ราคาทองคำพุ่งเป็นประวัติการณ์ จ่อทะลุบาทละ 5 หมื่น อีกไม่ไกล ตลาดหุ้นไทยทำอันดับร่วงหนักสุดในโลก ตกระเนระนาดต่ำกว่า 1,300 จุด โดนตลาดหุ้นเวียดนาม ปาดหน้าแซงโค้งในรอบ 17 ปีแมลงเม่าปีกไหม้ตายเป็นเบือ ทุนใหญ่เทขายบิ๊กลอตบานตะไท สัญญาณลบทางเศรษฐกิจมาเต็ม แม้แต่มหาเศรษฐียังเก็บคองอเข่ากันแทบไม่ทัน นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านร้านตลาด คนหาเช้ากินค่ำเตรียมหยอดน้ำข้าวต้ม สภาพตายหยังเขียดเป็นยังไงได้เห็นแน่โดยสถานการณ์ที่เอาตัวรอดกันได้ก็มีแค่กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่อาศัยมือบริหารอาชีพระดับบิ๊กเนมคุมเกมประคองผลประกอบการ แต่นั่นก็ต้องยอมเจ็บปวด กล้าสลัดทิ้งธุรกิจที่ทำขาดทุน ตัวถ่วงกำไรไปต่อไม่ไหวก็ต้องหยุด ล้มโปรเจกต์ ไม่กลัวเสียหน้าแบบที่ข่าวเศรษฐกิจ บิ๊กเซอร์ไพรส์ “เดอะเอ้” คงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอค่าย ปตท.จำกัด (มหาชน) สั่งแตะเบรกโครงการร่วมทุนผลิตรถไฟฟ้า EV ยี่ห้อ “อรุณพลัส” ตัดจบ ไม่ฝืนเหนื่อย เสี่ยงแห่ตามกระแสโลกก็ขนาดเจ้าตำรับรถอีวีจีนยังเจ๊ง ไทยลงแข่งมีหวังช็อตพังคาสนามปตท.ที่กำไรอู้ฟู่ ยังต้องแวะจอดปั๊มดูลาดเลา ตามเค้าลางเศรษฐกิจเบื้องหน้าที่ชะตาโลกถูกผูกติดอยู่กับ “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” ของ “คาวบอย” โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อนาคตยากต่อการคาดเดาสึนามิเศรษฐกิจโลก คลื่นยักษ์สะท้อนผ่านราคาทองพุ่งทะลัก ตลาดหุ้นหล่นระเนระนาด ประเทศไทยที่อาศัยอานิสงส์บุญเก่า จากพื้นฐานทางธุรกิจแข็งแกร่ง ภาคเอกชนแข็งแรง เริ่มรู้สึกถึงแรงกระแทกที่หนักหน่วงขึ้นทุกขณะซ้ำร้ายจุดดำการเมืองแบบไทยๆยังฉุดเศรษฐกิจโงหัวไม่ขึ้นลำพังหวังพึ่งฝ่ายบริหาร ฝากผีฝากไข้กับรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร ภายใต้การนำของ “นายกฯคนลูก” อย่าง “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยังอ้ำๆอึ้งๆกับเสียงวิจารณ์เชิงบริหารคำถามเศรษฐกิจไทยจะฟื้นกี่โมง ยังตอบไม่ได้ตัวเลขจีดีพียังปั่นไม่ขึ้นดั่งใจนึก แม้จะลุยอัดฉีดน้ำเลี้ยงจากภายในด้วยกลยุทธ์ “เฮลิคอปเตอร์ มันนี่” โปรยเงินงบประมาณ ควักเงินก้นถุงคลังหลวงแจกประชาชนกระตุ้นการใช้จ่ายแบบอัฐยายซื้อขนมยายเงินหมื่นเฟส 1 เฟส 2 หย่อนแล้วหายต๋อมตั้งท่าเทกระจาด เฟส 3 ฝ่าแนวต้าน ยากขึ้นตามระดับแรงเสียดทานสภาพนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง โดยสถานการณ์ที่คนเล่นในสนามเหนื่อยหืดจับ แต่พี่เลี้ยงที่ลุ้นช่วยข้างเวทีเหนื่อยหายใจไม่ทัน หอบยิ่งกว่า อาการแบบที่เริ่มมีสัญญาณจาก “นายกฯคนพ่อ” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ร่ำๆขอสัญญาณไฟเขียวแบะท่า ลุ้นปลดล็อกโทษแบน ลงสนามเป็นตัวจริงเล่นเองอารมณ์ “เสือเฒ่า” ที่ต่อรองโอกาสปล่อยพลังเต็มที่ ในการเปิดเกมรบสมรภูมิเกมการเมืองที่สลับซับซ้อน ไม่ใช่แค่โจทย์หินสู้กับเด็กรุ่นใหม่ แต่ยังหมายถึงดีลซ่อนเงื่อนซ่อนกล ในหมู่ขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ที่แข่งกันชิงธงนำ ข่มกันอยู่ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย“นายใหญ่” วัดพลังเพาเวอร์เพลย์กับก๊วนเซราะกราวณ จุดที่เห็นกันตำตาจากศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ต่อเนื่องจากเกมล็อก สว.จัดตั้งสายน้ำเงิน มนต์ขลัง “ทักษิณ” เสื่อมอิทธิฤทธิ์ เมื่อเทียบกับมนต์เขมรของแบรนด์ “2 น.” พะยี่ห้อ “อนุทิน ชาญวีรกูล-เนวิน ชิดชอบ”สภาพเกมอำนาจขึงพืด การเมืองถ่วงเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นพังพาบและโดยธรรมชาติเกมอำนาจการเมืองแบบไทยๆที่เหมือนน้ำไหลลงที่ต่ำ เมื่อเจอทางตันก็ต้องเซาะหาทางระบาย ทำลายพนังกั้น จับจังหวะการขยับของกลุ่ม “สว.สำรอง” ที่บุกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไล่บี้กดดันให้รับคดีโพยก๊วน “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ นำไปสู่การโมฆะล้มกระดาน สว.สายน้ำเงินเป้าหมายลุ้นได้ถึงการหักด่าน สลายพลัง 2 น. เซราะกราวส่อเค้าจุดชนวนเกมรบหักดิบในขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม