ระวังจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่ “นายใหญ่” อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร “ว้าก” รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เข้า ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณ วันหลังถ้าไม่อยากอยู่ด้วยบอกให้ชัดเจน ถ้าหนีก็ให้ส่งใบ ลาออกด้วย “ผมไม่ชอบพวกอีแอบ”นายทักษิณโวยเรื่องนี้ ในการบรรยายพิเศษในที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย เรื่อง “สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัว” พูดถึงรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนไม่เข้าประชุมคณะรัฐมนตรี ที่พิจารณา พ.ร.ก.การปฏิรูประบบภาษี นายทักษิณอาจจะพลั้งปาก คิดว่าตนเป็นนายใหญ่ ของรัฐบาล ขอให้ตรงไปตรงมาถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลหนึ่งในรัฐมนตรีที่ลาการประชุมคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทยให้สัมภาษณ์สื่อว่าคนที่ถูกไล่ออก ไม่น่าจะหมายถึงตน เพราะตนลาไปพบหมอ พอตรวจเสร็จก็รีบเข้าประชุม ครม. แต่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน บอกว่าทำให้ประชาชนสับสน ใครเป็นนายกฯกันแน่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ออกแบบการเลือกตั้งให้มีหลายพรรค ต้องตั้งรัฐบาลผสมหลายพรรค นอกจากจะขาดเอกภาพแล้ว รัฐบาลยังไม่สามารถทำตามนโยบายพรรคที่สัญญาไว้กับประชาชน เช่น ในการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยสัญญาว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยเร่งด่วน หลังจัดตั้งรัฐบาลแต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำได้ตามสัญญา สาเหตุหนึ่งคือการคัดค้านของพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทยคัดค้านการแก้ไขประเด็นจริยธรรมการเมือง จนถึงวันนี้ผ่านมาแล้วปีเศษ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่เสร็จ แต่คนที่ “เสร็จ” ก่อน คือ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกร้องทำผิดจริยธรรม กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกจึงพยายามให้มีพรรคการเมืองน้อยที่สุด หลายประเทศมีการแข่งขันกันแค่ 2 พรรค เช่น ที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ประเทศประชาธิปไตยในยุโรป ก็ยึดถือระบบเดียวกันหรือคล้ายกัน เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสมน้อยพรรคได้ เพื่อให้รัฐบาลมีเอกภาพมีประสิทธิภาพ ในการบริหาร สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อประชาชน พรรค และนักการเมืองน่าเชื่อถือได้แม้แต่ประเทศไทยเอง ก็เคยมีบางยุคบางสมัยที่มีพรรคน้อยพรรค มีพรรคใหญ่ๆเพียงไม่กี่พรรคที่แข่งขันกันในการเลือกตั้ง เช่น พรรคไทยรักไทยกับพรรค ประชาธิปัตย์ หรือพรรคประชาธิปัตย์กับพรรค ของคณะรัฐประหาร แต่รัฐประหารทำให้พรรคอ่อนแอ ประชาธิปไตยไม่น่าเชื่อถือ.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม