‘แรงงาน’ เป็นพรรคการเมืองกลางซ้ายของอังกฤษ ตั้งเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ด้วยความร่วมมือของพรรคการเมือง + กลุ่มการเมืองแนวสังคมนิยม + สหภาพแรงงาน เพื่อให้เป็นพรรคที่มีปากเสียงและต่อสู้เพื่อประโยชน์ผู้ใช้แรงงานโดยตรง มีการส่งผู้สมัครครั้งแรก 15 คน ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1900 ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. 2 คนพรรคการเมืองอังกฤษผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปกครองประเทศระหว่างพรรคอนุรักษนิยม (Conservative) และพรรคแรงงาน (Labour) พรรคอนุรักษนิยมได้รับความนิยมยาวนานในยุคของนางมาร์กาเร็ต ฮิลดา แทตเชอร์ บารอนเนสแทตเชอร์แห่งเคสตีเวน นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษที่ดำรงตำแหน่งระหว่าง ค.ศ.1979-1990สมัยแทตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรี อังกฤษดำเนินนโยบายใกล้ชิดกับสหรัฐฯอย่างมากที่สุด แทตเชอร์ร่วมมือกับโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับมีฮาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำสหภาพโซเวียต ทั้งสามคนมีส่วนทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายใน ค.ศ.1991 หลังจากอยู่ในสภาสามัญมายาวนานถึง 35 ปี แทตเชอร์ก็พ้นจากการเป็นสมาชิกและมีที่นั่งในสภาขุนนางหรือ House of Lords ตลอดชีพพรรคการเมืองอังกฤษพรรคหนึ่งชื่อว่าทอรี พรรคทอรีเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคอนุรักษนิยมอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1834 เมื่อแทตเชอร์พ้นจากนายกฯ ใน ค.ศ.1990 เมเจอร์เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคอนุรักษนิยม 6 ปี เมเจอร์แพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคแรงงานใน ค.ศ.1997 พรรคแรงงานมีนายกรัฐมนตรีอีก 2 คนคือนายแบลร์และนายบราวน์ค.ศ.2010-2024 พรรคอนุรักษนิยมครองอำนาจยาวนานถึง 14 ปี มีนายกรัฐมนตรีถึง 5 คนคือ นายคาเมรอน นางเมย์ นายจอห์นสัน นางทรัสส์ และนายซูแน็กการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุคนี้ของการเมืองอังกฤษเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 4 กรกฎาคม 2024 เมื่อพรรคแรงงานที่นำโดยเคียร์ สตาร์เมอร์ ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย นายสตาร์เมอร์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 5 กรกฎาคม ขณะที่กำลังเขียนเปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ อังกฤษอยู่ในยุคที่มีรัฐบาลมาจากพรรคแรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นโยบายหลายอย่างละม้ายคล้ายกับยุคที่อังกฤษมีนายกรัฐมนตรีชื่อนายแบลร์กับนายบราวน์คนอังกฤษเอือมระอากับความเรื่อยเฉื่อยเอื่อยอืดของพรรคอนุรักษนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพสูงจนรายได้ไม่พอรายจ่าย บริการสาธารณะไม่ว่าด้านสุขภาพหรือการศึกษาย่ำแย่แง่แหงม แถมยังมีนโยบายการต่างประเทศที่แปลกแตกต่างไปจากความเป็นอังกฤษแต่ดั้งเดิม ทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง เช่น การจะส่งผู้อพยพผิดกฎหมายไปยังรวันดาซึ่งนายสตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ สัญญาว่าจะยกเลิกนโยบายนี้เรื่องหนึ่งซึ่งอาจจะทำให้นายสตาร์เมอร์ยุ่งยากก็คือ หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2024 และเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเต็มตัวในเดือนมกราคม 2025 สตาร์เมอร์อาจจะทำงานร่วมกันกับทรัมป์ลำบากในประเด็นสงครามรัสเซีย-อูเครน เพราะทรัมป์ประกาศแล้วว่าจะไม่สนับสนุนสงคราม ขณะที่สตาร์เมอร์ประกาศจุดยืนในระหว่างปราศรัยหาเสียงมาตลอดเวลาว่า จะสนับสนุนอูเครนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูต่อไปนายสตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคแรงงานและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษมีอุดมการณ์สังคมนิยมเต็มตัว เกิดและเติบโตในครอบครัวของชนชั้นแรงงานที่เมืองเซอร์รีย์ จบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยลีดส์และออกซ์ฟอร์ด เคยเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนแถมยังเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานอัยการประสบการณ์ทางการเมืองของสตาร์เมอร์มีน้อย เพิ่งเข้าการเมืองเมื่อ ค.ศ.2015 ได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคแรงงาน ค.ศ.2020 และเป็นนายกรัฐมนตรี ค.ศ.2024 ใช้เวลา 9 ปี ก็ไต่ถึงจุดสูงสุดของอำนาจการปกครองหวังว่าสตาร์เมอร์จะพัฒนาระบบการศึกษาของอังกฤษที่กำลังตกต่ำย่ำแย่แง่งัน ไม่ทันต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีของโลกยุคใหม่ นอกจากนั้น คนอังกฤษปัจจุบันทั้งผ่อนบ้านและจ่ายเช่าบ้านกันไม่ไหว กลายเป็นคนไร้บ้านในเมืองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก คนอังกฤษไม่น้อยมีความหวังว่านายสตาร์เมอร์จะแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยให้พวกตนตั้งแต่ยุคของจอห์นสัน (2019-2022) ทรัสส์ (2022) จนถึงยุคของซูแน็ก (2022-2024) ผู้คนจากระบบสาธารณสุขของอังกฤษประท้วงหยุดงานกันบ่อยมาก เพราะงบประมาณไม่พอ คนอังกฤษหวังว่าพรรคแรงงานจะเข้ามาแก้ไขระบบสาธารณสุขของประเทศให้กลับไปดีเหมือนเมื่อสมัยในอดีต.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม