กรณีการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ที่ล่าสุดเครือข่ายประชาชน 19 จังหวัด นำปลาหมอคางดำจำนวน 2 ตัน มาเทหน้าทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง เพราะไม่พอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ไม่มีความคืบหน้า และนายก รัฐมนตรีไม่ยอมออกมารับหนังสือ กำลังลุกลามเป็นประเด็นดราม่าขยายความใหญ่โตเนื่องจาก 4 ข้อเรียกร้องที่กลุ่มเกษตรกรขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด 2.กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดภายใน 1 ปี และเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศ 3.ประกาศเขตภัยพิบัติทันที และ 4.ให้หน่วยงานรัฐฟ้องผู้กระทำความผิดมาชดใช้เยียวยา แต่ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่พรรคประชาชน นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ ที่มารับหนังสือจากเครือข่ายประชาชนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมให้สัมภาษณ์ตำหนิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรงว่าไม่รู้สี่รู้แปด ไม่สนใจแก้ปัญหา ความเดือดร้อนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาปลาหมอคางดำระบาดกลายเป็นการจุดชนวนปฏิกิริยาความไม่พอใจแก่พรรคเพื่อไทย แกนนำตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ไปจน สส.ลูกพรรคต่างดาหน้าออกมาตอบโต้พรรคประชาชนอย่างดุเดือด โดยเฉพาะการแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์ ไม่พอใจถ้อยคำ “ไม่รู้สี่รู้แปด” ของนายวิโรจน์ ตอบโต้กลับอย่างรุนแรงเป็นการใช้คำพูดหยาบคาย ไร้วุฒิภาวะ ไม่มีกาลเทศะบรรดานักการเมืองทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก ไล่ตั้งแต่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล พากันเดือดดาล ดาหน้าออกมาปกป้องนายกรัฐมนตรี พร้อมรุมประณามนายวิโรจน์อย่างดุเดือดไปๆมาๆปัญหาของเกษตรกรที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤติปลาหมอคางดำที่สร้างผลกระทบเรื้อรังมานาน กลับไม่ถูกหยิบยกมาเป็นแก่นสาร พูดจาหารือเพื่อแก้ปัญหากันอย่างจริงจังและเร่งด่วนแต่กลายเป็นว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างเบี่ยงประเด็นออกนอกเรื่องไปเน้นสร้างวิวาทะทางการเมืองตอบโต้กันอย่างเมามันความทุกข์ประชาชนคือเรื่องเร่งด่วน ที่รัฐบาล รัฐมนตรี สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต้องร่วมมือแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ควรฉวยโอกาสเอาความเดือดร้อนประชาชนมาเล่นเกมหวังผลทางการเมืองด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ควรต้องมุ่งมั่นสร้างภาพจำ ดีๆ ต่อการทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนไม่ให้ถูกมองไม่รู้สี่รู้แปด ไม่แยแสความรู้สึกของชาวบ้าน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม