แจ้งเกิดเป็นแชมป์เวทีเดอะสตาร์ 8 ด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังเป็นที่จดจำ ก่อนที่ศิลปินหนุ่มมากความสามารถ “โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม” จะผันตัวมาเป็นผู้บริหารค่ายเพลง LIT Entertainment อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินที่ปั้นมากับมือ อาทิ วง PiXXiE, bamm, Proothunwa, DIDIxDADA, SNS (SugarNSpice) ผลักดันสู่วง T-POP แถวหน้า เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนวันนี้ถึงเวลาที่ “โดม” ขอคัมแบ็กกลับมาร้องเพลงเต็มตัวอีกครั้งในรอบ 8 ปี ให้แฟนๆหายคิดถึง เลยชวน “โดม” มาพูดคุย...เล่าการคัมแบ็กกลับมาเป็นศิลปินตอนนี้ให้ฟังหน่อย?“ปลายปีที่แล้วช่วง ส.ค.ปีที่แล้ว ได้เริ่มปล่อยเพลงแรก “เธอไม่ชอบฝน” จริงๆมันนำร่องมาจากโปรเจกต์พิเศษของค่ายมาก่อนแล้วพอฟีดแบ็กมันดีเราก็รู้สึกว่าจริงๆแล้วคนก็คิดถึงการร้องเพลงของเราเหมือนกันก็เลยโอเคมีเพลงที่เคยเขียนเอาไว้เลยเอามาทำเลยก็เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่มันเหมาะมากเพราะตัวผมเองก็ทำงานในลักษณะเบื้องหลังมาสักระยะหนึ่ง เราก็มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นก็อยากจะลองเอามาปรับใช้กับการทำงานตัวเองบ้าง ได้จับเทรนด์บางอย่างของเด็กๆหรือว่าของคนในยุคนี้ว่าเค้ามีพฤติกรรมยังไงบ้างมาปรับกับการทำงานของเรา ซึ่งก็ต้องขอบคุณทุกคนที่จริงทุกๆครั้งที่ปล่อยเพลงหรือว่าลงคลิปร้องเพลงอะไร คนก็จะพิมพ์ในคอมเมนต์เยอะมากว่ายังคิดถึงมาก ตอนนี้ปล่อยซิงเกิลที่ 2 ชื่อเพลง “ผู้ฟังที่ดี” เราอยากต่อยอดจากเพลงแรกด้วยซาวด์ดนตรีหรือด้วยวิธีการพูดจามันมีความใกล้ๆกัน เพลงนี้โดมแต่งเอง ทุกคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ร่วมของการเป็นผู้ฟังที่ดีกันหมด ไม่ใช่แค่ในมุมเรื่องความรักอย่างเดียว บางทีอาจจะมีเรื่องหนักอกหนักใจ ก็มาเลือกเล่าให้ฟัง อาจจะไม่ได้ต้องการคำแนะนำอะไร มากไปกว่ามีคนมานั่งฟังเค้าระบาย เลยรู้สึกเป็นมุมที่ก็น่าสนใจ มันคือยุคใหม่ของโดมจารุวัฒน์ไปเลยเป็นเวอร์ชันใหม่ แล้วก็คงจะได้ทำอัลบั้มในปีนี้” ทำไมถึงไม่เลือกทำเพลงกับค่ายตัวเอง?“เหมือนค่าย LIT มี DNA ที่ชัดเจนมากในเรื่องการทำศิลปินที่เป็น T-POP เลยรู้สึกว่าเลือกทางที่ตัวเองอยากทำแล้วก็เดินในเส้นของศิลปินอิสระเลย”การทำเพลงเล่าเรื่องราวในวันนี้ที่ “โดม” โตขึ้นยังไงบ้าง?“จริงๆ ในแง่การโตขึ้นก็คงโตขึ้นในการที่เราได้มีโอกาสทำงานด้วยตัวเองมากขึ้น จากเมื่อก่อนเราปฏิบัติตัวเองเป็นนักร้องเป็นศิลปินคือมีโจทย์มาปุ๊บเราก็รับหน้าที่ถ่ายทอด เห็นขั้นตอนการทำงานต่างๆ จนมันผ่านระยะเวลาไปก็มีโอกาสเข้ามาหลากหลายเรื่อยๆทั้ง ละคร ซิตคอม ละครเวที แล้วก็รายการ 4 โพดำ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่มันหล่อหลอมเราไปเรื่อยๆ ตอนทำ 4 โพดำเป็นเหมือนโรงเรียนคือฝึกให้เราได้ทำงานเบื้องหลังเต็มที่เลยได้วิชา ซึ่งตอนนี้เหมือนเราได้เติมตั้งแต่ตอนต้นเลยทั้งวิธีการคิดงานไปจนถึงการทำจริงๆแต่ละขั้นตอนเป็นยังไง เราจะให้โจทย์ศิลปินของเรายังไงบ้างไปจนถึงการออกผลงานออกมา ก็เป็นสิ่งที่เราได้รู้วิธีการทั้งหมดจริงๆ เรียกว่ามันครบจิ๊กซอว์ต่อกันครบพอดีในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่เราได้ทำงานด้วยตัวเองเต็มๆแล้วก็ยังคงมีแรงอยู่ที่จะได้ทำสิ่งนี้ ถ้าเกิดเลยไปกว่านี้เราอาจจะไม่ได้บู๊เท่านี้อีกแล้วก็เลยรู้สึกเป็นช่วงเวลาที่อยากทำให้เต็มที่ที่สุด” เพลงของโดมต้องแบบแอบรัก อกหักหรือว่าสมหวัง?“ส่วนใหญ่จะโดนเพลงเศร้าเกือบทั้งหมด เป็นคนที่มี 2 โหมดคือ ไม่เป็นเพลงเศร้าไปเลยก็เป็นเพลงรักแบบงานแต่งไปเลย”หลังจากนี้แฟนๆที่คิดถึงเพลงของโดมก็จะได้ฟังเรื่อยๆ?“ใช่ก็จะได้ฟังเรื่อยๆทำเป็นอัลบั้ม หลังจากช่วงที่เราหายไปแล้วพอกลับมาเริ่มทำเรารู้สึกแฮปปี้กับการทำสิ่งนี้แล้วมันแฮปปี้กว่าเดิมด้วยเพราะว่าเราได้มีโอกาสลงไปอยู่ในทุกขั้นตอน”น้องๆ ศิลปินในค่ายแซวมั้ย?“แซว ทุกคนคือแซวด้วยแล้วก็บอกว่าเมื่อไหร่ๆ จะปล่อยเพลงเมื่อไหร่ คือมันมีช่วงนึงที่ผมก็ไปอยู่กับน้องๆบ่อยๆ สมมติไปที่งานที่มีเวทีเราจะถูกผลักไปร้องเพลง น้องๆก็จะแฮปปี้ถ่ายวิดีโอ ถ่ายคลิปลง ก็เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนเหมือนกันที่ทำให้เรารู้สึกว่าเออเราก็อยากทำสิ่งนี้” ในฐานะผู้บริหาร โดม เป็นบอสที่ไม่ดุหรือดุ?“ก็จะมีหัวโขนที่ไม่ดุ จริงๆในค่ายก็จะมีผู้บริหารด้วยกันอีกคนหนึ่งก็คือพี่มุก-นิตา จะเป็นคนดุกว่า จะเป็นคุณแม่ที่ดุ โดมก็จะเป็นพี่ชายใจดี ผมก็คงเป็นแนวแชร์ประสบการณ์การทำงานตัวเอง ไม่ได้เชิงดุ แต่ว่าถ้ามีบางครั้งที่มันก็ต้องจำเป็นต้องพูดจริงๆจังๆ”แล้วจริงๆ น้องๆวงอะไรดื้อสุด?“เท่ากันหมด (หัวเราะ) ดื้อแบบพร้อมเพรียงกัน ผมว่าถ้าย้อนกลับไปมองตัวเองตอนเป็นศิลปินก็คงดื้อประมาณนี้แหละ คือคงดื้อในความคิดความอ่าน ความเป็นศิลปินของเค้า มีเหตุผลของเค้าแต่ว่าพอเราก้าวมาทำงานเบื้องหลังก็เป็นอีกมุมนึงเลย ผมก็เออผมไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อน จากเคยเป็นศิลปินมันพลิกมาเป็นเบื้องหลัง จริงๆมันก็ต้องคิดอีกแบบ มันต้องคิดในแง่ธุรกิจด้วย ต้องคิดในแง่ทำยังไงให้มันไปรอด ไม่ใช่เอาให้ทุกอย่างสมใจอย่างเดียวแต่ว่าต้องไปในแง่ของความขายความเป็นไปได้จริงๆในตลาดหรือสถิติด้วย”ในด้านการบริหารค่ายหลายคนชื่นชมในการปั้นศิลปินจนประสบความสำเร็จ?“จริงๆมันหลายปัจจัยมากเลย เราโชคดีหลายอย่าง ถ้าถามผม เราโชคดีในแง่ของช่วงเวลาที่เรามาตอนนั้นและได้มีโอกาสลองผิดลองถูกกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็โชคดีที่มีทีมงานที่ดี ทีมของเราเป็นทีมเล็กๆ start up มากๆ เริ่มต้นจากพนักงาน 5 คนแล้วก็ค่อยๆเติบโตขึ้น มีทีมซัพพอร์ต มีพี่จิ๊บ-เทพอาจ CEO เลิฟอิส ที่ซัพพอร์ตพวกเรา”เคยเจอคำสบประมาทในวันแรกๆมั้ย เช่นว่า โดมมาเป็นผู้บริหารจะไหวเหรอ?“เจอตั้งแต่วันแรกที่ปล่อย PiXXiE ตอนนั้นคนยังไม่รู้เลยว่าเราไปทำสิ่งนี้ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมต้องเดินสายกับน้องๆพาน้องๆไปฝากฝัง ก็จะได้เจอคำถามอย่างนี้แหละ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ดีนะที่เค้ามาร์กด้วยความสงสัย เกิดคำถามว่าแล้วมันจะเวิร์กเหรอ แล้วพอมันขยับไปทีละปีๆ มันก็เป็นมาร์กที่ทุกคนค่อยๆรับรู้”เราเคยภาพฝันการบริหารค่ายเพลง ภาพนี้มั้ย?“มันแทบไม่มีภาพนี้อยู่เลยครับ เอา จริงๆเพราะเรารู้สึกว่าก็คงเป็นศิลปินต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็ถ้ามีงานอะไรให้ทำเบื้องหลังหรือว่างานอื่นๆ นอกเหนือจากการร้องเพลงผมก็จะยินดีทำ จะรู้สึกว่ามันคือโอกาส คิดเอาไว้ว่าคงอยากทำอะไรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนงานเบื้องหลังก็แค่แอบคิดว่าคงได้ไปเขียนเพลง ได้ไปทำเพลงอะไรนิดหน่อย แต่ว่าไม่เคยมีภาพว่าตัวเองจะมาได้บริหารค่ายเพลง อันนี้ถือเป็นสิ่งใหม่มากๆในชีวิต”ก็เหมือนมาไกลกว่าที่คิดไกลเกินฝัน?“ใช่ ไกลกว่ามากๆแล้วก็เหนื่อยมาก”มีหลักในการคัดเลือกศิลปินยังไง?“ตั้งแต่เริ่มต้นเลยผมว่าเก่งก็ส่วนนึง ความสามารถดี คาริสม่าโอเคก็ส่วนนึง แต่ว่าผมว่าผมให้น้ำหนักกับเรื่องการอยากร่วมงานด้วยเป็นลำดับต้นๆเหมือนกันเพราะมันแปลว่าแม้แต่ตัวเราเองยังรู้สึกชื่นชอบเค้า คนทำงานด้วยกันยังชื่นชอบเลย ทำไมคนดูทำไมเค้าจะไม่รักอะไรอย่างนี้ ผมว่าปัจจัยมันหลากหลายมากในการเลือกคนหนึ่งคนเข้ามา มันคือการมาดูคาแรกเตอร์กันว่าเราสนใจเค้ามั้ย หนึ่งคือความสามารถเป็นยังไงบ้างไปในทิศทางเดียวกับที่เราอยากได้มั้ย แล้วก็อยากร่วมงานด้วยมั้ย”เวลาเห็นการเติบโตของน้องๆเราก็ชื่นใจหายเหนื่อยมั้ย?“ชื่นใจครับ ชื่นใจมากแล้วน้องๆก็โตขึ้นทุกวัน เราก็จะเหมือนเราก็ได้เห็นเขาตั้งแต่ Day 1 เด็กๆเลย อย่าง PiXXiE ก็ตั้งแต่อายุ 17-18” ตัวเราล่ะ เพื่อนๆรอบตัวบอกว่าการเติบโตของเราเป็นยังไง?“พอตัวผมเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้มาทำสิ่งนี้ เพื่อนๆเองก็ไม่ได้มีใครคิดเหมือนกัน ทุกคนก็จะรู้แค่ว่าโอเคเราชอบทำงานหลากหลายทำได้หมด แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทำงานเป็นคนบริหารค่ายเพลงได้ยังไง”พี่แก้ม-วิชญาณี ตั้ม-วราวุธ กัน-ณภัทร แก๊ง 4 โพดำเค้าว่าไงบ้าง?“เค้าก็ทึ่งนะ ในความรู้สึกของเค้าที่เวลาเจอกัน เค้าก็จะรู้สึกว่าแบบโอ้ อันนี้โดมก็ทำเหรอ กับพี่ๆเราก็ยังเหนียวแน่นกันอยู่ ได้มีโอกาสไปทำงานให้แต่ละคนด้วย ผมก็ไปทำเพลงให้ตั้ม มาทำเพลงให้พี่แก้มแล้วก็เดี๋ยวนัดกับพี่กันละ คิดถึงกันอยู่เสมอก็ยังนัดเจอกันคุยกันเผื่อว่าถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะกลับมาร่วมงานกัน”เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่