กกต.ถูกการเมืองแทรกแซงจริง?เป็นสิ่งที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พลิกมุมมองในนามส่วนตัว ผ่านทีมข่าวการเมือง เมื่อมีคนพูดแบบนี้ กกต.ไปปฏิเสธว่าไม่มี มันไม่พอ ทุกอย่างอยู่ที่การปฏิบัติตนอย่างสม่ำเสมอ กกต.มีเกียรติภูมิศักดิ์ศรี แต่ละคนมีดุลพินิจเป็นของตัวเอง ทำทุกเรื่องยึดข้อเท็จจริงเป็นหลักในปี 2568 จะอยู่ครบ 7 ปีทุกคน ซึ่งมีอายุครบ 70 ปี ไปแล้ว 2 คน โชคดีได้มีโอกาสทำงานเลือก สว.มาแล้ว 2 ครั้ง เลือกตั้ง สส. 2 ครั้ง เลือกตั้งระดับท้องถิ่นครบถ้วน กำลังต่อด้วยการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกเทศบาล แถมยังได้จัดการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกสิ่งเหล่านี้ในช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่ได้มีโอกาสทบทวนถึงจุดบกพร่อง อาทิ ทั้งในส่วนของ กกต. ระบบของ กกต.ในรายละเอียดแนวปฏิบัติ ก็ต้องหาวิธีอุดมากยิ่งขึ้น กกต.ยิ่งทำเยอะโอกาสผิดพลาดก็น้อยลงเช่นเดียวกับการสู้คดี เขาพยายามเอาชนะ กกต. เราก็พยายามเอาชนะเขา แม้บางครั้งเขาเอาชนะเรามากกว่า แต่อย่าชะล่าใจความชะล่าใจหลายอย่างที่สามารถทำให้ กกต.เอาคนที่ชะล่าใจมาลงโทษได้อย่างการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา หลายสนามเหมือนมีพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนสู้ใต้ดินบนดิน กกต.เตรียมรับมือเลือกตั้งนายก อบจ. วันที่ 1 ก.พ.68 อย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า เตรียมรับมือเต็มที่พยายามป้องกันทุจริตเลือกตั้งให้มากขึ้นเลือกนายก อบจ.ไม่ได้เป็นโจทย์ใหญ่แต่เป็นหนึ่งในโจทย์ ถ้าทำให้มีการร้องทุจริตเลือกตั้งให้ลดลง อาจแสดงให้เห็นว่ากลไกของ กกต.มีประสิทธิภาพมากขึ้น การป้องปรามมีประสิทธิภาพมากขึ้นสมมติตัวเลขร้องเรียนไม่ลดลง กกต.ก็ถูกเพ่งเล็ง เราก็ต้องสำรวจตัวเอง อย่างเลือกตั้ง สส.ปี 62 มีร้องเรียน 592 เรื่อง เลือกตั้งปี 66 มีร้องเรียน 378 เรื่อง ลดลงเกือบครึ่ง ชี้ให้เห็นถึงกลไกของ กกต.มีประสิทธิภาพหรือสังคมมีวินัย ปฏิบัติตามกฎหมายมากขึ้น ผมก็ตอบไม่ได้ถูกตั้งข้อสังเกตเกิดจากฝ่ายการเมืองวางกลยุทธ์แนบเนียน จนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน นายอิทธิพร บอกว่า ข้อเท็จจริงในการป้องกัน เมื่อออกกฎเกณฑ์ได้คำนึงถึงกลไกป้องกัน ป้องปรามมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบก่อนหน้านี้แต่ผู้กระทำผิดก็พยายามหาวิธีเอาชนะกฎเกณฑ์ของ กกต.ให้ได้ พวกนี้มีนวัตกรรมออกมาอยู่เรื่อยๆ กกต.ให้ความสำคัญในจุดนี้ ถึงคำนึงถึงการป้องปราม และมีสายลับที่จับโกง แต่มีแค่ 400-500 คนถึงต้องส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง ไอลอว์ก็เคยเข้ามาทำงานกับ กกต. ตอนนี้มีเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch)ขณะเดียวกันได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับเครือข่ายของ ป.ป.ช. มีสำนักงาน ป.ป.ช. 77 จังหวัดเหมือน กกต. อาจทำให้ข้อมูลเชื่อมโยงกัน เป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน ปราบปรามที่เข้มข้นขึ้นฉะนั้นข้อสังเกตการโกงเลือกตั้งมีวิธีหลบลงใต้ดิน ตรงนี้หากประชาชนให้ข้อมูลต่อ กกต.มีสิทธิได้รับการคุ้มครองพยาน ได้รับเงินรางวัลตามกฎหมาย รวมถึงผู้สมัครท่านอื่นก็ส่งหลักฐานเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ประกอบได้อาทิ กรณีเลือก สว. ถูกตั้งข้อสังเกตมีการฮั้ว โดยจัดตั้งกลุ่มแลกเปลี่ยนคะแนนกัน กกต.ใช้วิธีสืบสวนไต่สวนอย่างเดิมไม่ได้ ต้องหาวิธีเอาพยานหลักฐานเชิงเทคโนโลยีมาให้ได้มากที่สุด คดีเลือก สว.ทั้งหมดมี 493 เรื่อง ซึ่งมีร้องว่าฮั้วประมาณ 200 เรื่อง บางเรื่องไม่สามารถหาข้อเท็จจริงพยานหลักฐานได้ตำแหน่งต่างๆ ประจำ สว.หลายคน ถูกตั้งข้อสังเกตเป็นผู้สมัคร สว. มีส่วนเกี่ยวโยงฮั้วเลือกสว.อย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า คงไปวิจารณ์ไม่ได้ เพราะ กกต.จัดเลือก สว.พยายามทำตามกฎหมายและระเบียบ ที่เหลือคือป้องกันปราบปรามทุจริต ก็ทำไปบางส่วน ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ความคิดเห็น แต่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานกกต.เตรียมรับมืออย่างไรสำหรับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายอิทธิพร บอกว่า คงไม่มีปัญหา กระบวนการจัดการเลือกตั้งมีความพร้อมตลอด เพราะการบริหารจัดการคล้ายกับการเลือกตั้ง และทุกสัปดาห์ กกต. สำนักงาน กกต. มีการจัดเลือกตั้งระดับท้องถิ่นตลอด ทุกสัปดาห์มีการประกาศผลการเลือกตั้งท้องถิ่น 15 วาระ บางสัปดาห์ถึง 28 วาระแต่การจัดลงประชามติพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันเดียวกัน ต้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบ นำสิ่งที่เคยเติมสำหรับเลือกตั้งปกติบวกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง ทั้งบุคลากร บัตรลงคะแนน หีบหย่อนบัตร สถานที่ รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบสมมติเลือกตั้งนายกเทศบาล และสมาชิกเทศบาลวันเดียวกับการลงประชามติ วันที่ 1 มิ.ย.68 ก็รณรงค์ให้ประชาชนทราบถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นมีบัตรเลือกนายกเทศบาล บัตรเลือกสมาชิกเทศบาล และมีบัตรออกเสียงประชามติ ซึ่งเป็นสีนี้สีนั้นวันนี้ กกต.พร้อมจัดเลือกตั้ง–ทำประชามติกกต.ถอดบทเรียนทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อเตรียมรับมือทำประชามติครั้งนี้ให้ราบรื่นอย่างไร โดยเฉพาะกรณีเลือกตั้งท้องถิ่นพร้อมทำประชามติ บางพื้นที่มีโอกาสทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง บางพื้นที่มีโอกาสทำผิดกฎหมายประชามติ นายอิทธิพร บอกว่า เชื่อว่ามีการถอดบทเรียน โดยเฉพาะจำนวนคนออกมาทำประชามติ 60% นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากในหลายประเทศ อย่างสวิตเซอร์แลนด์ กกต.ไปดูงานประเทศนี้ ทำประชามติกว่า 600 เรื่อง แต่ละครั้งส่วนใหญ่มีคนออกมาประมาณ 50%ส่วนที่เกี่ยวกับป้องกันและปราบปรามทุจริต ทุกครั้ง กกต.มีการติว พร้อมเตือนประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับการซื้อสิทธิขายเสียง เพราะมีความผิด จังหวะนี้ประชาชนควรช่วยตรวจสอบ ให้ข้อมูลต่อ กกต. ทั้งการเลือกตั้ง และการทำประชามติอยู่บนกระบวนการเดียวกัน แต่ต้องเพิ่มการบริหารจัดการเท่านั้นเองส่วนความคืบหน้าพิจารณาคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไปครอบงำ ชี้นำ และคดีร้องยุบพรรคภูมิใจไทยจากเหตุรับเงินบริจาคที่ถูกมองว่าล่าช้า นายอิทธิพร บอกว่า ตามกระบวนการเมื่อมีคำร้อง สำนักงาน กกต.ภายใต้การดูแลของนายทะเบียนพรรคการเมือง คือเลขาธิการ กกต. ต้องดูข้อเท็จจริงโดยมีทีมตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อเห็นว่าควรทำต่อ นายทะเบียนพรรคการเมืองก็ส่งคำร้องนี้ให้เข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เชิญผู้ร้อง ผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ คำว่า “ครอบงำ” พิสูจน์ได้ง่ายหรือยาก ขึ้นอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง คาดยังอยู่ในขั้นตอนนี้หลังคณะกรรมการฯ มีความเห็น ก็เสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณา อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง สั่งเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต. แต่ถ้าเห็นว่าไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย ก็สั่งยุติเรื่อง แจ้งให้ที่ประชุม กกต.ทราบ ที่ประชุม กกต.อาจมีความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเชื่อหรือไม่ก็ได้ขณะที่คำร้องพรรคภูมิใจไทย มีอยู่ 4 คำร้อง อยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สิ่งที่ต้องทำต่อ คือแหล่งที่มาของเงินสุจริตหรือไม่ มีข้อมูลแล้วแต่ต้องถามไปที่ดีเอสไอ และ ป.ป.ช. เพื่อความรอบคอบครบถ้วนสมบูรณ์ ว่ามีคนร้องรูปแบบนี้หรือไม่ดีเอสไอตรวจสอบพบว่า ไม่มี แต่ ป.ป.ช. มีเรื่องที่เกี่ยวพัน ขอตรวจสอบ ขณะนี้คณะกรรมการฯ สรุปเสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเรียบร้อย กำลังพิจารณา ถ้าเห็นไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายก็สั่งให้ยุติเรื่อง แต่ต้องแจ้งที่ประชุม กกต. ซึ่งอาจพิจารณาว่าไม่ใช่ต้องดำเนินการต่อ ยังขาดประเด็นนี้ชี้ให้เห็นว่าฝ่าฝืนกฎหมายก็ได้ตามกระบวนการต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายล่าช้าต้องมีเหตุผลอธิบายได้ ไม่เช่นนั้นถูกกล่าวหาฟรีว่าซื้อเวลาหรือเข้าข้างคนใดคนหนึ่งกกต.ถูกจับตามองเป็นกลไกหนึ่งของสมรภูมินิติสงคราม ต้องระมัดระวังตัวในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร นายอิทธิพร บอกว่า ทุกคนระวังตัวหมด ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เอาอคติหรือกระแสมาไม่ได้ ตามคุณสมบัติของ กกต.ไม่หวั่นไหวกับกระแสคาถาที่ดีที่สุดท่องตลอด คือทำตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เที่ยงตรงเป็นธรรมที่สุด.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม