“แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ไม่พ้นนอนเรือนจำ หลังตำรวจ ปคบ.นำตัวยื่นคำร้องฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัวร่วมกับเหยื่อกว่า 10 ราย ที่เดินทางมายื่นคำร้องร่วม แฉนอนห้องขังที่สอบสวนกลางคืนแรก 2 ผัวเมียเครียดหนักนอนไม่หลับ โดยเฉพาะ “แม่ตั๊ก” ถึงขั้นขอยานอนหลับจากญาติมากิน ด้าน “บิ๊กต่าย” สั่งรวมคดีให้ทุกท้องที่ทั่วประเทศรับแจ้งความจากเหยื่อและให้ บช.ก.เป็นศูนย์คลี่คลาย ส่วน “ผู้การอิ้ว” จ่อเรียกดารา-อินฟลูฯกว่า 20 คน ให้ปากคำพร้อมประสาน ปปง.ตรวจเส้นเงิน “ใบเตย อาร์สยาม” โร่พบตำรวจ ลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องไลฟ์ขายทองภายหลังตำรวจ ปคบ. บุกจับ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ กทม.คาบ้านซอยรามอินทรา 65 พร้อมนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม สามี หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับในความผิดเบื้องต้น 4 ข้อหา ทั้งฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมฯ และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค จากกรณีมีผู้เสียหายที่ซื้อทองรูปพรรณออนไลน์จากร้านทั้งคู่โพสต์ลงโซเชียล หลังนำสร้อยพร้อมทองของแถมรูปแบบต่างๆไปขายที่ร้านทองเจ้าอื่น แต่ขายไม่ได้เนื่องจากไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง ไม่มียี่ห้อ และถ้านำไปหลอมจะไม่เหลืออะไรผิดกับทองคำจริง พอคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลูกค้าที่เคยซื้อทองจากแม่ตั๊กไว้เก็งกำไรต่างแห่นำมาขายคืน อีกทั้งมีบางส่วนรวมตัวแจ้งความฐานฉ้อโกงประชาชนจนกระทั่งถูกจับกุม เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธและขอให้การชั้นศาล ตำรวจจ่อฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัวเพราะเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปนั้นความคืบหน้าคดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ล่าสุดเมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.สั่งการ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1.บก.ปคบ. พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. และพนักงานสอบสวนนำตัว น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก สุวรรณบุตร และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม 2 ผัวเมียผู้ต้องหาคดีขายทองออนไลน์ไม่ได้มาตรฐานไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญา พร้อมแนบคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากเกรงว่าทั้งคู่จะหลบหนีจนถึงเวลา แม่ตั๊กในชุดสวมเสื้อคลุมสีเขียวขลิบชมพูทับเสื้อเชิ้ตขาวใส่แมสก์ปิดหน้า แต่ยังเห็นร่องรอยใบหน้าที่อิดโรยชัดเจนเดินตามตำรวจ กก.1. บก.ปคบ.ออกมาพร้อมยกมือไหว้สวัสดีผู้สื่อข่าว ส่วนป๋าเบียร์สวมเสื้อยืดขาวแขนสั้นใส่แมสก์ปิดหน้าเดินตามหลัง ก่อนทั้งคู่จะถูกนำขึ้นรถตำรวจ บก.ปคบ.เดินทางไปศาลอาญารัชดาฯทันที ระหว่างนั้นนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์เผยว่า ขอให้ทุกคนเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดให้การเจ้าหน้าที่หมดแล้วยืนยันไม่มีเจตนาทำให้ใครเสียหายขุ่นเคืองใจ ขอสาบานจะไม่ทิ้งใครไปไหนอยากให้เห็นความตั้งใจที่จะเยียวยาผู้เสียหาย ไม่หนีไม่หายไปไหน อยากดูแลทุกคน เกิดเป็นพ่อค้าแม่ค้าหากทำอะไรให้ไม่พอใจยินดีที่จะยอมรับ สุดท้ายขอโอกาสให้ได้พิสูจน์ความจริง ส่วนการประกันตัวในชั้นศาลก็ว่ากันต่อไปด้าน พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.กล่าวว่า สอบถามเจ้าหน้าที่หน้าห้องขังทราบว่า แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ มีอาการเครียดนอนไม่หลับ อีกทั้งแม่ตั๊กเองยังมีอาการหอบหืดขอยาทาน อนุญาตให้เลขาฯเอายามาให้ ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ให้สิทธิพิเศษ หรือวีไอพีเหนือผู้ต้องหาทั่วไป ทุกอย่างเป็นไปตามกฎและสิทธิของผู้ต้องหา ตำรวจมีระเบียบอย่างเข้มงวด เมื่อถามว่า ระหว่างสอบปากคำในห้องสอบสวน แม่ตั๊กได้สแกนหน้าโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือนั้น เป็นการโอนเงินคืนให้ผู้เสียหายเป็นการโอนออกทุกวัน ส่วนข้อกังวลที่จะโยกย้ายเงินออกนั้นขอชี้แจงว่า เนื่องจากเขาประกอบธุรกิจหลายอย่างต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าทรัพย์สินไหนมาจากการฉ้อโกง จะอายัดเงินเป็นส่วนๆไป ไม่ต้องห่วง ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้ง ปปง. รวมถึงตั้งคณะกรรมการในการสืบทรัพย์แล้ว มีรายงานด้วยว่า หลังสอบปากคำใช้เวลา 8 ชม. แม่ตั๊กเกิดเครียดอย่างหนักต้องขอให้ญาติผู้ติดตามนำยาคลายเครียดมาให้กินเพื่อทำให้นอนหลับด้วยต่อมาที่ศาลอาญาพนักงานสอบสวน ปคบ. นำตัว น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร และนายกานต์พล เรืองอร่าม สามีหนุ่ม มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก แต่การสอบสวนยังต้องมีพยานอีกหลายปาก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ต.ค.67 พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้าง เกรงผู้ต้องหาหลบหนีและยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานขณะเดียวกัน มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย เดินทางมาคัดค้านการประกันตัวที่ศาลอาญา โดยศาลพิจารณาอนุญาตฝากขังตามคำร้องรวมทั้งไม่ให้ประกัน 2 ผัวเมียเพราะเกรงจะหลบหนีและยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งมีพยานยังสอบปากคำไม่เสร็จจำนวนมาก ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวนายกานต์พลส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วน น.ส.กรกนก ถูกนำส่งทัณฑสถานหญิงกลางทันทีวันเดียวกัน ที่ ศปก.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วว่ามีการจับกุมผู้กระทำผิด 2 คน เป็นบุคคลที่เป็นตัวการใหญ่ ได้สั่งการให้ดำเนินคดีตรงไปตรงมาและให้ขยายผลว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้อง มีพฤติกรรมกระทำผิดเข้าข้อกฎหมายใด ต้องไม่มียกเว้น ละเว้น หรือช่วยเหลือเพราะเป็นเรื่องกระทบต่อความรู้สึกและประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบเสียเงินเสียทองจำนวนมาก จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยจะรวบรวมข้อเท็จจริงรวมถึงหลักฐานและออกหมายเรียก หากพบว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติม สั่งการทุกพื้นที่เพื่อให้รับแจ้งความ เพราะมั่นใจว่ามีผู้เสียหายหลายคนที่ไม่ได้อยู่แค่ใน กทม.เท่านั้น ผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาที่กรุงเทพฯ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และคดีนี้จะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมอบหมายให้ตำรวจสอบสวนกลางรับผิดชอบขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า จะขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงอินฟลูเอนเซอร์ ที่ทำหน้าที่ไลฟ์สดขายของไม่ต่ำกว่า 20 คนจะถูกเชิญมาให้ปากคำทั้งหมด เบื้องต้นอาจมีความผิดเข้าข่ายหลาย พ.ร.บ.ขึ้นอยู่กับว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ส่วนที่บอกว่าได้ค่าจ้างแต่อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐานต้องตรวจสอบ ว่าเหตุผลฟังขึ้นหรือไม่ แต่ทุกอย่างจะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้ามีพฤติการณ์ใดที่เข้าความผิดก็จะดำเนินคดีทุกราย ส่วนเส้นทางการเงินและทรัพย์สินผู้ต้องหาได้เชิญสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมตรวจสอบแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆอยู่ระหว่างประสานตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่แปรสภาพหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ปคบ.เฝ้าติดตามข่าวสารและพฤติกรรมผู้ต้องหามาโดยตลอดบ่ายวันเดียวกันที่ สน.บางชัน น.ส.สุธีวัน ทวีสิน อายุ 36 ปี หรือใบเตย อาร์สยาม เข้าพบ พ.ต.ท.วีรวุฒิ มโนรส รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางชัน เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายทองของ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก สุวรรณบุตร กับนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ในการไลฟ์สดขายทองผ่านแอปติ๊กต่อกที่มีผู้เสียหายถูกหลอกซื้อทองคำจำนวนหลายรายใบเตย อาร์สยาม กล่าวว่า หลังมีกรณีแม่ตั๊กเกิดขึ้นและปรากฏภาพที่ตนเคยไปร่วมไลฟ์ขายของมีคนแสดงความเป็นห่วงจึงมาลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ใจและต้องขอโทษที่ทำให้หลายฝ่ายคลางแคลงใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากชี้แจงให้ชัดเจนที่เคยไปร่วมไลฟ์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นการรับงานตามปกติ รับจ้างไลฟ์ให้ทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2564 ครั้งที่ 2 เดือน พ.ย.2566 หลังออกจากเรือนจำยืนยันไม่เคยไลฟ์ขายทอง แต่เป็นการขายผลิตภัณฑ์โปรตีนและครีมกันแดด ไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทของแม่ตั๊ก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับตนทั้งชื่อเสียงและจิตใจ เพราะถูกนำไปเชื่อมโยงกับคดีที่ผ่านมาทั้งที่ตนบริสุทธ์ใจ เป็นผู้ใช้แรงงาน รับจ้างทำอาชีพสุจริตเหมือนดาราคนอื่นๆ รู้สึกว่าตกเป็นผู้เสียหายเหมือนโดนหลอก เพราะตอนที่รับงานก็ไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ต่อไปจะรับเฉพาะงานร้องเพลงงานคอนเสิร์ต ไม่รับจ้างไลฟ์ร่วมกับเจ้าของแบรนด์ใดๆแล้วส่วนบรรยากาศที่ร้านเพชรทองเคทูเอ็น หรือ ร้านทองแม่ตั๊ก ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ มีประชาชนมานั่งรอที่เต็นท์หน้าร้านทองแม่ตั๊ก เพื่อขายทองคำคืนร้านเหมือนเช่นทุกวัน เพียงแต่วันนี้คนเริ่มน้อยลงเหลือประมาณ 200 คน โดยทางร้านยังเปิดรับขายทองตามปกติ แม้ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก กับนายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ จะถูกจับกุมไปแล้ว ทั้งนี้ ทางร้านทองจำกัดปริมาณคิวที่ 200 คิว มีประชาชนมารอขายทอง 128 คิวเท่านั้น โดยทางร้านได้นำข้าวกล่องแจกจ่ายแก่ลูกค้าที่มานั่งรอขายทองคำคืนด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่