มิจฉาชีพบนโลกโซเชียลยังคงออกอาละวาดไม่หยุด เช่นเดียวกับ “ธุรกิจสีเทา” ที่หันไปเปลี่ยนแปลงพื้นที่หากินอยู่บนโลกออนไลน์กระจายเกลื่อนทั่วกระดานไซเบอร์กลายเป็น “อาหารอันโอชะ” ของ “ตำรวจนอกแถว” ให้อิ่มหมีพีมันจน “พุงกาง”มีจดหมายเขียนฝาก “สหบาท” ร้องเรียน เล่ห์เหลี่ยมตำรวจไซเบอร์ มาให้อ่าน เผื่อเป็น ช่องทาง “ชี้ทางสว่าง” ให้ผู้บังคับบัญชาจัดระเบียบ “พวกมือเติบ” กลุ่มนี้ระบุตำรวจ สอท.แห่งหนึ่งมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาจากการให้ “ถอนอายัด” บัญชีธนาคารจำนวน 20,000-30,000 บาทผู้ต้องหาส่วนใหญ่ยินยอม หลังตกลงกันได้จะให้ลูกน้องพาไปกดเงินตู้เอทีเอ็มชั้นล่างของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ทำมาแล้วหลายรายหากไม่ประสงค์จะให้ส่งฟ้องดำเนินคดีจะมีการเรียกรับเงินหลักล้านบาทรีดเก็บค่าธรรมเนียมนอกระบบสองเด้งปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีจำนวนมาก กลุ่มผู้ต้องหามีกำลังทรัพย์ความพอใจ “จ่ายใต้โต๊ะ” วิ่งล้มคดีได้สบาย คำนวณเอาเองว่าแต่ละเดือนเงินจะสะพัดมากเท่าไหร่ผู้ประสบพบเหตุกับตัวเองเล่ามาแค่เฉพาะหน่วยเดียวเท่านั้นเจ้าตัวเห็นควรต้องตรวจสอบเข้มงวดอย่างจริงจังจากผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานปราบทุจริตทั้งหลายฝากให้ข้อสังเกตด้วยว่า เป็นเหตุผลเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ทำไมคดีทางเทคโนโลยีถึงไม่ลดลง.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม