กลายเป็นไวรัลกับโมเมนต์มุ้งมิ้งใจละลายของศิลปินหนุ่มฮอต “เจฟ ซาเตอร์” กับน้อง “แอบิเกล” ลูกสาวแม่ ชมพู่-อารยาระหว่างไปอัดรายการ “3 แซ่บ” แถมล่าสุด เจฟ เพิ่งคว้ารางวัลศิลปินชายแห่งปี กว่าจะถึงวันนี้ไม่ง่าย เจอหนุ่มเจฟ มาร่วมงาน est Awaken Awesome Senses ปาร์ตี้เปิดตัวพรีเซนเตอร์สุดล้ำ พร้อมมินิคอนเสิร์ตสุดออซัมจัดเต็มบน Switch Stage ครั้งแรกของ “เจฟ” และ “อิ้งค์” เลยถามเริ่มจาก ความสู้มาเยอะกว่าจะมาถึงจุดนี้? “ผมเพิ่งเดบิวต์มา 2 ปีเองครับ ผมไม่กดดันตัวเองนะ ผมเชื่อว่าที่ผมทำสิ่งต่างๆออกมาได้เพราะผมไม่กดดันตัวเอง เราควรจะใส่ใจกับงาน เรื่องอื่นก็ทิ้งๆมันไปเสีย เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน งานทุกอย่างผมตั้งใจทำด้วยความพิถีพิถัน“ ปีนี้เป็นปีทองทั้งผลงานประสบความสำเร็จ ได้รางวัล มีเวิลด์ทัวร์ งานพรีเซนเตอร์เพียบ คือเก็บหมดทุกด้าน?“ผมอยากทำทุกอย่าง ผมรู้สึกว่าเราต้องโยนตัวเองไปหลายๆที่ เอาแรงบันดาลใจตรงนั้นมาต่อยอดตรงนี้ แฟชั่น เพลง หนัง ซีรีส์ ผมอยากจะโยนตัวเองไปหลายๆที่ ไม่ให้รู้สึกว่าตันเวลาเขียนเพลง” ปีนี้ถือเป็นปีทอง?“สำหรับผมทุกปีคือปีทอง 10 ปีที่ผ่านมาของการอยู่ในวงการมันก็เป็นปีทองในแบบของมัน ก็รู้สึกว่าพอเรามองกลับไปในแต่ละปีมันก็มีเหตุผลของมันนะในทุกๆปี มันมีด้านทองของมันเพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ แต่พอมองกลับไปตอนที่ผมยังไม่มีเงินมาทำเพลง ผมก็ได้ฝึกตัวเองในการทำ อันนั้นก็ถือเป็นปีทองในการพัฒนาตัวเองในแบบของตัวเอง ฉะนั้นปีนี้ก็เป็นปีทองในแบบที่เราได้ทำอะไรมากมาย คิดว่ามันจะต้องมีอะไรให้สนุกขึ้นไปอีก การได้ทำหลายๆอย่างสำหรับผมมันสนุก พอเราทำเพลงเยอะเกินไป พยายามจะเอามาใส่ให้ทำแบบนั้นแล้วมันจะตัน ผมต้องโยนตัวเองไปตรงนั้นตรงนี้เพื่อดึงอินสไปเรชันกลับมา เช่น เราไปแสดงหนัง เราได้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรา เราก็ได้อินสไปร์กลับมาในการเป็นคนนั้นกลับมาเขียนเพลง มันเวิร์กสำหรับผม” การบาลานซ์ชีวิต?“ผมยังไม่มีบาลานซ์ครับ ตอนนี้ผมรู้สึกว่างานกับชีวิตมันคือสิ่งเดียวกัน ชีวิตผมคืองาน ต่อให้พักผ่อนก็ยังคิดเรื่องงาน มันเป็นความสนุกมากกว่า ไม่ได้เป็นความรู้สึกว่าเรา ต้องมาทำงาน เราอยากสร้างสรรค์งาน เลยไม่รู้สึกเหนื่อย เรื่องตั้งรับกับสิ่งต่างๆ ผมยังระบุไม่ได้ว่าผมจะต้องรู้สึกยังไง เหตุการณ์ไปเร็วกว่าความรู้สึกผม ก็มีคุยกับตัวเองนะว่าเหตุการณ์นี้เราควรจะต้องรู้สึกยังไงดี แต่ก็รู้สึกแค่ว่าเราควรต้องเอนจอยกับมัน กับคนที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไปก่อน สักวันหนึ่งผมคงตามทัน และเชื่อว่ามันจะมีความสุข”ถามถึงที่ไปเจอน้องแอบิเกลมา เราสามารถทำให้เกลเขินเดินสะดุดได้?“น่ารักมาก ผมจะเป็นคนที่ชอบสัตว์กับเด็ก จะมีความบริสุทธิ์มาก การได้เล่นกับน้องวันนั้นมันไปเติมความสดใสในหัวใจของวัยรุ่นที่ใกล้อายุ 30 แล้ว”น้องมานั่งรอ นั่งจ้องเราเลย?”ทรงผมเค้าน่ารักมากเลยนะ ผมเองก็โดนเค้าตกเหมือนกันนะ ถ้าในอนาคตก็อยากมีลูกสาวเหมือนกันนะ” เกลเป็นอินสไปร์ในการมีลูกสาว? “อยากมีลูกสาวครับ รู้สึกว่าน่ารักดี เติมเต็มความอบอุ่นในหัวใจ” ประทับใจน้องเกลตรงไหน?“ผมชอบที่น้องไม่ร้องเลย นิ่งๆ ใช้ชีวิตแบบไม่แคร์อะไร อยากทำอะไรก็ทำ เป็นเด็กที่มีความเป็นตัวเองสูง” เค้าจะเลือกเข้าหาเป็นบางคนนะ เราเป็นหนึ่งในนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง?“เราเป็นนอมินีไง ก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ถูกเลือกในตำแหน่งนี้ก็เห็นพี่ญาญ่าก็เล่นกับน้อง เอาเป็นว่าเราก็พอมีทรง เราก็อยู่กับน้องได้” แต่น้องไม่เอาพีพี-กฤษฏ์นะ?“ต้องทำใจนะพีพี พีพีต้องพยายามหน่อยนะ พยายามนิดหนึ่ง ผมไม่ได้พยายามอะไรเลยน้องก็ล้มใส่เลย พีพีอาจจะต้องดูวิดีโอวิเคราะห์หน่อยว่าเราจะต้องทำตัวยังไง น้ำเสียงต่างๆ นิดนึงนะพีพี อย่าไปดุน้องนะพีพี” น้ำเสียงต้องยังไง?“ก็ต้องมีประชันเสียงกันหน่อย ตอนแรกที่เห็นหน้าเค้า เราก็กังวล กลัวว่าหน้าตาเราจะไม่เป็นมิตร สักพักเค้ามานั่งรอ ก็เลยลงไปเล่นกับเค้า ก็สนุกดี ตอนเค้าล้มตกใจมาก เพราะมันอันตรายเหมือนกัน ภูมิใจมากน้องไม่ร้องเลย”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่