ผศ.อรดี พฤติศรัณยนนท์ รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ และ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบ อัตโนมัติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ทุกๆปีจะเห็นข่าวการเสียชีวิตของเด็กจากการติดอยู่ในรถ จึงได้คิดค้นงานวิจัยเกี่ยวกับระบบการแจ้งเตือน และช่วยเหลือเด็กติดในรถเพื่อลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น เบื้องต้นได้มีการสร้างระบบ AI & IoT ซึ่ง เป็นระบบตรวจจับและแจ้งเตือน โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมในการตรวจจับบุคคล เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถรับ-ส่งนักเรียน และได้มีการทดลองระบบเรียบร้อยแล้ว“หลักการทำงาน หาก AI ตรวจพบว่ามีบุคคล ในรถหลังจากที่รถดับเครื่อง ประตูห้องโดยสารปิด และประตูคนขับรถปิด ระบบจะมีการส่งข้อความและภาพผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อแจ้งเตือนไปยังคนขับรถและผู้ปกครองเด็ก หลังจากนั้นจะมีไซเรนดังขึ้น และกระจกประตูรถฝั่งคนขับจะเลื่อนลง ซึ่งการจะวางระบบทั้งหมดได้นั้น ต้องได้รับความยินยอมจากโรงเรียน เจ้าของรถ เพราะจะต้องมีการติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ต่างๆด้วย” ผศ.อรดี กล่าวและว่าหากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดดเป็นเวลา 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนเด็กจะไม่สามารถทนอยู่ได้ และเมื่อผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะยิ่งแย่ จนกระทั่งผ่านไป 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวม จากนั้นอาจหยุดหายใจและอาจเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้น หากช่วยเด็กได้ภายใน 30 นาทีแรกก็จะทำให้ลดอัตราการเสียชีวิตจากการหลงลืมเด็กไว้ในรถได้ ทุกโรงเรียนควรจะมีการติดตั้งระบบการตรวจจับและแจ้งเตือน เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถรับ-ส่งนักเรียน รถตู้โรงเรียน รถที่ติดตั้งจะมีการผูกกับสัญญาณ wifi หรือแชร์อินเตอร์เน็ตจากมือถือ ซึ่งราคาไม่แพง.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่