สุดยอดแท็บเล็ตในปัจจุบันต้องยกให้ iPad Pro M4 ที่แอปเปิลแนะนำมาไม่นานนัก เรียกกระแสความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะได้จัดเต็มยกเครื่องดีไซน์ใหม่กับหน้าจอบางเฉียบ และเปลี่ยนมาใช้จอแบบ OLED และเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้ชิปประมวลผล M4 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรับงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูงๆได้สบายหลังจากใช้งาน iPad Pro M4 รุ่นจอ 13 นิ้ว มาได้ 1 เดือนเต็ม ขอสรุปสั้นๆ ได้ว่าประทับใจกับแท็บเล็ตระดับพรีเมียมดีที่สุดในยุคนี้ กับการดีไซน์และจอเพียง 5.1 มม. ซึ่งมีความบางเป็นพิเศษกว่าเคย แต่ดูมีความแข็งแกร่ง ไร้ปัญหาเรื่องจอโค้งหรือจอบิดที่หลายๆคนหวั่นวิตกกัน หรือหากจะให้มั่นใจมากขึ้นให้เลือกใช้เคสหรือคัฟเวอร์ของแท้ที่มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะป้องกันเพื่อความอุ่นใจแอปเปิลนำ iPad Pro M4 วางตลาดด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว มีสีเงินและสีดำสเปซแบล็กให้เลือก ราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่น 11 นิ้ว ไวไฟที่ 39,900 บาท และรุ่น 13 นิ้ว ไวไฟที่ 52,900 บาท ไปจนถึงรุ่นสูงสุดที่ราคาทะลุ 104,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ขนาด 2 TB ไวไฟ+เซลลูลาร์ พร้อมกระจกผิวนาโนการออกแบบที่บางและเบา แม้จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 13 นิ้ว แต่หนักเพียง 581 กรัม เบากว่า iPad Air M2 จอเท่ากันแต่หนัก 617 กรัม พกพาสะดวก จอ OLED แบบ 2 ชั้น ดูสวยงาม หากเทียบกับจอ Mini LED ของ iPAd Pro M2 แล้ว ดูภาพยนตร์จะเห็นความต่างตรงมีความคมชัดสูง สีดำแสดงผลชัดเจนมีเงาสะท้อนน้อยกว่า แท็บเล็ตทรงพลังที่สุดทางด้าน M4 เป็นชิปประมวลผลใหม่ของแอปเปิล ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 ทรงพลังยิ่งขึ้นและกินไฟน้อยลง กับ CPU คอร์ประสิทธิภาพสูง 4 คอร์ และ คอร์ประหยัดพลังงาน 6 คอร์ พร้อมตัวเร่งความเร็ว Machine Learning รุ่นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพเร็วกว่า ชิป M2 ถึง 1.5 เท่า ขณะที่ประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิก GPU 10 คอร์ ทำให้แอปเรนเดอร์ระดับโปรทำงานได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อนำไปทดสอบผ่าน Geekbench 6 เปรียบเทียบกับชิปรุ่นต่างๆที่ทำงานบนอุปกรณ์ของแอปเปิลหลากหลายชนิด ปรากฏว่า M4 ทำงานบน iPad Pro รุ่นล่าสุด รีดประสิทธิภาพทั้งการประมวลผลดีกว่าในทุกๆ ด้าน ทั้ง CPU แบบ Single Core สำหรับการใช้งานทั่วๆไป และ แบบ Multi Core สำหรับการใช้ประมวลผล สูงขึ้น สำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่ การเล่นเกม เรนเดอร์วิดีโอ เป็นต้น สำหรับ GPU เป็นการประมวลผลด้านกราฟิก เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ งานที่ใช้กราฟิกหนักๆ การตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ลื่นไหลการทดสอบเล่นเกม RoV บน iPad Pro M4 ให้อรรถรสการเล่นเกมถึงขีดสุดทั้งภาพและเสียง ตั้งค่าปรับให้สูงสุด สามารถเล่นเฟรมเรตที่ไต่ไปมาระดับ 110 กว่าไปจนสุด 120 FPS สีสันหน้าจอ กราฟิกสวยมาก การทัชไหลลื่นมาก เล่นได้ต่อเนื่อง แต่ละรอบไม่มีสะดุด และไม่ร้อน ลำโพง 4 ตัวให้เสียงกระหึ่มส่วนเกม Resident Evil Village ก็สามารถเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ปรับค่าให้สูงสุด ไม่กระตุกและเครื่องไม่ร้อน กราฟิกและรายละเอียดของเกมสวยงาม ทดลองสั่งซื้อคอนโทรลเลอร์ไร้สายแบบถูกๆจากช็อปปี้ ราคาแค่ 179 บาทมา รับเกมนี้ ใช้งานได้แบบขำๆดีเหมือนกัน Apple Pencil Pro คุณสมบัติใหม่ๆทางด้านกล้องถ่ายภาพ แอปเปิลได้ตัดกล้องหลังอัลตราไวด์ออกไป อาจเป็นเพราะต้องการให้ดีไซน์เครื่องบางลง ซึ่งจริงๆแล้วการใช้กล้องส่วนใหญ่จะใช้ประชุมออนไลน์และเฟซไทม์เป็นหลัก การย้ายตำแหน่งกล้องไปไว้ด้านบนเมื่อเราใช้งานตามแนวนอนดูแล้วเราจะโฟกัสไปมากกว่าตำแหน่งกล้องเดิม จากคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลางหรือ Center Stage ซึ่งช่วยให้การประชุมแบบวิดีโอในแนวนอนดียิ่งขึ้นการใช้ Apple Pencil Pro ใช้งานร่วมกับ iPad Pro M4 ซึ่งได้เพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ๆ จากรุ่นก่อน จริงๆแล้วน่าจะพูดได้ว่าได้เปลี่ยนโฉมการใช้แบบใหม่ๆ นับเป็นปากกาดิจิทัลที่ล้ำสุด ความสามารถมาด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ที่อยู่ตรงด้ามปากกา จะรับรู้ได้เมื่อบีบและแสดงชุดเครื่องมือ การลากพร้อมหมุน การตอบสนองแบบสั่น รวมถึงค้นหาตำแหน่งปากกาผ่าน Find My ก็ได้ สำหรับคนที่ใช้งานขีดๆเขียนๆ นักออกแบบกราฟิก ปากการุ่นใหม่นี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน Apple Pencil (USB-C) ด้วย บทสรุปของ iPad Pro M4เป็นสุดยอดแท็บเล็ตในยุคนี้ ครบหมดทั้งการดีไซน์ที่สวยงามบางเฉียบกว่าเคย อัปเกรดจอใหม่ ใช้ชิป M4 ใหม่ทรงพลังที่สุด รองรับการใช้แบบหนักๆ ได้หมด เป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็แลกมาด้วยราคาค่อนข้างสูงรวมทั้งอุปกรณ์เสริมทั้ง Apple Pencil Pto เคสพร้อมคีย์บอร์ด Magi key board ที่เพิ่มการใช้งานใกล้ MacBook ไปทุกขณะ มีราคาค่อนข้างสูงเช่นเดียวกันสำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์ใหม่ๆ หรือต้องการอัปเกรดและมีงบประมาณพร้อมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าหากสเปกสูงเกินไป ไม่ได้ใช้ ประโยชน์จากอุปกรณ์อย่างเต็มที่ ยังมีทางเลือกอื่นๆไม่ว่าจะเป็น iPad Air M2 จอขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว หรือแม้แต่ iPad Pro M2 ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า จากวิดีโอ “1 Month REALLY Using The M4 iPad Pro // Is it worth it?” สามารถสรุปได้ดังนี้ :1.ประสิทธิภาพ : iPad Pro M4 มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรันงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K ได้อย่างลื่นไหล2.แบตเตอรี่ : แม้จะมีขนาดบางและเบา แต่แบตเตอรี่ของ iPad Pro M4 ก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน แม้จะตั้งค่าให้ชาร์จสูงสุดเพียง 80% เพื่อรักษาสุขภาพแบตเตอรี่3.การใช้งาน : ผู้ใช้พบว่า iPad Pro M4 มีความแข็งแรงและไม่มีปัญหาเรื่องการงอหรือความยืดหยุ่น แม้จะมีขนาดบางและเบามาก4.Apple Pencil Pro : ปากกา Apple Pencil Pro ที่ใช้ร่วมกับ iPad Pro M4 มีคุณสมบัติที่ดีและน่าใช้งาน เช่น การลากพร้อมหมุน การบีบ และการตอบสนองแบบสั่น5.เกมส์ : iPad Pro M4 สามารถรันเกมต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า M1 Max ในบางเกม6.สรุป : โดยรวมแล้ว iPad Pro M4 เป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีคุณสมบัติที่ดีในหลายด้าน แต่ผู้ใช้ก็ยังมีความรู้สึกว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของอุปกรณ์ได้เต็มที่. คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม