ชื่อหนังสือ อาหารไทย มาจากไหน? (สำนักพิมพ์นาตาแฮก พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2560) สุจิตต์ วงษ์เทศ เขียนให้ความรู้ ให้อารมณ์อิ่มอร่อย...แต่เมื่อถึงเรื่องที่ 3 เน่าแล้วอร่อย จะยังอร่อยต่อไป หรือเปล่า?สุจิตต์บรรยายว่า ศพเน่าคือส่วนที่เป็นเนื้อหนังหุ้มกระดูกของคนตาย เน่าเปื่อยตามธรรมชาติเมื่อผ่านไปหลายวัน ต่อจากนั้นลอกเนื้อหนังเน่าเปื่อยออก เอากระดูกล้างน้ำ แล้วสาดน้ำล้างกระดูกขึ้นหลังคาเรือน ขับไล่ผีร้ายเอากระดูกไปทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง เรียกพิธีทำศพครั้งที่สอง เช่นใส่หม้อไห แล้วฝังอีกครั้งหนึ่งหัวข้อ คนกินศพเน่า สุจิตต์ เล่านิทานที่อ่านจากหนังสือชาวเขาในไทย ของบุญช่วย ศรีสวัสดิ์ ให้ฟังสองเรื่องเรื่องแรก กบบรรพชนของคน...เริ่มต้นว่า กบยักษ์สองตัวผัวเมีย ผัวชื่อยาถำ เมียชื่อยาไถ่ ปกติก็จับสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร ไม่มีบุตรด้วยกัน ต่อมาก็ย้ายมาอยู่ในถ้ำทางใต้ของหนองน้ำวันหนึ่ง ยาถำจับมนุษย์มาได้คนหนึ่ง แบ่งกันกินกับยาไถ่ อิ่มหนำแล้วก็แขวนกะโหลกบูชาบนเสากลางบ้านไม่นานยาไถ่ก็ตั้งครรภ์ คลอดบุตรเป็นชาย 9 คน หญิง 9 คน แม้มีลูกเป็นมนุษย์แล้ว สองผัวเมียก็ยังติดใจรสเนื้อมนุษย์ จับมากินเป็นอาหารต่อเป็นปกติฝ่ายบุตรชายหญิงต่างก็แยกย้ายไปแต่งงาน มีบุตรหลานมากมาย อยู่ในหุบเขา 9 แห่ง วันหนึ่ง ยาถำยาไถ่เผลอไปจับหลานตัวเองมากินบุตรชายทั้ง 9 ต้องหันหน้าเข้ามาหารือกัน และตกลงกันว่า บิดามารดาแก่ชรามากแล้ว หูตาก็มืดมัว ทั้งยังเป็นสัตว์น่ากลัวกินเนื้อมนุษย์ไม่เลือกว่าเป็นลูกเป็นหลาน ขืนปล่อยไว้ต่อไป ก็คงจะมาจับพวกตัวเองกินคิดตรงกัน ดังนั้น 9 บุตรชายก็ช่วยกันจับบิดามารดามาฆ่ากินนับแต่นั้นก็เกิดธรรมเนียมฆ่าบิดามารดากิน เพิ่งมาเลิกกันไปเมื่อราว 300 ปีที่แล้วเพื่อเป็นที่ระลึกว่า มีต้นตระกูลเป็นกบ พวกมนุษย์จึงเอาโลหะมาหล่อเป็นรูปกลองทองเหลืองกลมๆ มีรูปกบเกาะริมกลอง ใช้ตีเวลามีงานพิธีกลองชนิดนี้ พวกกะเหรี่ยงพวกข่าในลาวก็ใช้ พม่าเรียกว่า กลองปะชีส่วนไทยเราเรียกว่า กลองมโหระทึกนอกจากหล่อรูปกบไว้บนกลอง ยังทำรูปกบไว้บูชาบนแท่นบูชาในบ้าน วันขึ้นปีใหม่ก็จะมีการแห่รูปกบไปปล่อยลงแม่น้ำหรือลำธารเรื่องที่ 2 พวกละว้าร้าย หรือว้าป่าเถื่อน ยังบูชาผีไร่ด้วยศีรษะมนุษย์เป็นประจำทุกปีเรื่องเดิมมีว่า หัวหน้าละว้าไปซื้อพันธุ์ข้าวจากชาวจีนฮ่อ แต่เมื่อเอามาปลูกแล้วปลูกไม่ขึ้น ก็โกรธว่าจีนฮ่อเอาข้าวลวกน้ำร้อนมาขายให้ จึงใช้ลูกน้องไปซื้อพันธุ์ข้าวจากจีนฮ่อคนนั้นอีก ได้พันธุ์ข้าวแล้วก็ตัดหัวจีนฮ่อมาด้วยระหว่างเดินทาง เลือดและหนองหัวจีนฮ่อไหลมานองพันธุ์ข้าว พอเอาไปปลูกแล้วได้ข้าวงอกงามผิดธรรมดา นับแต่นั้นพวกละว้าร้ายก็ถือเป็นธรรมเนียม ล่าหัวมนุษย์มาบูชาผีไร่บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ บันทึกว่า ก่อนลงมือเฮ็ดไฮ่ คือปลูกข้าวไร่หยอดหลุมก่อนเก็บเกี่ยว พวกละว้าร้ายจะพูดกันว่า “ไปหาหัวฮ้า” ฮ้าคือร้า หรือของบูดเน่า ของหมักดองนี่คือร่องรอยที่มาจากเรื่องคนกินศพเน่า ที่เชื่อว่าเป็นต้นตอของอาหารประเภทเน่าแล้วอร่อย ปลาร้า ปลาแดกที่คนสมัยใหม่กินแล้วบอกต่อๆกันว่า แซ่บอีหลีหลับตามโนถึงรสชาติส้มตำปลาร้านั่นแล ต้นแบบเน่าอร่อย ของแท้ที่วันนี้ก็ยังมี.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม