ในที่สุด นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็ตัดสินใจสั่งใน ครม.ให้ กระทรวงมหาดไทย และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตัดไฟฟ้าที่ขายให้เมียนมา 5 จุดที่ ท่าขี้เหล็ก และ เมียวดี ซึ่งเป็นที่ตั้ง บ่อนการพนัน และ ศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ที่ใช้หลอกลวงต้มตุ๋นเงินคนไทย คนจีนและคนทั่วโลก หลังจากที่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย พรรคภูมิใจไทย กับ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบความมั่นคงของชาติทั้งคู่ ต่างโยนกันไปโยนกันมาไม่ยอมสั่งตัดไฟ คนไทยเห็นแล้วก็เศร้าใจ ไม่รู้คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้มีความรักชาติบ้านเมืองแค่ไหน? อยากเป็นรัฐมนตรีก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วยเมื่อ นายกฯแพทองธาร สั่งการให้ตัดไฟทันทีตั้งแต่วันนี้ (09.00 น. 5 ก.พ.) รัฐมนตรีทั้งคู่ก็กุลีกุจอทำงานออกหน้าทันที คุณอนุทิน รองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย ไปกดปุ่มตัดไฟด้วยตัวเองที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วน คุณภูมิธรรม รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม ก็บินไปดูถึงชายแดนว่ามีการตัดไฟจริงหรือไม่ เป็นดาราการเมืองยอดเยี่ยมทั้งคู่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม ยังไปออกทีวีคุยโม้ว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากการสรุปของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พบว่า มีคดีคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด 557,500 คดี มูลค่าความเสียหาย 86,000 ล้านบาท หรือเสียหายวันละ 80 ล้านบาท เป็นความมั่นคงที่รุนแรงต้องดำเนินการ ทำไมข้อมูลความมั่นคงที่ร้ายแรงเช่นนี้ สมช.จึงไม่รายงานรองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมตั้งแต่แรก เพื่อให้สั่งการป้องกันทันที หรือว่า สมช.รายงานแล้วแต่รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมไม่สั่งการ เป็นเรื่อง วุฒิสภา และ สภาผู้แทนฯ ควรจะ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทั้ง รัฐมนตรีกลาโหม และ รัฐมนตรีมหาดไทย ให้เป็นแบบอย่างเหมือน สภาคองเกรส ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนรัฐมนตรีไปจนถึงประธานาธิบดี เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติรายงานข่าวระบุว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมกันเมื่อวันที่ 4 ก.พ. หลังจากที่นายกฯมีคำสั่งใน ครม. พบข้อมูลมีการนำไฟฟ้าไปใช้ไม่เป็นไปตามสัญญา ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ จึงมีมติให้กระทรวงมหาดไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคงดจำหน่ายไฟฟ้าให้เมียนมาจำนวน 5 จุด คือ อ.แม่สาย ถึงท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 2 จุด อ.แม่สอด ถึงเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 2 จุด และ อ.สังขละบุรี ถึงเมืองพญาตองซู 1 จุดสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Global New Light of Myanmar สื่อทางการของรัฐบาลเมียนมา มีรายงานเกี่ยวกับปัญหาสแกมเมอร์เมื่อเดือนที่แล้วว่า สาธารณูปโภคต่างๆ ที่ใช้ศูนย์คอลเซ็นเตอร์ รวมทั้ง ไฟฟ้า และ อินเตอร์เน็ต ไม่ได้มาจากรัฐบาลเมียนมา แต่มาจากประเทศอื่น ซึ่งเชื่อว่าหมายถึง “ประเทศไทย” และ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้ประเมินความสูญเสียจากขบวนการสแกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกในปี 2023 อยู่ที่ระดับ 18,000–37,000 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 612,000 ล้านบาท ถึง 1.25 ล้านล้านบาท ไทยแลนด์โอนลี่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติเปิดเผยก็ถูกหลอกไปถึง 86,000 ล้านบาทเมื่อ สื่อรัฐบาลเมียนมา ระบุว่า อินเตอร์เน็ตที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ต้มตุ๋นมาจากประเทศไทย คำถามก็คือ นายกฯได้สั่งการให้ตัดอินเตอร์เน็ตและตัดระบบโทรศัพท์มือถือจากฝั่งไทยด้วยหรือไม่ ถ้า ไม่ตัดอินเตอร์เน็ต ไม่ตัดระบบโทรศัพท์มือถือ ตัดแต่ไฟฟ้าอย่างเดียว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังสามารถใช้ไฟจากเครื่องปั่นไฟและไฟโซลาร์ดำเนินการได้อยู่ดีไทยกดปุ่มตัดไฟ 9 โมงเช้า ข่าวเที่ยงทีวีวันเดียวกันรายงานว่า ท่าขี้เหล็กและเมียวดีซิมโทรศัพท์มือถือไทยทุกยี่ห้อพร้อมโปรโมชันยังมีขายเต็มไปหมด โทรศัพท์มือถือเมียนมาโทร.ข้ามแดนไม่ได้ แต่โทรศัพท์มือถือไทยโทร.ได้ทั่วโลก ถ้าไม่ตัดเน็ตตัดโทรศัพท์มือถือด้วย ก็แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ ระบบความมั่นคงของไทยมันแย่ขนาดนี้เลยหรือ?“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม