นโยบาย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.สตม. สั่งให้ทุกหน่วยใน บช.สตม. ยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะกระทำความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมืองและชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นองค์กรหรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทำความเสียหายภาพลักษณ์ประเทศไทย ความรับผิดชอบหลักของ บช.สตม.กำชับเพิ่มความเข้มพล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯสั่งให้ ว่าที่ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวเป้าหมายสำคัญผู้ต้องหาชาวจีนบก.ตม.1 นำข้อมูลใบหน้าเป้าหมายตรวจสอบฐานข้อมูล ไบโอเมตริกซ์ พบความน่าสงสัยของคนต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ข้อมูลตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ใบหน้านายจางเหว่ยสัญชาติจีนตรงกับนายตู้หนานสัญชาติวานูอาตูชุดสืบสวนมอนิเตอร์ระบบการแจ้งที่พักอาศัย และระบบการขอต่อวีซ่าคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง วันที่ 12 มี.ค. ครบกำหนดอนุญาตพบว่านายตู้หนาน ไม่มายื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยมีการเคลื่อนไหวเข้ามาเช็กอินโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ ชุดสืบสวน ตม.1 เข้าจับกุม ใช้ระบบตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ ไบโอเมตริกซ์ ตรวจเปรียบเทียบพบนายตู้หนานเป็นบุคคลเดียวกับนายจางเหว่ย สัญชาติจีนตรวจสอบประวัติก่อคดีสำคัญในประเทศจีน ปี 2567 ร่วมกับพวกก่อคดียักยอกเงินจากบริษัทก่อสร้างชื่อดังในมณฑลซานตง ประเทศจีน สร้างความเสียหาย 2,400 ล้านหยวนหรือเงินไทย 11,000 ล้านบาทผลการปิดคดีมาจากการใช้ระบบ ไบโอเมตริกซ์ เป็นเครื่องมือช่วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนำมาใช้จับกุมคนร้ายสำคัญ.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม