ตำรวจเร่งคลี่ปมมรณะเศรษฐินีเจ้าของโรงหล่อพระและโต๊ะมุก ถูกยิงดับปริศนาคาบ้านพร้อมเลขาฯสาว ผกก.ชี้มูลเหตุเป็นเรื่องความรัก ความหึงหวง สอบพบทั้งคู่คบหากันแบบผู้หญิง ดูแลกันเป็นพิเศษเกินลูกน้องเจ้านาย สงสัยฝ่ายเลขาฯน่าจะวางแผนเตรียมการ หลังเคยโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ หมดใจ ส่วนจะเป็นปืนลั่นหรือเจตนายิงต้องรอผลพิสูจน์ให้ชัดอีกครั้ง ยืนยันไม่มีบุคคลที่ 3 เกี่ยวข้องกรณีพบศพเศรษฐินีเจ้าของร้านและโรงหล่อพระ-โต๊ะมุก ถูกยิงเสียชีวิตเคียงคู่กับเลขานุการส่วนตัว คาบ้านเขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา สภาพศพทั้งคู่ขึ้นอืด แพทย์ชันสูตรศพคาดว่าเศรษฐินีน่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 วัน ส่วนเลขาฯสาวคนสนิทตายมาประมาณ 5 วัน ในที่เกิดเหตุพบปืน 9 มม.ตกอยู่ และจดหมายที่เลขานุการส่วนตัวเขียนถึงสามีชาวต่างชาติทำพินัยกรรมยกบ้านและทรัพย์สินให้ลูกสาว 2 คน ส่วนอีกฉบับมีใจความว่า “ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กันแล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก” ตำรวจอยู่ระหว่างคลี่ปมปริศนาถึงสาเหตุการเสียชีวิตความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์ศพเศรษฐินีและเลขานุการส่วนตัว รวมถึงผลตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ อาวุธปืนเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ล่าสุดพบว่าปืนเป็นของเลขานุการส่วนตัว ซื้อมาปี 2561 เป็นปืนขนาด 9 มม. กล็อก 19 มีใบอนุญาตถูกต้อง ปลอกที่พบในที่เกิดเหตุมี 1 ปลอก ใกล้ศีรษะเลขานุการส่วนตัว ตอนนี้ส่งไปตรวจว่าเป็นปลอกจากกระบอกเดียวกันหรือไม่ ส่วนเรื่องข้อความในจดหมายที่บอกว่าเอาปืนออกมาเล่นกัน ตำรวจก็ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งต้องพิสูจน์ว่าเป็นการทำปืนลั่นใส่เศรษฐินี หรือว่าเอาออกมาเล่นกันจริงไหม หรือเจตนายิงหรือไม่ ขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ส่วนจดหมายที่เขียนน่าจะเป็นเรื่องของอาการตกใจแล้วมาเขียนพ.ต.อ.กัมปนาทกล่าวว่า ประเด็นลายมือในเอกสารจดหมายที่เขียน ตอนนี้ตรวจสอบกับญาติของเลขานุการส่วนตัวนำเอกสารที่เคยเขียนมาเปรียบเทียบกันว่าใช่หรือไม่ เบื้องต้นตรวจสอบคร่าวๆแล้วใกล้เคียงกัน ส่วนภาพวงจรปิดบริเวณโดยรอบบ้านหลังเกิดเหตุ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายมุม เบื้องต้นไม่มีรถหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาในเขตบ้าน หรือบริเวณใกล้เคียง ในบ้านไม่มีร่องรอยการงัดแงะ หรือคนเข้ามาในบ้าน คาดว่าขณะเกิดเหตุไม่มีใครเข้ามาในบ้าน ไม่มีบุคคลที่ 3 หรือไม่มีพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมว่ามีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง“เท่าที่ได้คุยเบื้องต้นกับเพื่อนของเลขานุการส่วนตัว ทราบว่าเศรษฐินีและเลขานุการส่วนตัว มีพฤติกรรมคบหาเป็นเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน มีการดูแลกันพิเศษเกินกว่าปกติทั่วไป มูลเหตุจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของความรักความหึงหวง แต่ทั้งสองจะมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ยังไม่ทราบ จากวันที่เศรษฐินีเสียชีวิตถึงวันที่พบร่างยังไม่พบว่ามีเข้าออกบ้าน เป็นไปได้ว่าอาจมีการเตรียมการไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้เลขานุการส่วนตัวโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ หมดใจ อีกทั้งลักษณะจดหมายและพินัยกรรมที่เขียนก็เชื่อมโยงกันในลักษณะของชีวิตที่ไม่สมหวัง” ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวและว่าคดีนี้พยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ เหลือแค่รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลตรวจดีเอ็นเออาวุธปืนและปลอกกระสุน ตอนนี้ทยอยเชิญญาติและผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ต้องเคลียร์ให้ครบทุกประเด็น รวมถึงเรื่องบุคคลที่ 3 ก็ยังไม่ตัดทิ้งอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่