“เศรษฐา” ลุยใต้ยกระดับท่องเที่ยวเกาะสมุย สั่งจัดหนักตั้งเป้าปั้นขึ้นท็อปเทน เกาะน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปักหมุดสร้างท่าเทียบเรือสำราญภายใน 3 ปี ไว้รับนักท่องเที่ยว 1.8 แสนคนต่อปี เร่งนำเข้าอนุมัติ ครม.ภายในสิ้นปี ออกตัวหวานเจี๊ยบอยากมาช่วยแก้ปัญหาจริงไม่ได้มาหาเสียง รับปากเจียดงบ 237 ล้านบาทเผาขยะตกค้าง ประกาศข่าวดีชาวเกาะ ต.ค. มีประปาใช้ รีวิวกินแกงไตปลาเมนูยอดเยี่ยมปักษ์ใต้ตามนัด ไม่วายเซ็งบอกไม่อยากพูดถึงเอกชนขอลดดอกเบี้ย ขณะที่ พท.ยืนยัน “อุ๊งอิ๊งค์” ถือธงนำด้วยผลงานไม่ใช่ชาติกำเนิด ผลโพลชี้ 5 วิกฤติศรัทธาการเมืองร้อนระอุหลังถูกกล่าวหาในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติว่าพรรคเพื่อไทยที่มีรากเหง้าจากพรรคไทยรักไทยเลือกปฏิบัติต่อพื้นที่ภาคใต้จนเกิดเป็นวิวาทะกับ สส.รุ่นเก๋าพรรคการเมืองเก่าแก่ ในสภาผู้แทนราษฎร ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นำคณะลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อย่างคึกคัก“เศรษฐา” ลุยยกระดับท่องเที่ยวสมุยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้รถโตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน ขง 4 สุราษฎร์ธานี เดินทางไปติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่แหลมนิคม ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย มี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมคณะ มีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำ สส.สุราษฎร์ธานี พรรค รทสช.ทั้ง 6 เขต รอต้อนรับ จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปจากนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า โดยโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี (2570-2572) เปิดบริการปี 2572 รองรับเรือสำราญได้ 120 เที่ยวต่อปี นักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี สั่งเข้มดันขึ้นท็อปเทนโลกให้ได้นายกฯกล่าวแนะนำว่าให้เปิด Duty Free หรือร้านขายสินค้าปลอดภาษี ในท่าเทียบเรือเพื่อบริการนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ เรื่องของการทำลายธรรมชาติไม่มีใช่หรือไม่ อยากให้โครงการนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสิ้นปี 2567 และตั้งเป็น KPI (ผลความสำเร็จ) เพื่อเป็นของขวัญให้กับชาว จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่นางมนพรตอบรับทันทีว่า รับดำเนินการ นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากให้มีเรื่องของมารีน่า (ท่าเทียบเรือสำราญ) ตรงนี้น่าจะทำได้ คิดว่าควรมี แถวนี้มีหลายเกาะเหมาะกับการให้นักท่องเที่ยวมาเหมือนภูเก็ต เกาะสิมิลัน จ.พังงา และอยากให้ทำเรื่องเครื่องบินน้ำด้วย เพื่อบินจากเกาะต่างๆมาจุดนี้ได้ ต้องทำให้ครบวงจรเป็นท็อปเทนของโลกต้องทำให้ได้ จากนั้นนายกฯเดินดูพื้นที่จริงที่จะก่อสร้างท่าเทียบเรือ และถ่ายรูปร่วมกับรัฐมนตรี และ สส.พร้อมกล่าวว่า โครงการอะไรก็ตามขอให้ฟังเสียงประชาชนก่อนทุกครั้ง ตนไม่ใช่พูดลอยๆต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เรามี Sun (พระอาทิตย์) Sea (ทะเล) และ Sand (ทราย) แล้ว ยังมีวัฒนธรรม เศรษฐกิจพื้นเมืองจะดีขึ้น และเมื่อเราลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับหมื่นล้านก็อยากให้นักท่องเที่ยวได้อยู่นานๆไม่ใช่มาแป๊บเดียวแล้วกลับ ฝาก สส.รัฐมนตรี ทุกคนต้องช่วยตรงนี้ด้วย ก่อนนายกฯไปเดินทักทายถ่ายรูปกับประชาชนที่มาต้อนรับหยอดมาแก้ปัญหาไม่ได้หาเสียงต่อมานายเศรษฐาเยี่ยมชมแปลงทุเรียนสาธิต ที่สวนทุเรียนนายชัยณรงค์ ทองสุข ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย และรับฟังปัญหาความต้องการของชาวสวนทุเรียน เช่น สะพานข้ามเกาะ การเพิ่มเที่ยวเรือขนส่ง ปัญหาที่ดิน ปัญหาแหล่งน้ำ ไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ติดขัดไม่เพียงพอ นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลมองเห็นถึงความสำคัญของทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และเกษตรกรอย่างมหาศาล กรณีการขอให้มีการเพิ่มเที่ยวเรือนั้นได้มอบกรมเจ้าท่าศึกษาการเพิ่มเที่ยวเรือแก้ปัญหาการขนส่งทุเรียน และมอบให้เทศบาลนครเกาะสมุย ดูแลเรื่องถนนและไฟฟ้า ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะต้องขอเวลาศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ อะไรที่เป็นอุปสรรคเราจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไขไปตามความถูกต้อง ขอเรียนว่า การเลือกตั้งจบไปแล้วตนไม่ได้มาหาเสียง แต่อยากมาช่วยแก้ปัญหาจริงๆ ขณะที่ตัวเกษตรกรสวนทุเรียนกล่าวว่า รอมา 13 ปีแล้ว นายกฯจึงกล่าวว่า ท่านรอมา 13 ปีแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็น่าจะจบได้ ให้โอกาสเราบ้างรีวิวกินแกงไตปลายกนิ้วโป้งเยี่ยมจากนั้นเวลา 12.05 น. นายกฯนำคณะไปที่ร้านเสบียงเล อ.เกาะสมุย เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ทางร้านจัดเมนูโปรดให้คือแกงไตปลา โดยนายกฯได้กินแกงไตปลา พร้อมกล่าวว่า“อร่อยมากครับ” ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ ผู้สื่อข่าวถามว่ารับประทานแล้วอยากจะบอกอะไรกับคนที่จัดอันดับแกงไตปลาหรือไม่ นายกฯตอบว่า “ไม่ขอตอบโต้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบแต่ผมชอบ ฝรั่งมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเราก็ยอมรับได้ เราไปบอกเขาไม่ได้ อาหารไทยมีเยอะ ต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ติดอันดับโลกทั้งนั้น ทานได้แต่พยายามไม่ทานข้าวเพราะลดน้ำหนักอยู่ ที่ชอบเพราะชอบทานอาหารรสจัด” ก่อนตั้งหน้าตั้งตากินต่อ เอ่ยไม่ขาดปากชมว่า “อร่อยจริงๆไม่ได้อร่อยเล่นๆ” รับปากจัดงบฯเผาขยะ 1.5 แสนตันต่อมาเวลา 13.20 น. นายเศรษฐาไปติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะที่เตาเผาขยะสมุย โดยมีรายงานการบริหารจัดการขยะ มีขยะตกค้างอยู่ประมาณ 150,000ตัน นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุยขอสนับสนุนงบฯกำจัดขยะดังกล่าว 237 ล้านบาท นายกฯกล่าวว่า ตรงนี้รับไปดูแลให้ ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ต้องทำควบคู่กับมาตรการระยะยาว จากขยะที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจว่าโรงเผาแห่งนี้สร้างมากว่า 20 ปีแล้ว ขีดความสามารถเผาจะลดน้อยลงไป ต้องทำหรือปรับปรุงใหม่ แต่ขยะเหล่านี้นำไปใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ สามารถช่วยให้มีความมั่นคงทางด้านพลังงานด้วย รวมถึงปัญหาที่น่าเป็นห่วง หากการท่องเที่ยวเจริญมากขึ้นจะมีขยะมากกว่านี้ ต้องเร่งแก้แจ้งข่าวดี ต.ค.นี้ชาวเกาะมีประปาใช้จากนั้นคณะนายกฯไปประชุมหารือบูรณาการหัวหน้าส่วนราชการ จ.สุราษฎร์ธานี ที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย ทักทายประชาชน อาสาสมัคร ประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ถือป้ายให้กำลังใจมารอต้อนรับ อาทิ “โหม๋เรา..ชาวสมุย” “Welcome นายกรัฐมนตรี” และร่วมถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง ก่อนเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอป ชิมน้ำผักคอสปั่น กวนกาละแม เซ็นลายเซ็นลงบนลายผ้าเกาะสมุย ก่อนเข้าประชุม ทั้งนี้นายกฯกล่าวมอบนโยบายในที่ประชุมว่า ได้ให้ KPI ไปกับ รมว.การท่องเที่ยวฯว่า เกาะสมุยต้องขยับไปจุดท็อปเทนจากเกาะที่น่าเที่ยวลำดับท็อป 20 ส่วนเรื่องน้ำประปาต้องบอกข่าวดี เพราะน้ำที่จะทำเข้ามาอยู่ในงบปี 2568 แล้ว เดือน ต.ค.ปีนี้เดินท่อที่ 2 ส่งน้ำประปามาได้ แต่ในระยะสั้นต้องนำน้ำทะเลมาทำน้ำประปา ใช้งบไม่กี่สิบล้านบาทใช้เวลา 3-4 เดือนเสร็จเซ็งไม่อยากพูดเอกชนขอลดดอกเบี้ยนายกฯกล่าวว่า การสร้างถนนได้สั่งการกรมทางหลวง ทำด้วยความระมัดระวัง ขอให้มั่นใจตระหนักดีถึงสิ่งที่กระทบประชาชน ยกระดับสมุยเป็นเกาะระดับโลกต้องดูแลสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี ต้องขยายเวลาเดินเรือขนส่งสินค้าให้มากขึ้น ส่วนการสร้างสะพานต้องศึกษาดูให้รอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม เรื่องที่ภาคเอกชนเสนอลดดอกเบี้ยไม่อยากพูดต่อ แต่ทุกคนทราบดีการที่ดอกเบี้ยสูงเราเดือดร้อนมากอย่างไร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยกันดูแลเพราะทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกัน ได้เน้นย้ำเรื่องมาเฟีย การตรวจคนเข้าเมือง การขอขยายเวลาวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว ให้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ กับรักษาการผบ.ตร.ไปแล้ว ให้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการ ททท.ช่วยกันทำงานให้หนักขึ้น โฆษณาให้เยอะขึ้น ให้นักท่องเที่ยวอยู่ยาวขึ้นลั่น 3 ปีครึ่งชีวิตคนไทยดีขึ้น พท.ชนะที่เทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า พรรค พท.ต้องไม่แพ้ตลอดไป การเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้ชนะว่า จริงๆแล้วที่พูดไปในวันนั้นพูดตกไปนิดนึง เพราะไม่ได้มีโพย พูดจากใจ ต้องขอเรียนตรงๆว่า ชีวิตของตนอายุ 62ปีแล้ว มีครบทุกอย่าง ประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัวก็ดีแล้ว ลูกทั้ง 3 คนเรียนจบมีงานทำที่มั่นคงแล้ว ฉะนั้นเหลืออย่างเดียวในชีวิตที่จะต้องทำให้ได้ที่พูดข้ามไปนิดนึง ต้องทำชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น 3 ปีครึ่งที่เหลือ มุมานะทำอยู่อย่างเดียวคือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และหวังว่าผลที่จะตามมาคือ ทำให้พรรค พท.ชนะการเลือกตั้ง “ชลน่าน” ลุยพาหมอไปหา ปชช.ที่โรงเรียนเซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิด “โครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” มีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ พรรค พท.ร่วมคณะ โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ ให้การต้อนรับ นพ.ชลน่านได้มอบแว่นตาให้เด็กนักเรียน 4 ราย มอบขาเทียมให้ผู้พิการ 4 ราย และมอบฟันเทียม 2 ราย นพ.ชลน่านกล่าวว่า โครงการพาหมอไปหาประชาชนฯออกให้บริการหน่วยแพทย์เฉพาะทาง และจิตอาสาในพื้นที่ห่างไกลของ จ.บึงกาฬ ในวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่อเนื่องตลอดปี 2567 เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณะของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมอีก 7 คลินิก ได้แก่ คลินิกสุขภาพจิต แพทย์แผนไทย คัดกรองวัณโรค กายภาพบำบัด บริการเภสัชกรรม ตรวจทางห้องปฏิบัติการ และคลินิกตรวจโรคทั่วไปด้วย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวพท.ยัน “อิ๊งค์” ถือธงนำด้วยผลงานน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกฯ ระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.มีดีเอ็นเอความเป็นผู้นำมาจากบิดามารดา สามารถประสบความสำเร็จได้ทางการเมืองจนเป็นที่วิพากาษ์จารณ์ว่า ความสำเร็จของพรรค พท.อยู่ที่นโยบายเข้าถึงประชาชน ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรคจนยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ และยังสร้างโลกอนาคตด้วยดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ล้วนเกิดจากการทำงานของคนในพรรคบวกบุคคลิกผู้นำที่เปิดกว้างอย่างนายทักษิณและ น.ส.แพทองธาร ทุกคนในพรรคสัมผัสได้ตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเสียสละทุ่มเทต่อเนื่อง ทั้งหมดมาจากผลงานที่ทำ วันนี้พิสูจน์ได้ในฐานะผู้ผลักดันนโยบายขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ในชีวิตประจำวันของคนไทยให้มีมูลค่าในสายตานานาชาติ การตีความความสำเร็จของคนเพียงมองจากการเป็นลูกของใครนั้น ไม่สามารถมองเป็นอื่นได้ นอกจากดิสเครดิตด้อยค่า ความสำเร็จพรรค พท. ไม่ได้อยู่ที่นามสกุลชินวัตรหรือชาติกำเนิดจากใคร แต่อยู่ที่การเลี้ยงดูให้เป็นคนกล้าคิด กล้าตัดสินใจ หัวหน้าพรรคพท.คนนี้คือผู้ที่สมาชิกพรรคมั่นใจไว้วางใจให้ถือธงนำพรรค“สรวงศ์” น้อมรับข้อท้วงติงฝ่ายค้านนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. โดยไม่ลงมติเมื่อวันที่ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ฝ่ายค้านยังอภิปรายอยู่ในกรอบ แม้จะออกนอกประเด็นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรเป็นกังวลหนักใจ ภาพรวมถือว่าโอเค ต่างคนต่างทำหน้าที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ก็พูดว่าอะไรเป็นข้อเสนอที่ดีจะรับไว้พิจารณาแก้ปัญหาให้ประชาชน ตั้งทีมเร่งเครื่องปั่นงานด้านกฎหมายนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงภาพรวมการทำงาน สส.ก่อนปิดสมัยประชุมสภาว่า พรรคร่วมรัฐบาลให้ความร่วมมือกันค่อนข้างดี เรื่ององค์ประชุมเป็นหน้าที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่จะดูแล ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน ถ้าไม่นับ 2 ครั้งสุดท้ายที่มีปัญหาเรื่องนับองค์ประชุมกับเรื่องการแบ่งเวลา ถือว่าฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องกฎหมายต่างๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนสมัยประชุมหน้าพรรค พท.จะเน้นเรื่องกฎหมายที่จะเข้าสภาจะทำให้เร็วกว่านี้ ยอมรับบางครั้งเราใช้เวลานานที่จะนำกฎหมายของพรรคหรือ ครม.ที่ต้องผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าสภามาประสานกัน พรรคจะตั้งทีมประกอบด้วย พรรค ครม.และฝ่ายกฎหมายมาประสานงานกฎหมายที่จะเข้าสภา กฎหมายที่พรรคจะผลักดันในสมัยหน้ามีเยอะ จะให้ออกเป็นกฎหมายเร็วที่สุด“ธนกร” ตอก “ต๋อม” พูดให้คนสับสนนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่มีข้อไหนให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมืองว่า ก่อนที่นายชัยธวัชจะออกมาพูดแบบชัดถ้อยชัดคำได้ศึกษารายละเอียดข้อกฎหมายหรือไม่ เป็นไปได้หรือที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะยื่นคำร้องไปโดยไม่ทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจ ล่าสุด อดีต กกต.ออกมาชี้แจงว่า นายชัยธวัชน่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ทราบเจตนาเบื้องลึกของนายชัยธวัช ต้องการอะไรกันแน่แต่ขอเรียกร้องให้ทั้งนายชัยธวัช และพรรค ก.ก.ไม่ก้าวล่วงอำนาจศาลโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ นายชัยธวัช เรียนกฎหมายมาพูดอะไรต้องไตร่ตรองตรวจสอบความถูกต้องให้ดี ไม่ควรพูดเพื่อสร้างความสับสน“ซูเปอร์โพล” ชี้การเมืองร้อนระอุวันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจเรื่อง พายุการเมืองระอุกับวิกฤติศรัทธา กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,178 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-6 เม.ย. พบว่า ร้อยละ 77.0 มองว่า การเมืองจะร้อนระอุสู่ความขัดแย้งรุนแรง โดยกลุ่มตัวอย่างผู้ชายร้อยละ 80.3 มองว่าการเมืองจะร้อนระอุสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากกว่าหญิงที่มองเช่นเดียวกันร้อยละ 74.8 เมื่อแบ่งเป็นกลุ่มอายุ 20-29 ปีมีถึงร้อยละ 91.3 อายุ 30-39 ปีร้อยละ 88.1 อายุ 40-49 ปีร้อยละ 68.3 อายุ 50-59 ปีร้อยละ 74.2 และอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 54.2 มองว่าการเมืองจะร้อนระอุตามลำดับ โดยมีปัจจัยทำให้การเมืองระอุมาจาก 5 อันดับแรก ได้แก่ วิกฤติศรัทธาต่อผู้นำการเมือง ร้อยละ 84.8 กระบวนการยุติธรรมล่มสลายร้อยละ 83.7 ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชนร้อยละ 66.3 เสื่อมศรัทธาต่อองค์กรอิสระร้อยละ 50.6 และยุบพรรคก้าวไกลร้อยละ 48.9 ตามลำดับนิด้าโพลแบนยาบ้า 5 เม็ด เป็นผู้เสพศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดผลสำรวจความเห็นเรื่อง “ยาบ้า 5 เม็ดกับผู้เสพ คือผู้ป่วย” ระหว่างวันที่ 18-20 มี.ค. จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 15 ปีขึ้นไป 1,310 คน พบว่า ร้อยละ 57.63 ระบุว่ายาบ้าซื้อได้ง่าย รวมถึงร้อยละ 36.26 ระบุกัญชาหาซื้อได้ง่าย และร้อยละ 35.57 ระบุพืชกระท่อม/น้ำกระท่อมหาซื้อได้ง่าย โดยร้อยละ 31.07 ระบุว่า มาตรการการปราบปรามยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ และร้อยละ 30.08 ระบุมาตรการการป้องกันยาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 26.03 ระบุด้วยว่า ผู้บังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน ทั้งนี้ความเห็นต่อประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยึดหลัก “ผู้เสพ คือผู้ป่วย” ร้อยละ 67.40 ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 78.85 ไม่เห็นด้วยเลยต่อการครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด เป็นผู้เสพไม่ต้องโทษจำคุกอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่