หัวเลี้ยวหัวต่อชีวิตเมื่ออำนาจการเมืองเปลี่ยน งานนายเวร พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ทำหน้าที่สุดท้าย ไปส่ง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจขึ้นเครื่องบินลี้ภัยไปสวิตเซอร์แลนด์แล้วก็ถูก จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เรียกไปพบในห้องใหญ่ปิดไฟมืดครึ้มงานนี้จบแบบหักมุม พ.ต.อ.ศิริได้รับคำสั่งให้ทำงานใหม่ เป็นผู้ว่าฯยะลาผู้รู้สองท่าน มาโนช บุญญานุวัฒน์ ทวีป จันทรสิริ บันทึกประวัติ พ.ต.อ.ศิริ ไว้ ในสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ.2529 สถาบันทักษิณคดีศึกษา ว่า ยะลาสมัยที่ พ.ต.อ.ศิริ เป็นผู้ว่าฯ เมื่อปี 2503 ยังเป็นเมืองป่ามีแต่กอไผ่ถนนเป็นลูกรัง ข้าราชการที่ถูกย้ายไม่อยากไปอยู่ แต่ชั่วเวลา 2-3 ปีต่อมา ถนนสะอาดสะอ้านเริ่มมีหลายสาย มีต้นไม้สองข้างทางร่มครึ้ม มีการจัดสถานที่ราชการ ไปตามผังเมืองข่ายใยแมงมุม ที่กรมโยธาธิการวางตั้งแต่ปี2495 ใจกลางเมืองมีวงเวียนซ้อนกัน 3-4 วง วงในเป็นศาลหลักเมือง รอบวงเวียนชั้นในสถานที่ราชการ ถนนทุกสายรวมกันที่วงเวียนหลักเมือง วงเวียนสองเป็นบ้านพักข้าราชการ วงเวียนสาม โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาลชั้นนอกสุดเป็นย่านการค้าผู้ว่าฯศิริ ติดต่อเอาศูนย์ช่วยเหลือวิชาการพัฒนาชุมชนเขต 9 ศูนย์อนามัยแม่และเด็ก ศูนย์ปราบวัณโรคเขต 9 ศูนย์สงเคราะห์คนชราภาคใต้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนใต้ และโรงเรียนตำรวจภูธร 9 มารวมอยู่ที่ยะลาหลังการสร้างเสาหลักเมืองยะลา พ.ศ.2510 พบช้างพลายอายุ 7 เดือน ต่อมาขึ้นระวางเป็นพระยาช้างต้น นามพระเศวตสุรคชาธาร มีพระราชพิธีสมโภช 9-11 มี.ค.2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเป็นองค์ประธานสิบปี ที่ พ.ต.อ.ศิริ เป็นผู้ว่าฯ ยะลาสงบเงียบเรียบร้อย แม้มีคลื่นใต้น้ำ จากขบวนการโจรใต้และโจรจีนคอมมิวนิสต์ อยู่แถวชายแดนแต่ผู้ว่าฯศิริก็มีกลยุทธ์ ประสานให้อยู่ด้วยกันได้คดีครึกโครม...ที่สองผู้รู้ไม่ได้บันทึก คือคดีกินป่าเบตง สินบน 3 ล้าน เป็นข่าวใหญ่ เหตุเพราะผู้ว่าฯยะลาไม่ยอม คดีบานปลายถึงขั้น พลเอก สุรจิต จารุเศรณี รมว.เกษตรฯ ถูกจับเข้าคุกและตายในคุกประวัติก่อนหน้า สมัยเป็นผู้กำกับเชียงใหม่ พ.ต.อ.ศิริ นำกำลังปะทะขบวนค้าฝิ่น ยิงสู้คนร้าย 80 คนสองชั่วโมง คนร้ายตาย 3 คน งานมวลชนก็เข้าถึงวัดเป็นหัวแรงสร้างพุทธสถานเชียงใหม่ท่านปัญญานันทะภิกขุ เขียนคำไว้อาลัยในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญไว้ตอนหนึ่ง“คนที่ใกล้ชิดท่านอธิบดีเผ่า ศรียานนท์ มีหลายคน (อัศวินแหวนเพชร) อาตมาเป็นห่วงคิดถึง พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ มาก เพราะไม่ปรากฏชื่อว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่พระพุทธองค์ตรัสว่าธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม”แม้ว่า พ.ต.อ.ศิริ จะอยู่ใกล้ท่านอธิบดีผู้มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ ก็ไม่เคยอ้างอำนาจนั้นไปแสวงหาอำนาจส่วนตัวหรือให้แก่พรรคพวก เพราะความมีน้ำใจเป็นธรรม เคารพธรรม บูชาธรรม เป็นเครื่องรั้งไว้จึงเอาตัวรอดมาได้โดยธรรมแท้ๆประวัติบางส่วน เท่าที่ผมคัดย่อ เกิดจากแรงจูงใจเฉพาะตัว ปี ที่ พ.ต.อ.ศิริ เกษียณอายุราชการ จากผู้ว่าฯยะลา ปลายปี 2513 ชีวิตผมก็ให้บังเอิญพเนจรไปเป็นนักข่าวยะลาห้าปี ผมจึงพอเชื่อมสถานการณ์บางด้านเมืองยะลาที่สงบเย็นมาเป็นเวลาสิบปี ตลอดเวลาที่ พ.ต.อ.ศิริเป็นผู้ว่าฯได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นร้อน เพราะนโยบาย “กองอำนวยการปราบปรามและป้องกันคอมมิวนิสต์” (กอ.ปค.) (ยังไม่ตั้ง กอ.รมน.)ถึงวันที่ครูเปาะสู คนที่เคยเอาต้นไม้ไปปลูกในจวนผู้ว่าฯ หนีเข้าป่า มีข่าวยิงขบวนรถไฟโจมตีอำเภอรามันแล้วสถานการณ์จังหวัดชายแดนใต้ก็ร้อนระอุเรื่อยมา หาจุดผ่อนเย็นไม่เจอจนถึงวันนี้.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม