แม้จะมีแรงขับเคลื่อนแห่งความกระตือรือร้น แต่ความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในประเทศภูมิภาคอาเซียนยังเหลื่อมล้ำ ทำให้การผลักดันภูมิภาคสู่การเป็นศูนย์กลางด้าน AI ล่าช้า สะท้อนอันดับความพร้อมด้าน AI ของสิงคโปร์ซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ของโลก เทียบกับลาว กัมพูชา และเมียนมาที่เตาะแตะอยู่อันดับ 136, 145 และ 149 ตามลำดับดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน เปิดเผยถึงการประชุมนโยบายระดับภูมิภาคว่าด้วยความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ณ สำนักงานใหญ่อาเซียน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2568 ว่า นอกจากการหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนากรอบการกำกับดูแลและข้อริเริ่มเชิงนโยบาย เพื่อผลักดันการใช้ประโยชน์จาก AI อย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งลดช่องว่างด้านความรู้เกี่ยวกับ AI เพื่อปลดล็อกโอกาสต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วการประชุมครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดตัวโครงการ AI Ready ASEAN อย่างเป็นทางการหลังเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ต.ค.2567 ภายใต้การสนับสนุนจาก Google.org จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีเป้าหมายยกระดับความรู้ด้าน AI ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใต้กรอบดำเนินงาน 2.5 ปี ตั้งเป้าพัฒนาทักษะด้าน AI ที่จำเป็นให้แก่ประชาชน 5.5 ล้านคน“สิ่งสำคัญคือการทำให้ทุกชุมชน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อความสำเร็จในโลกยุค AI ตั้งแต่เยาวชน ครู และครอบครัวทั่วภูมิภาค เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ช่วยให้ทุกคนในอาเซียนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จาก AI”ดร.ปิติกล่าวว่า ห้วงเวลานี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมท่ามกลางการเติบโตของ AI และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนให้ขยายตัวได้ 3 เท่า จากมูลค่าราว 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030 ขณะเดียวกัน ภายใต้นโยบายข้อตกลงกรอบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Framework Agreement) ยังจะช่วยเร่งเศรษฐกิจดิจิทัลให้ขยายตัวขึ้นอีกเท่าตัว แตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯอย่างไรก็ตาม แม้จะมีแรงขับเคลื่อน แต่ความพร้อมด้าน AI ในภูมิภาคยังมีความเหลื่อมล้ำอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะช่องว่างทางดิจิทัลที่เห็นได้ชัด จากปัญหาการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ไม่มีประสิทธิภาพและการขาดแคลนโครงการส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัล ส่งผลให้การผลักดันภูมิภาคสู่การเป็นศูนย์กลางด้าน AI เป็นไปอย่างล่าช้า ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนจากระดับความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศสมาชิก โดยสิงคโปร์ซึ่งเป็นผู้นำของภูมิภาคได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 จาก 190 ประเทศในดัชนีความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ของภาครัฐปี 2567 ในขณะที่ลาว กัมพูชา และเมียนมายังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการประยุกต์ใช้ AI โดยอยู่ในอันดับที่ 136 145 และ 149 ตามลำดับ.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม