เนินทรายมักพบได้ในทะเลทรายทั่วโลก แต่นักวิทยาศาสตร์สงสัยมานานแล้วถึงการก่อตัวเนินทราย เช่น “เนินทรายดาว” (star dune) ในทะเลทรายเอิร์ก เชบบี (Erg Chebbi) ส่วนหนึ่งของทะเลทรายซาฮาราในโมร็อกโก เนินทรายดาวแห่งนี้มีอีกชื่อคือ Lala Lallia หมายถึง “จุดศักดิ์สิทธิ์สูงสุด” ในภาษาของชาวเบอร์เบอร์ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ของแอฟริกาเหนือ ทางตะวันตกของลุ่มแม่น้ำไนล์ เนินทรายแห่งนี้ได้รับการอธิบายว่ารูปร่างคล้ายพีระมิด ก่อตัวสูงถึง 300 เมตร มีแฉกยื่นจากยอดที่อยู่ตรงกลาง ทำให้มีลักษณะคล้ายดาว เมื่อมองจากด้านบน เมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ในอังกฤษ มหาวิทยาลัยอาเบอริสต์วิธ ในเวลส์ เปิดเผยการศึกษาเชิงลึกตรงเนินทรายดาว Lala Lallia หลังทำแผนที่โครงสร้างภายในเนินทราย โดยใช้การสแกนเรดาร์และวิเคราะห์เม็ดทรายที่ฝังลึกอยู่ในเนินทราย การรวบรวมข้อมูลทีละขั้นตอน เริ่มจากเดินข้าม Lala Lallia และหยุดทุกๆครึ่งเมตรเพื่อส่งสัญญาณเรดาร์ทะลุเนินทราย เมื่อคลื่นวิทยุสะท้อนกลับไปยังเสาอากาศของเครื่องรับก็จะสร้างภาพความละเอียดสูง แสดงรูปร่างของชั้นตะกอนต่างๆของเนินทราย ขั้นตอนต่อไปคือเก็บตัวอย่างทรายที่ระดับความลึกต่างๆเพื่อดูว่าทรายสะสมเมื่อใด รวมถึงตรวจดูภายในผลึกควอตซ์และแร่เฟลด์สปาร์หรือแร่ฟันม้าของเม็ดทรายเพื่อวัดการแผ่รังสีที่สะสมมานานนับพันปีในส่วนลึกอันมืดมิดของเนินทราย ทีมยังพบว่ามีกัมมันตภาพรังสีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ในระดับที่ต่ำมาก บางส่วนถูกเก็บไว้ในผลึกแร่ ผลจากการใช้เรดาร์เจาะทะลุเนินทรายและหาอายุเรืองแสงเพื่อดูว่า Lala Lallia ก่อตัวนานแค่ไหน พบคำตอบว่ามีอายุราว 900 ปี สะสมประมาณ 6.4 ล้านกิโลกรัมต่อปี เนื่องจากลมพัดทรายผ่านทะเลทรายไม่หยุดยั้ง.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่