นายภาณุวัฒน์ อ่อนเทศ รักษาการ ผอ.สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวถึงแนวทางจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเช่ารถเก็บขนมูลฝอยระบบไฟฟ้าของ กทม. ว่า สาระสำคัญของเนื้อหาทีโออาร์ ที่มีความล่าช้าอยู่ขณะนี้ เนื่องจากติดเรื่องการกำหนดคุณสมบัติของรถข้อสำคัญคือ รถยนต์ต้องสามารถวิ่งได้ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนปัญหาสำคัญขณะนี้คือ รถขยะระบบไฟฟ้ามีน้ำหนักแบตเตอรี่มาก ประกอบกับน้ำหนักตัวถังรถประมาณ 4.5-5 ตัน รวมกันแล้วเกิน 10 ตัน ทำให้รับน้ำหนักในการขนขยะได้ไม่ถึง 5 ตัน ตามข้อกำหนด ขณะที่กฎหมายกำหนดให้รถสามารถบรรทุกได้ 15 ตันนายภาณุวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการเปิดโอกาสให้สามารถนำเข้าหัวรถจากต่างประเทศได้ เพื่อนำมาประกอบส่วนต่างๆ ในไทย อยู่ระหว่างรอผู้ประกอบการเสนอรูปแบบรายการรถตามคุณสมบัติที่กำหนด ซึ่งผู้ประกอบการต้องเป็นตัวแทนจำหน่ายของรถยี่ห้อที่นำมาเสนอจริง เมื่อกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ประกอบการและรถครบถ้วนแล้ว จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง สำหรับแนวทางจัดหารถขยะระบบไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉินจำนวน 270 วัน ซึ่งดำเนินการอยู่นั้น เป็นการของบประมาณระยะสั้น เพื่อจัดหารถมาใช้ระหว่างจัดทำร่างทีโออาร์ ให้แล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างผู้ประกอบการจัดหารถมานำเสนอตามคุณสมบัติที่กำหนด ซึ่งยืนยันว่า สามารถจัดหาได้ทัน เพราะคณะกรรมการได้ลดคุณสมบัติการจัดเช่าส่วนนี้ลง เช่น เป็นรถระบบไฟฟ้าอายุไม่เกิน 7 ปี บรรทุกขยะได้ไม่น้อยกว่าที่กำหนด (2, 3, 5, 8 ตัน) เนื่องจากไม่ใช่รถประกอบใหม่ จึงไม่สามารถกำหนดคุณสมบัติเหมือนรถประกอบใหม่ได้ ซึ่งคณะกรรมการอยู่ระหว่างหารือเพื่อเสนอให้มีการปรับลดคุณสมบัติลง เพื่อสามารถจัดทำ TOR และสามารถหาผู้ประกอบการมาให้บริการได้ทันเวลา อย่างไรก็ตามแม้จะมีคณะกรรมการฯ ลาออกไป 1 คน ยืนยันว่าจะมีคนอื่นเข้ามาดำเนินการแทน สำหรับการจัดทำทีโออาร์ เพื่อประกวดราคาเช่ารถเก็บขนมูลฝอยระบบไฟฟ้า ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ประกอบด้วย รถขยะแบบอัด ขนาด 5 ตัน 464 คัน งบ 2,372 ล้านบาท รถขยะแบบอัด ขนาด 2 ตัน 152 คัน งบ 658 ล้านบาท รถขยะแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอย ขนาด 8 ตัน 124 คัน งบ 575 ล้านบาท รถขยะแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอย ขนาด 3 ตัน 102 คัน งบประมาณ 387 ล้านบาท.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่