาก อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ที่มาประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งคนหนึ่งของประเทศไทยไม่ใช่เพราะการเป็นบริษัท “หมื่นล้าน” ของบริษัทฤทธานะครับ แต่เพราะการเป็น “บริษัทไทย” ที่โซเชียลไทยยกย่องให้เป็นบริษัทที่มีความซื่อสัตย์สุจริตทำงานสมราคาค่าจ้าง จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระเอกของแผ่นดินไหวครั้งนี้สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา มีชื่อเล่นว่า “ตึ๋ง” เป็นเด็กของตลาดเจริญผล ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาดส้มเสี้ยว ของอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ รุ่นน้องผมสัก 3 ปีเห็นจะได้ครอบครัวของเขาเป็นที่รู้จักอย่างดียิ่งของชาวอำเภอบรรพตพิสัย บิดาของเขาเป็นเจ้าของ เรือเมล์ โดยสารรับทั้งขนส่งผู้โดยสารและสินค้าพืชไร่จากบรรพตพิสัยล่องลำน้ำปิงไปส่งที่ปากน้ำโพเรือของคุณพ่อคุณสุวัฒน์ใช้ชื่อว่า “ส.ฤทธา” ครับ เขียนตัวอักษรโตๆไว้ที่บริเวณแก้มเรืออย่างชัดเจนตึ๋งเรียนเก่งมาก เข้ามาเรียนชั้นประถมและมัธยมในปากน้ำโพ ตั้งแต่เด็ก และมุ่งมั่นที่จะสอบเข้า โรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อเป็นนายทหารเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เขาฝันไว้ซึ่งเขาก็สอบได้สมปรารถนาผ่านข้อเขียนผ่านสัมภาษณ์มาจนถึงขั้นตรวจสุขภาพเตรียมตัว “มอบตัว” อยู่รอมร่อ แต่ก็ต้องประสบกับโชคร้ายเมื่อทางเตรียมทหารได้รับรายงานจากแพทย์ว่าเขาเป็นโรคตา “บอดสี” หมดสิทธิ์เข้าไปเรียนในทันทีณ เวลานั้นโรงเรียนมัธยมต่างๆปิดการสอบไปหมดแล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนรัฐบาลทั้งหลายทำให้ตึ๋งต้องไปสมัครเรียนที่ โรงเรียนผะดุงศิษย์ ที่เก่งกาจในเรื่องชกมวยสากลแทนเมื่อจบมัธยมปลายจากผะดุงศิษย์แล้วก็สอบเข้า วิศวะจุฬาฯ ได้ ต่อมาก็จบวิศวโยธาได้ จึงออกไปรับราชการที่กรมทางหลวงอยู่หลายปีในที่สุดก็ออกมาก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตนเอง เป็นบริษัทเล็กๆ มีเขากับเพื่อนและคนงานเพียงไม่กี่คนเท่านั้นตั้งชื่อว่า บริษัท ฤทธา จำกัด ตามชื่อเรือโดยสารที่ชื่อ “ส.ฤทธา” แห่งลุ่มแม่น้ำปิงของคุณพ่อเขานั่นเองจากบริษัทเล็กๆ กลายเป็นบริษัทหมื่นล้านด้วยปรัชญาที่เขายึดมั่นมาตลอด คือจะต้องซื่อสัตย์สุจริตต่อลูกค้า...ทำงานและมอบผลงานที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดแก่ลูกค้า...และนั่นแหละที่เป็นสาเหตุให้บริษัทฤทธาของเขาได้รับการยกย่องอย่างมากจากโซเชียลในวันนี้ดังที่เรียนไว้แล้วว่า ตึ๋งจากโลกนี้ไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ด้วยความอาลัยและเสียดายอย่างยิ่งของเพื่อนๆและน้องๆ ตลอดจนลูกน้องทุกคนเรานัดกินข้าวกันบ่อยครั้ง ก่อนเขาเสียชีวิตและแน่นอนเราจะ คุยกันถึงความหลังเมื่อครั้งอยู่อำเภอบรรพตพิสัยของเราอย่างมีความสุขตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเผยแพร่คลิปตึ๋งกำลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปรัชญาของฤทธา...ราวกับว่าเขายังมีชีวิตอยู่นี่ก็เป็นความภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของพวกเราเด็กบรรพตพิสัยที่เพื่อนเราคนนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ แม้จะสิ้นลมหายใจไปแล้วหลายปี."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม