ยืนยัน สว.กว่า 70% โดน กกต.เชิญไปชี้แจงหมดนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. เลขานุการคณะกรรมการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) คีย์แมนสำคัญอีกคนในวุฒิสภาชี้ให้เห็นภาพที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกไปชี้แจงหลังมี สว.สำรองและคณะไปร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้รับปมฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ โดยถูกตั้งข้อสังเกตมีขั้วการเมืองหนึ่งพยายามใช้กลไกรัฐบีบ สว.กลุ่มสีน้ำเงินแรงขึ้นเรื่อยๆ ให้ย้ายขั้วทางการเมืองถ้ากลั่นแกล้ง ใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำผิดจริยธรรม เรามีสิทธิ์ปกป้องสถาบันนิติบัญญัติ โดย สว.ลงรายชื่อตามที่กฎหมายกำหนด ส่งให้องค์กรอิสระพิจารณาว่าเข้าข่ายผิดจริยธรรมที่กล่าวหา สว.หรือไม่วันนี้หลายคนไปโจมตี กกต.ทำงานช้า ผมถูก กกต.เรียกไปประมาณ “5-6 ครั้ง” เป็น กกต.จังหวัดเรียกไปชี้แจง ตอนแรกชี้แจงส่วนกลางจบแล้ว แต่ไม่ใช่ ก็ต้องค่อยๆเอาหลักฐานเอกสารเท่าที่มีไปยื่นแก้ข้อกล่าวหา หลายที่ กกต.ยังข้องใจก็สอบถามมาใหม่ หายข้องใจก็เสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณาสว.โดนทุกคน กกต.ทำหน้าที่ แต่ไม่ได้ป่าวประกาศนับตั้งแต่ สว.เข้ามาทำงานประมาณ 7 เดือน ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง สว.หลายคนอาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ท้ายสุดสามารถขับเคลื่อนออกไปได้อาทิ กลั่นกรองกฎหมาย พิจารณากรรมการองค์กรอิสระที่ผ่านตามขั้นตอนแล้ว ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ สว.แต่ละคนจะชี้ขาด ยืนยันทำตามอำนาจหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ สว.ถูกแบ่งเป็น กลุ่มสีน้ำเงิน 140 คน กลุ่มสีขาว 2 คน กลุ่มพันธุ์ใหม่ 13 คน ที่เหลือ 44 คนเป็นกลุ่มอิสระ นายวุฒิชาติ บอกว่า ผมไม่ทราบ ไปห้ามคนอื่นมองหรือคิดไม่ได้ มุมมองส่วนตัวเห็นว่าวุฒิสภาเป็นหนึ่งเดียวอาจมีความเห็นแย้ง ไม่ตรงกัน เป็นธรรมดาที่มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ แต่ได้คุยกันด้วยเหตุและผล ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น ถึงเวลาก็โหวตแล้วจบ ฉะนั้นไม่เคยคิดว่าวุฒิสภามีหลายสีในรอบ 7 เดือนเจอแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง ภาคประชาชนจับตามองการทำงานอยู่ รู้สึกอึดอัดอย่างไร นายวุฒิชาติ บอกว่า รู้สึกเฉยๆ เพราะ สว.ทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่เคยไปก้าวก่ายใคร การทำหน้าที่อาจเป็นที่ชอบหรือไม่ชอบของคน มันเป็นไปได้หมดวุฒิสภาต้องเลือกตุลาการรัฐธรรมนูญ เลือก กกต.อีก 5 คน แทนที่คนกำลังหมดวาระ ตรงนี้จะพิสูจน์อย่างไรให้เห็นว่าวุฒิสภาเลือกคนเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ นายวุฒิชาติ บอกว่า ที่ผ่านมามีรอยด่างหรือไม่ทั้งเลือกประธานศาลปกครองสูงสุด อัยการสูงสุด เราตอบสังคมได้ หากเห็นว่า สว.ทำผิดก็ไม่ได้รับการยกเว้นเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมแก้รัฐธรรมนูญดูร้อนแรงที่สุด บนเงื่อนไข สว.1 ใน 3 คือ 67 เสียงเป็นกุญแจอีกดอกสำคัญสู่การเปิดประตูแก้รัฐธรรมนูญ นายวุฒิชาติ บอกว่า ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เป็นผู้มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติสมมติเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ วุฒิสภาก็ต้องทำ โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เลิกคุยทุกกรณี แต่ไม่มีธงว่าต้องแก้ประเด็นอะไรที่มาของ สว. 60 ในความเห็นส่วนตัวควรแก้ไขอย่างไร นายวุฒิชาติ บอกว่า ยินดี แต่กรณีให้ตัดเสียง สว. 1 ใน 3 ออกไป ไม่ต้องมายุ่งกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอถามว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะมี 2 สภาไว้ทำไมในเมื่อกติกาสูงสุดกำหนดให้เป็นอีกหนึ่งเสาหลักของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเสาหลักของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทำไมไม่ให้ สว.ร่วม ทำไมมอง สว.เป็นฝ่ายพูดไม่รู้เรื่องควรคุยด้วยเหตุด้วยผล สว.ยินดี แต่ถ้าประชาชนอยากให้แก้ โดยต่อไปไม่ต้องมี สว.เข้ามายุ่ง เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนวุฒิสภายังจำเป็นสำหรับการ ปกครองในระบอบประชา ธิปไตยอย่างไร นายวุฒิชาติ บอกว่า หากวุฒิสภาควรจะหายไปแล้ว ไม่ว่าในยุครัฐบาลที่ มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลเผด็จการ ต้องถามกลับไปว่าทุกช่วยกันตอบหน่อยว่า วุฒิสภามีความจำเป็นหรือไม่ ยินดีถ้าประชาชนเห็นว่าควรมีสภาเดียวมองอย่างไรในกรณีเดินเกมคดีฮั้วเลือก สว.ไปที่ดีเอสไอ นายวุฒิชาติ บอกว่า สว.ยอมให้ตรวจสอบ แต่ขอให้ดูกฎหมายทำได้หรือไม่ ใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ กว่าข้อเท็จริงที่พิสูจน์จะออกมาต้องใช้เวลาแต่ สว.ตกเป็นจำเลยสังคมถูกกล่าวหาได้มาไม่สุจริต“สว.มีสิทธิ์ปกป้องตัวเองและสถาบันนิติบัญญัติ คุณมีอำนาจก็ทำไป ถ้ามั่นใจว่าใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง ถ้าทำไม่ถูกต้อง สว.ก็ใช้ช่องทางตามกฎหมายต่อไปจะให้เราก้มหน้า กอดอก ยอมรับ โดยไม่มีสิทธิ์ชี้แจงเหรอ พอออกมาชี้แจงก็หาว่าเราตอบโต้ เอาคืน เวลาใส่เราตูมๆ จะให้เรียกว่าอะไร”สว.กำลังแตกหักกับดีเอสไอ โดยมี 2 กลุ่มการเมืองหนุนหลังเคลื่อนไหวในครั้งนี้ กลุ่มการเมืองแรกต้องการให้ กกต.ตรวจสอบต่อ อีกกลุ่มต้องการให้ดีเอสไอตรวจสอบ นายวุฒิชาติ บอกว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าผมเป็น สว.กลุ่มสำรอง เห็นมีช่องทางก็ต้องพยายาม สมมติถอดถอนพวกผมออกไป สว.สำรองก็ขึ้นมากลุ่มการเมืองฝ่ายแดงพยายามช้อนปลาในบ่อของเพื่อน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายวุฒิชาติ บอกว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ขอพูดตรงๆ ไม่ได้เป็นคนมีเพาเวอร์ เป็นเพียง สว.คนหนึ่ง สว. 199 คน มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากันผมไม่ได้เป็นผู้นำใคร แค่เป็นเลขานุการวิปวุฒิสภา คอยประสานนู่นนี่เท่านั้นเอง และมีคุณสมบัติครบตรงปก นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภาดีเอสไอเดินหน้าแบบนี้ สว.ดูท่าทีกังวลต่อประเด็นนี้ นายวุฒิชาติ บอกว่า ทุกคนกังวลที่จู่ๆมาบอกว่าเจอคดีซ่องโจร อั้งยี่ สว.จึงคุยกันว่าถ้ายืนอยู่บนจุดยืน ไม่ก้าวก่ายระรานใคร สว.ทำหน้าที่สมบูรณ์แบบก็ไม่ต้องไปกลัวพร้อมรับการตรวจสอบ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่ถูกต้องไม่ใช่ไปรับใบสั่งใครมาล่อเรากลุ่ม สว.ที่ถูกตรวจสอบเคลื่อนไหวจากหัวหินจนถึงปัจจุบัน เท่ากับเต็มใจให้ กกต.ตรวจสอบ แต่ไม่เต็มใจให้คณะกรรมการคดีพิเศษของดีเอสไอลงมติเป็นคดีพิเศษเข้ามาตรวจสอบ นายวุฒิชาติ บอกว่า เต็มใจให้องค์กรมีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญตรวจสอบ“ถ้ารับเป็นคดีพิเศษ เราก็ดำเนินการในส่วนของเรา คนที่ลงมติต้องพร้อมถูกตรวจสอบ”ทีมการเมือง ถามว่า วิปวุฒิมีมติเห็นชอบแนวทางดำเนินการหากดีเอสไอและคณะกรรมการคดีพิเศษดำเนินคดีฮั้วเลือก สว. เข้าข่ายฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือก สว. โดย สว.ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินคดีเตรียมเข้าชื่อ 1 ใน 3 อภิปรายทั่วไป รมว.ยุติธรรม ตั้งกระทู้ถาม รมว.ยุติธรรมแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ รมว.ยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ คณะกรรมการคดีพิเศษ อาทิ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 เข้าชื่อร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยถอดถอน รมว.ยุติธรรม มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงคณะ สว.ยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภาส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ รมว.ยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ ผิดจริยธรรม ใช้กลไกคณะกรรมาธิการสามัญชุดที่เกี่ยวข้อง เชิญ รมว.ยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ มาชี้แจงถึงเหตุผลที่ดำเนินการถูกต้องหรือไม่นายวุฒิชาติ บอกว่า เป็นมติร่วมในที่ประชุมวิปวุฒิ มันเกิดจาก 21 คณะกรรมาธิการสามัญ โดยประธานคณะกรรมาธิการ และมีวิปอีก 12 คน ได้ใช้ดุลพินิจร่วมกันในการปกป้องสถาบันนิติบัญญัติ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้กระจ่างตอนนี้กำลังทำอยู่ (สัมภาษณ์จบคณะ สว.ยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ รมว.ยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ ผิดจริยธรรม และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ) ทั้งหมดใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ขับเคลื่อนผ่านองค์กรที่มีอยู่ขอย้ำทุกคนมีหน้าที่ปกป้องสถาบันนิติบัญญัติถ้าพวกเราผิดก็ยอมรับผลที่ต้องตามมาอยู่แล้ว.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม