เวทีเสวนา “รู้จักเพื่อนบ้านและเครือญาติของเรา” ที่พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จ.เชียงราย หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือ...อยากให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆฟื้นคืนชีวิต หลังจากการถูกสลายให้เป็นแรงงานข้ามชาติ ไร้ถิ่นฐานไร้รัฐผศ.ดร.พลวัฒน์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บอกว่า เราทำงานวิจัยลุ่มแม่น้ำโขงมา 27 ปี อยากให้กลุ่มชาติพันธุ์ฟื้นมีชีวิตพร้อมก้าวไปข้างหน้ากับทุนวัฒนธรรม เราพร้อมร่วมขับเคลื่อนให้ทุกคนแสดงตัวตนนำทุนวัฒนธรรมไปดำเนินชีวิตได้“ตอนนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้องเรียนรู้ว่าเปลี่ยนอย่างไรบ้าง จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีนักศึกษาพม่าเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ปีนี้มีกว่าหนึ่งพันคน”พื้นที่ชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งแต่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน จังหวัดเชียงราย ไปจนถึง อ.แม่อาย อ.ไชยปราการ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่อ.ปาย อ.ปางมะผ้า อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรมที่ยาวนานกับ “รัฐฉาน” ในประเทศเมียนมาซึ่ง...เป็นพื้นที่ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็น “ชาวไทใหญ่ (Shan)”นอกจากนี้ ยังมีการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ เช่น ลาหู่ (Lahu), อาข่า (Akha), ลีซู (Lisu), ปะหล่อง (Palaung) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่อาศัยร่วมกันในพื้นที่นี้ โดยการแลกเปลี่ยนและการติดต่อระหว่างชุมชนสองฝั่งชายแดนมีมาช้านานทั้งในด้านวัฒนธรรม การค้าขาย และเครือญาติที่เกี่ยวพันกันสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศพม่าที่มีมายาวนาน ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ 3 จังหวัด โดยเฉพาะการรุกคืบเข้ามาของกองกำลังว้า (United Wa State Army-UWSA) ที่เข้ามาแทนที่กองทัพเมืองไตของขุนส่าเมื่อกว่า 20 ปีก่อนพร้อมกับการอพยพพลเมืองของตัวเองจากรัฐฉานเหนือ-ตะวันออกมาปักหลักแทนท้องถิ่นเดิม ทำให้สถานการณ์ชายแดนตอนบนของไทยเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง“สังคมไทย” ควรรู้จักเพื่อนบ้านในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เพราะต่างก็มีวิถีและวัฒนธรรมแตกต่างกันไป...การคิดแบบเหมารวมและรวบรัดทำนอง “พวกเขาคือพม่าเดียวกัน” เป็นความเข้าใจผิดสิ้นเชิง และก่อให้เกิดผลในทางนโยบายที่ผิดเพี้ยนของรัฐไทยเดือนที่ผ่านมามีคลิปข่าวเหตุการณ์ “เผาหมู่บ้านไทยสิงขร” ชุมชนไทยในฝั่งพม่า เป็นคลิปที่ “ทหารป่า” ถ่ายไว้ส่งให้ชาวบ้านสิงขร สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของทหารพม่า“สิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือการช่วยเหลือคนไทยสิงขร รวมทั้ง คนไทยอีกจำนวนไม่น้อยในฝั่งพม่าพวกเขากลายเป็น...ไทยถิ่นพลัด ประเทศแม่คือสยามถูกบังคับให้เฉือนพื้นที่ยกให้อังกฤษเมื่อร้อยกว่าปีก่อนวันนี้พวกเขากำลังเดือดร้อนแสนสาหัส รัฐบาลไทยและสังคมไทยจะช่วยเหลืออย่างไร”ภาสกร จำลองราช “สำนักข่าวชายขอบ” www. transbordernews.in.th ที่ผ่านประสบการณ์ทำข่าวสืบสวนสอบสวนแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างยาวนาน เปิดประเด็นรู้จักเครือญาติของเรากรณี “ไทใหญ่” ภาสกร บอกอีกว่า ตอนกระแสข่าวเรื่องทหารว้ารุกล้ำชายแดนไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ กำลังดังในช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีคำตอบของรัฐมนตรีคนหนึ่งรวมทั้งคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเห็นทำนองว่า...“ทหารว้าเขาก็อยู่ของเขาดีๆ แล้วไปยุ่งกับเขาทำไม”หลายคนมองไม่เห็นความแตกต่างกันระหว่าง “ว้า” กับ “ไทใหญ่” มองว่าทั้งสองกลุ่มคือ “พม่า” เหมือนกัน ไทใหญ่ซึ่งมีกองทัพเมิงไตยึดครองและเคลื่อนไหวอยู่แนวชายแดนด้าน 3 จังหวัดภาคเหนือของไทยมาก่อนปี 2539 ก่อนสิ้นอิทธิพลไปพร้อมๆกับการวางอาวุธของขุนส่าหลังจากนั้นทั้ง “พม่า” และ “จีน” สนับสนุนให้ “กองกำลังว้า” มายึดพื้นที่ชายแดนบริเวณนี้แทน ทั้งๆที่ฐานที่มั่นเขตปกครองพิเศษว้าอยู่ในรัฐฉานด้านที่ติดกับจีนแสดงให้เห็นถึง...ยุทธศาสตร์ที่เขาวางกันไว้กว่า 2 ทศวรรษปัจจุบันทั้งภัยยาเสพติด ภัยความมั่นคง ภัยจากสแกมเซ็นเตอร์ มากมายทั่วภาคเหนือเพราะแหล่งผลิตยาเสพติด...แหล่งอาชญากรรม ได้รับการปกป้องจากกองกำลังติดอาวุธคำถามสำคัญมีว่า...เมื่อมีโอกาส สังคมควรเลือกเพื่อนบ้านได้ไม่ใช่หรือ?“หมู่บ้านสิงขร”...ชุมชนไทยในเขตตะนาวศรีของพม่า ปัจจุบันอยู่ฝั่งประเทศพม่าชายแดนด้านจังหวัดประจวบฯ ชาวบ้านเป็นคนไทยพูดสำเนียงปักษ์ใต้ ย้อนเหตุการณ์สลดใจเมื่อครั้งถูกเผาเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ คนไทยสิงขรที่หนีมาอยู่ตามบ้านญาติฝั่งไทย ทำอะไรไม่ได้มากกว่ากอดกันร้องไห้...“ชาวไทยสิงขรมีกว่า 100 ครอบครัว เด็กๆที่พูดภาษาไทยกว่า 200 คน...กระเจิงกันไปคนละทิศละทาง คนที่เข้ามาอาศัยญาติในไทยต้องอยู่กันอย่างหลบๆซ่อนๆ ตำรวจก็บอกว่าเขาเป็นพม่า พออยู่ในพม่าพวกเขาก็ถูกมองว่าเป็นไทย พอกะเหรี่ยงรบกับพม่า...บ้านสิงขรตกอยู่ระหว่างเขาควาย ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง”ภาสกร มองว่า “รัฐบาลไทย” ควรสนใจและใส่ใจ อย่างน้อยเด็กๆ 200 คนควรได้มีที่เรียน ชาวบ้านสิงขรทุกคนควรได้รับการดูแล พวกเขาคือคนไทยที่โชคร้าย ถูกเฉือนออกจากแผ่นดินแม่เมื่อร้อยกว่าปีก่อนในยุคของนักล่าอาณานิคม“สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ “สมช.” ควรมีนโยบายเชิงรุก ตลอดชายแดนตะวันตกเต็มไปด้วยเครือญาติของเรา อย่าปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวจากผลของสงครามในพม่า.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม