ถ้าไม่มีอคติบังตา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง มีความรู้ ประสบการณ์ด้านการเงินการคลัง สามารถเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติสบายๆแต่บังเอิญนายกิตติรัตน์ไปติดด่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นนายทวารถือกุญแจประตูเจอใครไม่เจอ ดันไปเจอซือแป๋ฝ่ามือเหล็กสะท้านโลกันตร์นายกิตติรัตน์จึงต้องจอดป้ายกลางทางอย่างสะบักสะบอม“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็น (ไม่เป็นเอกฉันท์) ว่า นายกิตติรัตน์ ขาดคุณสมบัติเนื่องจากเคยได้รับแต่งตั้งเป็น ประธานที่ปรึกษาของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และได้พ้นจากตำแหน่งไม่เกินหนึ่งปีนายกิตติรัตน์ จึงมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดห้ามผู้เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งได้พ้นจากตำแหน่งไม่เกินหนึ่งปีแม้ตำแหน่งที่ปรึกษา “ของ” นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ข้าราชการการเมืองและไม่ได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินก็จริงแต่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า “นายกิตติรัตน์” มีลักษณะเกี่ยวพันทางการเมืองเพราะเคยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยและยังได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขหนี้สิน รายย่อยของประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาล “อดีตนายกฯเศรษฐา” ที่ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาฯจึงถือว่านายกิตติรัตน์เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยปริยาย“แม่ลูกจันทร์” มองอย่างไม่เข้าใคร ออกใคร ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ชี้ว่า “นายกิตติรัตน์” มีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่งประธาน บอร์ดแบงก์ชาติ เนื่องจากได้พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษา “ของ” อดีตนายกฯ เศรษฐาไม่เกิน 1 ปีก็มีเหตุผลข้อเท็จจริงที่ชัดเจน!!ข้อสำคัญ การไม่ได้เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายนายกิตติรัตน์สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งการเมืองในรัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร อย่างแน่นอน“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าความจริง ย่อมเป็นความจริงและความจริงที่เหมือนกันย่อมเกิดผลเช่นเดียวกัน!!“สำนักข่าวอิศรา” มองข้ามช็อต กรณี “นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง” ขาดคุณสมบัติเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติเพราะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและพ้นจากตำแหน่งยังไม่ครบ 1 ปีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาประเด็นนี้จะกลายเป็นหอกย้อนกลับไปทิ่มนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติคน ปัจจุบันอย่างจังเบอร์!!เพราะนายเศรษฐพุฒิก็เคย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา อดีตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นกันแถมนายเศรษฐพุฒิยื่นใบลาออกจากที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีก่อนปิดรับสมัครตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติเพียงวันเดียวเมื่อ นายกิตติรัตน์ ขาดคุณสมบัติเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติเพราะพ้นตำแหน่งการเมืองไม่เกิน 1 ปีนายเศรษฐพุฒิย่อมขาดคุณสมบัติ เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ เพราะพ้นตำแหน่งการเมืองไม่เกิน 1 ปีเช่นกันกฎหมายฉบับเดียวกัน มาตราเดียวกัน จะตีความต่างกันได้หรือโยม?"แม่ลูกจันทร์"คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม