เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการชี้แจงเตรียมความพร้อมครูผู้สอนในการประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA ชั้น ม.3 และ 4 ปีการศึกษา 2568 ว่า ตนได้ปลุกเร้าครูผู้สอนทุกสังกัด รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมนักเรียนที่จะเข้ารับการประเมิน PISA ช่วงเดือน ส.ค.นี้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของนักเรียนไทยให้สูงขึ้น เพราะถ้าผลประเมินออกมาดีก็ถือเป็นการช่วยชาติอีกทางหนึ่งด้วย เพราะจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในต่างประเทศ“การทดสอบ PISA ในปีนี้ ศธ.ตั้งเป้าที่จะยกระดับคะแนน PISA ขึ้นให้ได้ 5 คะแนน และขยับเพิ่มเป็น 10 คะแนน หรือ 20 คะแนนในครั้งต่อๆไป โดยมีเป้าหมายสุดท้าย คือการยกระดับคุณภาพของผู้เรียนทุกคนจะต้องเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี กำหนด และแน่นอนว่าเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลา ดังนั้นในระหว่างนี้เราจึงต้องเตรียมความพร้อม สร้างความคุ้นชินให้กับนักเรียนในเรื่องของข้อสอบ ซึ่งไม่ใช่แค่ความรู้ หรือการจำอย่างเดียว แต่ต้องมีทักษะการอ่าน การคิด วิเคราะห์ ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้มีการกระจายความรู้เกี่ยวกับการออกข้อสอบ PISA ให้กับครูในโรงเรียนต่างๆกันไปแล้วเกือบ 50% และจะให้ความรู้ไปให้ครบทั้งหมด ต่อไปในอนาคตเราคงไม่นำแนวการออกข้อสอบ PISA ไปใช้แค่เพียงการทดสอบสมรรถนะนักเรียนเท่านั้น แต่จะนำไปใช้ในการสอบเข้าเรียน หรือสอบเพื่อเลื่อนชั้นด้วย” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวพล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มนักเรียนช้างเผือกที่ผลการทดสอบ PISA ที่ผ่านมาจะได้คะแนนที่สูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่โออีซีดี กำหนด ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนทั่วไปนั้น เรื่องนี้เกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะความพร้อมที่แตกต่างกัน ดังนั้น ศธ.จึงพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำ โดยการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ เด็กทุกคนเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่