ปรากฏการณ์ “Weather Whiplash” หรือ “สภาพอากาศเหวี่ยงสุดขั้ว” ทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่มหานคร Los Angeles สหรัฐอเมริกา อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม บอกว่า โอกาสเกิดที่ประเทศไทยมีไม่น้อยนักวิทยาศาสตร์โลก พบว่าโลกจะเกิดปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็วจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นสุดขั้วไปสู่อากาศที่แห้งแล้งมากเรียกว่า...Weather Whiplash โดยเกิดขึ้นเพิ่มจาก 31% เป็น 66% ในปี 2025 เป็นผลทำให้เกิดลมพัดแรงสุดขั้วและเกิดไฟป่าอย่างรุนแรงการเกิดไฟป่าอย่างรุนแรงในมหานครลอสแอนเจลิส (LA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดไฟป่าและลุกลามไหม้พื้นที่ในเมืองถึง 80,000 ไร่...เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2025 โดยเกิดปะทุ 12 รอบสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบสุดขั้วอย่างรวดเร็ว...โดยในปี 2022 เกิดภาวะภัยแล้งตลอดทั้งปี ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆยืนแห้งตายเป็นจำนวนมากแต่ในปี 2023 กลับเกิดฝนตกอย่างหนักเกือบทั้งปี ทำให้ พืชพันธุ์ไม้ต่างๆในเขตป่าไม้ทั้งหลายเจริญเติบโตขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว แต่ในทางตรงกันข้ามตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 ถึงมกราคม 2025 กลับเกิดสภาพอากาศแห้งแล้งแบบสุดขั้ว ทำให้พืช พันธุ์ไม้ต่างๆที่เจริญเติบโตกลับแห้งเฉาตายจำนวนมาก“เมื่อเกิดไฟไหม้ป่าจึงทำให้พืชพรรณต่างๆกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เกิดไฟไหม้ลุกลามไปทั่วอย่างรวดเร็ว” นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพของอากาศแบบสุดขั้วดังกล่าวทำให้เกิดความผิดปกติของลมที่พัดจากทะเลทรายไปสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของ LA เรียกว่า “ลมซานตาอนา (Santa Ana)” หรือ “ลมปีศาจ”...มีความรุนแรงมากขึ้นโดยมีความเร็วถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง...เกิดในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศแห้งแล้งจัด พัดพานำเชื้อไฟจากจุดความร้อนต่างๆเข้าไปยังในเขตเมือง ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านเมืองใน LA มากกว่า 60,000 แห่งประเด็นน่าสนใจมีอีกว่า...ภาวะการเปลี่ยนแปลงอากาศแบบสุดขั้วอย่างรวดเร็วหรือที่เกิดในมหานคร Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือปรากฏการณ์ Weather Whiplash มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้มากขึ้นเช่นกัน?เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ด้านโลกร้อนได้คาดการณ์ว่า มีโอกาสเกิดได้ในทวีปแอฟริกา เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลางอาจารย์สนธิ ทิ้งท้ายว่า “ประเทศไทย” อาจจะมีไฟป่าเกิดขึ้นอย่างรุนแรง และมีลมแรงมากขึ้นในช่วงฤดูหนาวหากปีไหนมีฝนตกมากและสวิงไปสู่อากาศที่แห้งแล้งอย่างรวดเร็ว (ร้อน ฝน แล้ง)ย้ำว่า...ปรากฏการณ์ Weather Whiplash คือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างฉับพลันและรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น เช่น จากอากาศร้อนจัดกลายเป็นหนาวจัด หรือจากความแห้งแล้งกลายเป็นฝนตกหนักแบบกะทันหันโดยสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับความเปลี่ยนแปลงของระบบภูมิอากาศโลกเช่น การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทร และการไหลเวียนของกระแสลมเจ็ตสตรีม (Jet Stream) ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน (Global Warming)ลักษณะของ “สภาพอากาศเหวี่ยงสุดขั้ว” ก็คือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน...ความแปรปรวนของสภาพอากาศ เช่น ฝนตกหนักหลังจากภัยแล้ง...ความไม่แน่นอนของฤดูกาล เช่น หน้าหนาวที่อบอุ่นผิดปกติหรือหน้าร้อนที่เย็นลงกะทันหันสำหรับผลกระทบต่อประเทศไทย แม้ว่า “สภาพอากาศเหวี่ยงสุดขั้ว” จะพบได้บ่อยในประเทศเขตหนาว แต่ประเทศไทยก็มีแนวโน้มได้รับผลกระทบด้วย จากความแปรปรวนของสภาพอากาศ นับตั้งแต่...ภัยแล้งสลับกับฝนตกหนัก, ฝนทิ้งช่วงในช่วงฤดูฝนทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรง, ต่อมาฝนตกหนักแบบกะทันหัน อาจทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและดินถล่ม, อุณหภูมิผันผวน, อากาศร้อนจัดสลับกับความเย็นผิดฤดูกาล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ และภูมิแพ้ผลกระทบต่อการเกษตร...พืชผลทางการเกษตรเสียหายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น ฝนตกกะทันหันหรือความร้อนจัด, โรคระบาดจากแมลงและสัตว์พาหะ, ความแปรปรวนของอากาศส่งผลให้โรคที่มาจากยุงหรือแมลง เช่น ไข้เลือดออก และไข้ซิกา แพร่ระบาดง่ายขึ้นต่อเนื่องไปถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว...สภาพอากาศไม่แน่นอนกระทบต่อการท่องเที่ยวและกิจกรรมกลางแจ้ง, ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเกษตรได้รับผลกระทบจากผลผลิตที่ลดลงแนวทางรับมือที่สำคัญคือ...การพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลสภาพอากาศเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ถัดมา...การบริหารจัดการน้ำ กักเก็บน้ำในช่วงฝนตกและกระจายน้ำในช่วงแล้ง...ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ใช้พืชที่ทนต่อความแปรปรวนสภาพอากาศ จัดการเพาะปลูกเหมาะสมนับรวมไปถึงความร่วมมือระดับนานาชาติ ร่วมมือกับประเทศ ต่างๆ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โลกร้อน...โลกรวน “ประเทศไทย” มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจาก “สภาพอากาศเหวี่ยงสุดขั้ว” ผ่านสภาพอากาศที่แปรปรวนและรุนแรงมากขึ้น อาจนำไปสู่ภัยแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด ผลกระทบทางเศรษฐกิจ“มนุษย์” จำเป็นต้องมีการปรับตัวและรับมืออย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงนี้ ถ้ารอวัวหายแล้วค่อยมาคิดล้อมคอกคงจะไม่ทันการแน่ๆ.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม