โฆษกกระทรวงคมนาคมเผยต้นเหตุถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางต่างระดับพระราม 2 ย่านบางบอน ทรุดตัวเกิดจากเจ้าหน้าที่การประปานครหลวงสะเพร่าสำรวจชั้นดินไม่รอบคอบ ขุดไปแล้วกลายเป็นดินทรายไม่ใช่ดินเหนียว ทำให้ทรายและน้ำไหลลงไปในอุโมงค์จนพื้นถนนยุบตัว ส่งผลให้การจราจรติดวินาศสันตะโร สั่งเร่งซ่อมแซมถนนด่วนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจร และกำชับการประปาฯถึงการขุดเจาะอุโมงค์ส่งน้ำตามโครงการต่อจากนี้จะต้องไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกจากกรณีถนนกาญจนาภิเษก ช่วงหน้าปั๊มน้ำมันซัสโก้ ใกล้ทางต่างระดับพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าพระราม2 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กทม. เกิดทรุดตัวลึกลงไปประมาณ 60 ซม.คล้ายแอ่งกระทะ ระยะทางประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรถนนคู่ขนานทั้งหมด เหลือทางให้รถยนต์วิ่งได้ในช่องทางด่วนเพียงเลนเดียว ส่งผลทำให้รถติดสะสมยาวเหยียด ต้นเหตุเกิดจากการประปานครหลวงขุดเจาะวางท่ออุโมงค์ประปาส่งน้ำขนาด 3 เมตร ลึกลงไป 25เมตร ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ม.ค. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่เริ่มมาซ่อมแซมถนนนำยางมะตอยราด ขณะที่การจราจรยังคงติดขัดอย่างหนักรถสะสมยาวเหยียด ถึงท้ายแถวระยะทางยาวประมาณ 2 กม. เจ้าหน้าที่ปิดช่องทางคู่ขนานไม่ให้รถผ่านระยะทางประมาณ 1 กม. จุดที่ถนนทรุดตัวมีทั้งหมด 4 เลนเป็นช่องทางคู่ขนาน 2 เลน และช่องทางด่วน 2 เลนเจ้าหน้าที่จัดการจราจรให้รถวิ่งได้ช่องทางด่วนด้านขวาสุด 2 เลนถนนทรุดตัวเป็นระยะทาง 33 เมตร ความลึก1.26เมตรจากการสอบถามนายพงศพล กองเพชร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนถนนทรุดตนสังเกตพบความผิดปกติตั้งแต่เวลา 13.30 น. เห็นศาลารอรถโดยสารเริ่มเอียง พอไปดูพื้นถนนพบว่าเริ่มทรุดจนกระทั่ง 16.00น. เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและกั้นแบริเออร์ ตนอยู่บริเวณนี้มาหลายสิบปีแล้วไม่เคยเห็นถนนมีปัญหาแต่อย่างใดต่อมานายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุรับฟังข้อมูลและการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งพาสื่อมวลชนไปดูพื้นที่เจาะอุโมงค์ นายกฤชนนท์กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สาเหตุถนนยุบตัวเกิดจากการประปานครหลวงขุดอุโมงค์ส่งน้ำ ตามโครงการก่อสร้างของการประปานครหลวง ระยะแรกขุดยาวในจุดถนนกาญจนาภิเษกไปยังถนนกัลปพฤกษ์ ระยะทาง 1.3 กม. ความลึกราว 30 เมตร เทียบเท่ากับตึกความสูงกว่า 10 ชั้น ระหว่างการขุดตอนแรกไม่มีปัญหา แต่หลังจากวันหยุดปีใหม่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ขุดเจอชั้นทราย ทำให้ทรายไหลลงมากองอยู่ในอุโมงค์ ส่งผลให้ถนนยุบตัวลงราว 60 ซม. วันที่ 5 ม.ค. จำเป็นต้องปิดถนนทางคู่ขนาน ทำให้การจราจรติดขัดตั้งแต่ 4 โมงเย็นของเมื่อวานจนถึงวันนี้ เบื้องต้นจากรายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หากผู้ใดได้รับความเดือดร้อนจากกรณีถนนยุบสามารถติดต่อไปได้ที่การประปานครหลวง พร้อมยินดีรับผิดชอบและเยียวยาชดใช้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโฆษกกระทรวงคมนาคมกล่าวต่อว่า สอบถามเจ้าหน้าที่ประปานครหลวงว่า จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำได้ข้อมูลว่า หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบชั้นหน้าดินใหม่ทั้งหมด ก่อนดำเนินการขุดต่อเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แนวทางการแก้ไขปัญหาถนนที่ทรุดจะเร่งฟื้นฟูแบบชั่วคราวให้เสร็จภายในวันที่ 6 ม.ค. รีบเปิดการจราจรช่วงเวลา 17.00 น.ทันที ให้พี่น้องประชาชนใช้ถนนได้เป็นปกติ พร้อมทั้งสำรวจปรับปรุงถนนให้ใช้ได้อย่างถาวร โดยวางแผนการซ่อมแซมถนนไม่ให้กระทบการจราจร เบื้องต้นจะซ่อมแซมช่วงเวลากลางคืนปิดถนน 4 ชม.ต่อวัน จากการสำรวจแผนผังขณะนี้ชั้นดินยังปกติ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากการสำรวจไม่ถี่ถ้วนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ได้เน้นย้ำไปแล้วว่าหลังจากนี้ให้สำรวจถี่ถ้วนแม่นยำมากขึ้น จุดชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุตอนแรกพบว่าเป็นดินเหนียว แต่เมื่อขุดเสร็จกลับเป็นดินทราย ทำให้ทรายกับน้ำไหลไปกองอยู่ในอุโมงค์ดังกล่าว แนวทางแก้ไขมีเทคนิคจัดการอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการประเมินหน้างานที่ผิดพลาดเอง ทางกระทรวงคมนาคมไม่ได้นิ่งนอนใจจะทำหนังสือไปถึงการประปานครหลวงด้วยว่า ต้องตรวจสอบให้แน่ใจและมั่นใจว่าการขุดเจาะหลังจากนี้จะไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกด้านนายนพทัศน์ มาลีรักษ์ ผอ.ฝ่ายโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก การประปานครหลวง กล่าวว่า ขั้นตอนของการแก้ไขปัญหาจุดที่พบว่าเป็นดินทราย เรามีมาตรการในการขุดเจาะอุโมงค์ไม่ว่าเป็นดินเหนียวหรือดินทรายที่เป็นปัญหานั้น เราจะยิงน้ำปูนไปเคลือบอุดโพรงไม่ให้เกิดรอยรั่ว มีผู้ควบคุมงานคอยมอนิเตอร์อยู่ด้านล่าง จากภาพเครื่องที่มอนิเตอร์อยู่พบว่าตอนนี้สภาพดินคงที่แล้ว จากนี้จะเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที พร้อมทั้งจะเน้นย้ำต้องตรวจสอบทุกวัน เพื่อป้องกันสภาพชั้นดินที่อาจจะเกิดแปรปรวนสำหรับโครงการก่อสร้างของการประปานครหลวง เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2564 มีกรอบระยะเวลาในการก่อสร้างถึงปี 2569 ตามสัญญา 15 กม. ตั้งแต่ถนนกัลปพฤกษ์ไปจนถึงบริเวณซอยประชาอุทิศ การขุดเจาะระยะแรก 1.3 กม. บนถนนกาญจนาภิเษก เสร็จสิ้นแล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนี้จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ต้องขุดเจาะไปอีก 1.3 กม. ไปถึงถนนกัลปพฤกษ์ต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่