“หลิว จงอี้” ลุยเมียวดีพบชาวจีน-ต่างชาติที่กองบัญชา การ BGF ก่อนกลับมาดูท่าข้าม อ.พบพระฝั่งตรงข้ามบ้านช่องแคบพื้นที่ดูแลของกะเหรี่ยง DKBA ซักข้อมูลยิบ ขณะที่ “หม่องชิต ตู่” แถลงตามทันที ปัดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่นจากนี้ขอปัดกวาดล้างบ้านตัวเองหวังนานาประเทศเห็นและยอมรับว่ามีความจริงใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงสร้างความมั่นใจให้ประชาชน หลังเดือดร้อนจากการถูกตัดไฟ-เน็ต-น้ำมัน ด้าน “ภูมิธรรม” แบะท่า ผช.รมต.จีนไปพม่า ประสานผ่านรัฐบาลไทยแล้ว ส่วนหมายจับ “หม่องชิต ตู่” โบ้ยให้ดีเอสไอทำ แต่ล่าสุดยังเหลว นัดประชุมใหม่อีกรอบ 19 ก.พ.นี้ความคืบหน้าการช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศเมียนมา ทั้งที่เมือง เมียวดี และเมืองพญาตองซู ที่ขณะนี้มีจำนวนนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นคนจีน เพื่อส่งกลับประเทศบ้านเกิด ที่คาดว่าจะเริ่มได้ในเร็วๆ นี้ผช.รมต.จีนลุยเมียวดีผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 17 ก.พ. เวลา 10.00 น. ตามเวลาประเทศเมียนมา นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน และคณะ เดินทางมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ข้ามสะพานมิตรภาพไทยเมียนมา แห่งที่ 1 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหารเมียนมา และกองกำลัง BGF โดยฝ่ายไทยมี พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รักษาการผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมเดินทางมาที่ ศูนย์บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง BGF โดยมี พล.อ.aung kyaw kyaw ซึ่งเป็นตัวแทน รัฐบาลเมียนมา มาต้อนรับ และนำนายหลิว จงอี้ เยี่ยม ชาวต่างชาติที่ทาง BGF ช่วยเหลือออกจากเมืองสแกมเมอร์ในชเวโก๊กโก่กว่า 400 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวจีนกว่า 300 คน นำมารวมไว้ที่ศูนย์พักคอย ศูนย์บัญชาการ BGF ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ อาทิ มาเลเซีย ปากีสถาน อินเดีย เคนยา และรวันดา โดยนายหลิว จงอี้ ได้พูดคุยกับเหยื่อคนจีน ประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับมาฝั่งประเทศไทยสาวเคนยาย้ำถูกหลอกมาระหว่างนั้น สื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวได้สัมภาษณ์เหยื่อที่รอส่งตัวกลับ รายหนึ่งเป็นหญิงชาวเคนยาระบุว่า ถูกหลอกลวงให้มาทำงานเกี่ยวกับ มาร์เกตติ้งที่ไทย แต่มารู้ตัวอีกทีทราบว่า ตนมาอยู่ ที่เมืองเคเคปาร์คแล้ว ทำงานเป็นสแกมเมอร์ ตน ไม่ยินยอมเลยถูกขายให้อีกบริษัทหนึ่งเพื่อเดินทางมายังเมืองเมียวดี แล้วกองกำลัง BGF กวาดล้าง จึงแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศ ส่วนอีกรายเป็นชายชาวอินเดีย ได้รับการติดต่อให้มาทำงานที่ชเวโก๊กโก่ เพราะเงินดี มาได้ 2 เดือน พอมาถึงงานที่นี่ไม่ถูกต้อง ใช้งานโหดเกินไป จึงสมัครใจ เดินทางกลับประเทศ“หลิว จงอี้” รุดดูท่าสินค้า 28ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อกลับมาถึงฝั่งไทย นายหลิว จงอี้ และคณะ เดินทางไปที่บริเวณท่าส่งสินค้า 28 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ ตรงข้ามกับแหล่งสแกมเมอร์ บ้านช่องแคบ เมืองเมียวดี อยู่ในการดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ซึ่งนายหลิว จงอี้ สอบถามถึงสินค้าส่วนใหญ่ที่ใช้ผ่าน ท่าข้ามแห่งนี้ และยังมีการส่งน้ำมันผ่านท่าส่งสินค้าไป หรือไม่ และถามถึงสถิติการลักลอบข้ามแดนของชาว ต่างชาติที่ข้ามไปยังประเทศเมียนมา อีกทั้งยังลงไปดู โป๊ะของท่าส่งสินค้า โดยมีเจ้าหน้าที่รายงานว่า ขณะนี้ ไม่มีการส่งน้ำมันแล้ว และได้ตรึงกำลังในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนจำนวนคนลักลอบข้าม แดนนั้น ไม่สามารถระบุได้ เพราะจะนิยมใช้ช่องทาง ธรรมชาติข้ามแม่น้ำเมยไปยังเมียนมาในช่วงเวลากลางคืน หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะจับกุมตลอด ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความคืบหน้าการส่งกลับชาวจีนที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์จากเมียนมา และมี จำนวนทั้งหมดกี่คน แต่นายหลิว จงอี้ ปฏิเสธที่จะตอบ และบอกกับคณะเจ้าหน้าที่ให้แจ้งกับสื่อมวลชนว่าไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ“หม่องชิต ตู่” ปัดเอี่ยวแก๊งคอลฯนอกจากนี้ มีรายงานว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.หม่องชิต ตู่ ผู้นำ BGF เปิดแถลงข่าวที่ศูนย์ บัญชาการรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการ BGF ถึงเรื่องการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และที่ไทยจะออกหมายจับ โดยยืนยันไม่เกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ในเมียวดี BGF ได้กวาดล้างตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา และจะทำเรื่อยๆ นอกจากจีน ยังมีอินเดีย แอฟริกา ที่ไม่รู้จักชื่อ เมื่อรวบรวมมาได้ ถ้าตำรวจพม่าทำการบันทึกเสร็จ จะให้ประเทศต้นทาง มารับโดยเร็ว ตอนนี้ทาง BGF จะรับผิดชอบกวาดล้างในเคเคปาร์ค เมียวดี ชเวโก๊กโก่ ทั้งหมดส่งมาที่เมียวดี เป็นหน้าที่กรมตำรวจเมียนมา เพราะทางรัฐบาลกลาง เนปิดอว์ส่งตำรวจมาทำคดีบันทึกประวัติ จากการประชุม 3 ฝ่าย จะให้แต่ละประเทศมานำคนกลับไป แต่กลับยังไงตนไม่รู้พร้อมปัดกวาดล้างบ้านตัวเองพล.ต.หม่องชิต ตู่กล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบนอกจากจีนยังมี ญี่ปุ่น เวียดนาม และไทย ด้วย ส่วนคนจีนทราบว่า ทางการจีนจะเอาเครื่องบินมารับที่ สนามบินแม่สอด ส่วนประเทศอื่นๆจะประสานผ่านสถานทูตแต่ละประเทศ ขณะนี้มีอินโดนีเซีย 61 คน ยังประสานสถานทูตไม่ได้ กลไกจะทำงานร่วมกับ สถานทูตแต่ละประเทศ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้พบตัวแทนผู้นำจีน ไม่ได้พบ ไม่ได้คุยด้วย แต่ BGF เขียนจดหมายผ่านตัวแทนของฝ่ายไทย ทางไทยได้อ่าน เป็นข้อเสนอที่ดี เป็นสิ่งที่เราน่าจะประสานกันได้ ส่งผ่านผู้แทนไทย ส่วนหลังจากกวาดล้างจะทำอย่างไร กับธุรกิจของคนจีนนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ ลำดับแรกจะขอล้างบ้านก่อน แล้วให้นานาประเทศเห็นว่าตนมีความจริงใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง ขอเก็บกวาด บ้านก่อน และกล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายอยากบอกถึงประชาชนของตัวเอง มีการพูดว่าเพราะ BGF ทำให้เดือดร้อน เราได้กวาดล้างแล้วจะทำให้สิ้นซาก จะทำดี ที่สุดสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ทำให้นานาประเทศ ยอมรับ ทำให้เห็นและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศ ต่างๆ อยากบอกประชาชนตัวเองจะแก้ปัญหานี้ให้ไวที่สุดDKBA ลุยกวาดจีนเทาเรียบส่วนที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจากกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA เข้ากวาดจับกลุ่มจีนเทาที่เข้ามาทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ อ.พญาตองซู ได้ 86 คน เป็นชาย 85 คน หญิง 1 คน และนำตัว ออกจากบ่อนกาสิโน ซึ่งเป็นบ่อนออนไลน์ของกลุ่มจีนเทา ที่มี พ.ท.เลวิน เป็นเจ้าของที่ดิน ตั้งอยู่บริเวณชุมชนที่ 1 อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี ด้านตรงข้าม ที่ตั้ง รพ.ส่งเสริมสุขภาพบ้านพระเจดีย์สามองค์/สถานีอนามัย บ.พระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู ปรากฏว่า ตลอดวันที่ 17 ก.พ. เสียงเครื่องปั่นไฟที่เคยส่งเสียงดัง ตลอด 24 ชั่วโมง จากสถานที่ดังกล่าว ก็เงียบหายไป ขณะที่การค้าขายและส่งออกสินค้าบริเวณหน้าด่านศุลกากรสังขละบุรี ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ยังคง เป็นไปตามปกติย้ำไทยดูแลการปราบปรามวันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ถึงการช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองเมียวดี ว่าลอตที่จะกลับมาล่าสุดต้องผ่านประเทศไทย อยู่ระหว่างตรวจสอบและคัดกรอง เสร็จแล้วทางจีนจะรับตัวส่วนหนึ่งออกไป แต่ส่วนใหญ่ที่เราตกลงกัน ทั้งจีน เมียนมา และไทย ทางเมียนมาได้ทำหนังสือมายังฝ่ายทหาร และกระทรวงการต่างประเทศของไทย หลังจากนี้จะนำตัวทุกคนเข้าสู่กระบวนการของเมียนมาในการจัดการทั้งหมด ซึ่งไทยจะเป็นเพียงผู้สนับสนุน ถ้าอะไรที่คิดว่าจะผ่านประเทศไทยให้มีการประสาน เราพร้อมสนับสนุน ตอนนี้เรารับผิดชอบในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันแม้จีนส่งเครื่องบินมารับคนของเขากลับประเทศ เราก็สามารถจับตัวการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ เพราะเป็นงานที่เราตกลงหน้าที่กันเรียบร้อยแล้ว และหลังจากข้ามมาฝั่งไทยแล้ว ทางจีนเตรียมเครื่องบินมารับที่แม่สอด ค่าใช้จ่ายจึงไม่เกี่ยวกับไทย ส่วนที่ นายหลิว จงอี้ เหมือนมาจัดการเรื่องนี้โดยไม่ผ่านรัฐบาลไทยก็ไม่ได้จัดการเอง เพราะตกลงกันตั้งแต่มาเยี่ยมตนแล้ว และในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ตนจะพบกับนายหลิว จงอี้ อีกครั้งเพื่อสรุปการทำงานและหารือกันต่อ เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เราทำงานร่วมกันมา 2 เดือนแล้ว ระหว่างไทย เมียนมา และจีน วันนี้เรารับผิดชอบเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากนี้เมื่อมาตรการได้ผลแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่ารัฐบาลเมียนมาหรือชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาจัดการ ให้เขาดำเนินการไปเลยโยนหมายจับ “ชิตตู่” ให้ดีเอสไอส่วนการออกหมายจับ พล.ต.หม่องชิต ตู่ ผู้นำ BGF นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นของเรา เรื่อง พล.ต.หม่องชิต ตู่ เป็นเรื่องเก่า ที่มีการประสานงานกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประสานงานไป เรื่องนี้ยังดำเนินต่อไปอยู่ หม่องชิต ตู่ ก็ทำหน้าที่ของเขาโดยประสานงานกับจีน เราคงพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ตร.ไซเบอร์รับข้อมูลคลาดเคลื่อนส่วนที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.กฤตัสญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 ร่วมกันแถลงผลพิสูจน์กรณีรับตัวกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา จำนวน 260 คน โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า จากการคัดกรองผ่านกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM อย่างละเอียดแล้ว พบข้อมูลบ่งชี้ว่ามีผู้ถูกหลอกลวงไปทำงานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์จำนวนมาก แต่สมัครใจไปทำงานมีเพียง 2-3 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากเดิมที่เคยแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ว่าในจำนวนดังกล่าวมีเหยื่อที่ถูกหลอกลวงเพียง 1 คน เนื่องจากว่าข้อมูลที่ได้รับรายงานในครั้งแรกกับข้อมูลที่เก็บจากโทรศัพท์มือถือมีความแตกต่างกันอย่างมาก ทางตำรวจไซเบอร์จึงขออภัยถึงความผิดพลาดในการนำเสนอข้อมูลไปแล้วก่อนหน้านี้ยังไม่ออกหมายจับ “หม่องชิต ตู่” กับพวกสำหรับความคืบหน้าการออกหมายจับ พล.ต.หม่องชิต ตู่ ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.พ.พนักงานสอบสวนดีเอสไอ กองคดีค้ามนุษย์ ได้เข้าหารือครั้งที่ 2 กับพนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ กรณีที่จะยื่นคำร้องขอออกหมายจับ พล.ต.หม่องชิต ตู่ พ.ท.โมเต โธน และ พ.ต.ทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์คอลเซ็นเตอร์ชาวอินเดีย หลังการประชุมนาน 3 ชม. ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการออกหมายจับ พล.ต.หม่องชิต ตู่ กับพวก เนื่องจากตามขั้นตอน หลังจากได้รับข้อมูลทางอัยการคดีค้ามนุษย์ต้องตรวจรายละเอียดในเอกสารอีกครั้งว่ายังตกหล่นในประเด็นใดหรือไม่ หากยังมีประเด็นข้อสงสัยทางดีเอสไอต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม มีรายงานว่าในการประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากมีประเด็นเรื่องหลักฐานที่จะยื่นศาลขอออกหมายจับยังอ่อนไปหรือไม่ และมีการขอเอกสารในการประกอบการขอออกหมายจับมาให้ครบถ้วนเพื่อพิจารณา อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์นัดประชุมเรื่องนี้กันอีกภายในวันที่ 19 ก.พ. และวันเดียวกันอาจประชุมร่วมกับดีเอสไอด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่