ผู้การจ๋อสืบนครบาล นำทีมสืบลากตัว “อาร์มลายสัก” รับโทษ หลังสงกรานต์ปีที่แล้วลวงลูกสาวเพื่อนวัย 16 ทำทีจะพาไปเล่นน้ำแต่กลับพามานั่งดื่มเหล้าที่บ้านแล้วมอมจนเมาก่อนขยี้กาม ผู้ปกครองรู้เรื่องร้ายพาเข้าแจ้งความตำรวจท้องที่พร้อมประสานเพจสืบนครบาลตามล่า พบกบดานอยู่บ้านแฟนเมืองเพชรบุรีตามไปจับกุมตัวไว้ได้ แฉประวัติไม่ธรรมดาเข้าออกคุกคดียาเสพติดเป็นว่าเล่น คดีสุดท้ายร่วมกับพวกชาวมาเลเซียค้ายาเคยาอี ขายนักเที่ยวราตรี เพิ่งพ้นคุกเมื่อปี 63สืบนครบาลรวบ “อาร์มลายสัก” ภัยร้ายวันสงกรานต์ ล่อลวงเด็กสาว 16 ปีไปเล่นสาดน้ำแล้วขยี้กามเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย.67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุมนายสมภพ ขันเพ็ชร์ หรืออาร์ม ลายสัก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 427 ซ.บางบอน 1 แยก 16 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กทม. ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.268/2566 ลงวันที่ 11 ก.ค.66 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย เพื่อการอนาจารสืบเนื่องจากผู้ปกครองของ น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายวัย 16 ปี ร้องเรียนเพจสืบนครบาล โดยเมื่อค่ำวันที่ 14 เม.ย.66 ขณะที่ น.ส.บีไปพักอยู่กับญาติย่านหนองแขม เพื่อจะมาเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์แต่ถูกนายสมภพ หรืออาร์ม ลายสัก ผู้ต้องหาที่น้องบี นับถือและสนิทสนมราวกับลุงเพราะเป็นเพื่อนรักพ่อน้องบี ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กชักชวนจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจหลงกลให้มารับ แต่แทนที่จะมุ่งหน้าไปบริเวณที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์กลับพาน้องบีไปถึงที่บ้านย่านบางบอน มอมเหล้าจนเมาไม่รู้สึกตัวก่อนข่มขืนจนสลบ หลังทราบเรื่องแม่พาน้องบี เข้าแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. นำทีมค้นประวัติคดีของนายอาร์มถึง 3 คดี เริ่มจากปี 47 พื้นที่ สน.บางขุนเทียน ถูกจับกุมข้อหาจำหน่ายยาเสพติดฯ พร้อมของกลาง 190 เม็ด ต่อมาปี 49 พื้นที่ สน.ท่าข้าม ถูกจับกุมข้อหาจำหน่ายยาเสพติดฯ พร้อมของกลาง 120 เม็ด และปี 56 พื้นที่ สน.สุทธิสาร ถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (ยาเค)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยร่วมกับพวกชาวไทย-มาเลเซีย แก๊งค้ายาข้ามชาติ คดีนี้ยึดของกลางยาเคตามีน 3 กิโลกรัม ยาอี400เม็ด แต่สุดท้ายชุดสืบสวนทราบว่านายอาร์มหนีมาอยู่ที่บ้านแฟนเลขที่ 454 หมู่บ้านคีรีรัฐยา ต.ธงชัยอ.เมืองเพชรบุรี ตามไปจับกุมไว้ได้หลังผู้ต้องหากลับมาจากเล่นน้ำสงกรานต์จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายสมภพให้การว่า เข้าสู่วงการค้ายาเสพติดเมื่อปี 47 ขณะอายุ 19ปี ต่อมาถูกจับกุมและวนเวียนอยู่ในวงการค้ายาเสพติด เข้าออกคุกเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง อีกทั้งเคยร่วมกับพวกชาวไทยและชาวมาเลเซีย ที่รู้จักกันในคุกไปรับยาเสพติดที่ลักลอบขนมาจากประเทศมาเลเซียตระเวนขายใน กทม. อย่างไรก็ตาม หลังพ้นโทษออกมาปี 63 หันมาประกอบอาชีพสุจริต ตั้งแต่ขายอาหาร และพนักงานขนส่งพัสดุมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าไปรับผู้เสียหายเพื่อจะพาไปเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ก่อนหน้านั้นดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านกับญาติ ได้พาผู้เสียหายไปดื่มเหล้าต่อจนเมาไม่ได้สติก็ให้ขึ้นไปนอนที่ห้องตนเอง ก่อนที่จะตามเข้าไปนอนในห้องเดียวกันแต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องจากวันนั้นดื่มสุราและเสพยาเคจนเมาไม่ได้สติด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การผู้ต้องหา เชื่อคำพูดของเด็กบริสุทธิ์มากกว่าและยังมีพยานหลักฐานอื่นเชื่อมโยง ผู้ต้องหาใช้ความสนิทสนมกับผู้ปกครองเหยื่อหลอกล่อใช้เทศกาลสงกรานต์เป็นข้ออ้าง ขออวยพรให้น้องผู้เสียหายมีกำลังใจเข้มแข็งผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายในอดีตในวันข้างหน้าให้เป็นหน้าที่ตำรวจที่จะจัดการกับผู้กระทำผิด ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองทั้งหลายเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลาน อย่าไว้วางใจและคลาดสายตาแม้แต่กระทั่งคนใกล้ชิด ยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ขอให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่